เมียปล่อยโฮ ผัวหลอกให้หย่า แถมหลอกเงิน 25 ล้าน เพิ่งรู้แต่งเมียใหม่-ทำบริษัทด้วยกัน

          สาวปล่อยโฮ เจอสามีบอกให้หย่า อ้างเรื่องธุรกิจ แถมให้ลงทุน 25 ล้าน ก่อนมารู้เป็นเอกสารปลอม แถมผัวมีโลกอีกใบ ไปแต่งงาน-ทำบริษัทกับผู้หญิงอีกคน


          จากกรณีผู้หญิงคนหนึ่งร้อง "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" ระบุว่าตนเองมีสามี คบหากันมานาน 17 ปี แต่ถูกสามีหลอกให้หย่า โดยให้เหตุผลว่าจะไปทำธุรกิจ แต่ยังเป็นผัวเมียเหมือนเดิม หลังหย่าถึงทราบว่าสามีมีโลกอีกใบ หนีไปจดทะเบียนกับคนใหม่ แถมหลอกเงินไป 25 ล้านบาท มีเรื่องราวที่น่าตกใจกว่านั้น เข้าขั้นอำมหิต !

          ล่าสุดรายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ดำเนินรายการโดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ คุณฟ้า (นามสมมติ) ผู้เสียหาย , คุณสุ น้องสาวคุณฟ้า ร่วมลงทุนด้วย 12 ล้าน , ยุ้ย พี่สะใภ้คุณฟ้า ถูกหลอกให้ลงทุน 11 ล้าน มาพร้อมทนายเจมส์


          - คุณฟ้า ผู้เสียหายเล่าว่า ตนทำธุรกิจสวนทุเรียน แต่งงานอยู่กินกับสามีมาร่วม 17 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 14 คนเล็ก 9 ขวบ เพิ่งรู้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ว่าเขามีโลกอีกใบ แอบไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น

          - เมื่อปี 2557 ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก่อนสามีมาขอหย่าในปี 2558 ช่วงที่ตนตั้งท้อง 2 เดือน โดยอ้างว่าไปทำธุรกิจรับเหมา กลัวว่าถ้ามีทะเบียนสมรสแล้วมีปัญหาอะไรขึ้นมา ภรรยากับลูกจะมีปัญหาไปด้วย ตนหลงเชื่อจึงไปหย่าให้


          - มารู้ทีหลังว่าเขาแอบไปแต่งงานใหม่กับผู้หญิงอีกคนเมื่อปี 2559 จัดงานในโรงแรมเป็นเรื่องเป็นราว จดทะเบียนสมรสกับโลกอีกใบ ทั้งที่ตอนนั้นก็ยังอยู่กินฉันสามีภรรยากับตน มีลูกด้วยกัน ไม่มีพิรุธอะไร

          - ตนเองอยู่โคราช สามีอยู่กรุงเทพฯ ปกติเขาจะไป ๆ มา ๆ ตนได้ซื้อบ้านที่กรุงเทพฯ 1 หลัง ให้สามีอยู่ เป็นชื่อของตน ต่อมาเขาบอกว่ามีปัญหากับคนมีอิทธิพล บ้านที่อยู่ไม่ปลอดภัย สั่งไม่ให้ตนไปหาที่บ้าน ตัวเขาก็จะไม่อยู่ แต่มารู้ทีหลังว่าเขาให้เมียใหม่เข้ามาอยู่


          - เรื่องหลอกเงิน สามีบอกว่า หจก. แห่งหนึ่งมาทำธุรกิจ ต้องใช้เงินไปค้ำประกันกับธนาคาร มีเอกสารปลอมจากธนาคารมาหลอกจนเราเชื่อ และชวนพี่น้องมาร่วมลงทุนด้วย ตนลงไป 2.5 ล้าน พี่สะใภ้ 11 ล้าน น้องเขย 12 ล้าน

          - สามีนำเอกสารปลอมมาให้ดูว่าตนมีชื่อใน หจก. ดังกล่าว พอเห็นว่าเป็นธุรกิจของเราจริง ๆ ก็ยิ่งลงทุนเพิ่ม เขาบอกต้องมีเงินไปแช่ในบัญชีธนาคาร 105 ล้านบาท 3 ปี เป็นหลักค้ำประกันกับธนาคาร เพื่อจะส่งออกทุเรียนไปขายต่างประเทศได้


          - พอครบ 3 ปี ไปถามจะขอเอาเงินออก สามีกลับบ่ายเบี่ยง บอกว่าติดโน่นนี่ จนไม่ได้คืน เขาก็พาไปดูที่ต่าง ๆ อ้างว่าจุดนี้คือบริษัท จุดนี้คือหน้างาน แต่ตนเองเห็นว่ามันแปลก ๆ จึงย้อนกลับมาถาม รปก. เขาบอกไม่เคยมีบริษัทเกี่ยวกับทำระบบไฟฟ้าประปา ไม่เห็นมีการซ่อมอะไร

          - ตนขอสามีกลับไปบ้านเดิมอีกรอบ จนเจอหลักฐานหลายอย่าง เช่น กระเป๋าเดินทางเป็นชื่อผู้หญิงอีกคน ไปญี่ปุ่นไฟลต์เดียวกับที่สามีพาตนกับลูกไปเที่ยว ทริปนั้นสามีบอกทำธุรกิจได้เงินมา พาภรรยากับลูก และครอบครัวภรรยาไปเที่ยวด้วย เขาอยู่ด้วยกัน 2 วัน ก่อนอ้างจะต้องไปทำงานต่อ ให้เรากลับก่อน มารู้ทีหลังว่าเขาคงแยกไปเที่ยวกับอีกคน


          - ไปเจอเอกสารอีกบริษัท มีชื่อสามีและผู้หญิงอีกคนอยู่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ จึง โทร. ไปสอบถาม เป็นเสียงผู้หญิงคนนั้น บอกว่าเป็นเจ้าของบริษัท แต่ไม่ได้บอกความสัมพันธ์ว่าเป็นอะไรกับสามีตน

          - ตนเริ่มรู้สึกแปลก ๆ เกี่ยวกับเงินลงทุนใน หจก. จึงไปขอคัดเอกสารเกี่ยวกับรายชื่อเจ้าของ กรรมการ แต่พบว่าไม่มีชื่อของตนเองอยู่เลยสักตำแหน่ง โดยหลังจากตนเองรู้ความจริงในวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สามีก็หายสาบสูญ ไม่เคยติดต่อมาชี้แจงหรืออธิบายอะไร


          - รู้สึกเสียใจมากที่ถูกหักหลังและนอกใจ สามีที่ไว้ใจและเป็นพ่อของลูก คบกันมา 17 ปี มาทำแบบนี้ อยากให้เขามาพูดคุย มาเคลียร์กัน อธิบายว่าคืออะไร และอยากได้เงินคืน 25.5 ล้านบาท เพราะเป็นเงินที่ญาติพี่น้องร่วมกันลงทุนมา ฝากถึงสามีว่า อยากให้กล้าทำแล้วกล้ารับ คิดถึงหน้าลูกบ้าง

          - คุณฟ้ามาร้องกับทนายเจมส์ พบว่าเรื่องนี้มีความผิดหลายข้อ ทางทนายบอกว่าคดีแบบนี้ไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะ แค่ฝากเตือนอีกฝ่ายว่า "สู้ติดแน่ แพ้ติดนาน" ฝ่ายสามีบอกจะไปเอาทนายมาสู้ ก็ลองดู แต่แนะนำว่าทำอะไรคิดถึงหน้าลูกตัวเองบ้าง เอาเงินมาคืนเขา ดีกว่าจะสู้กันในศาล เพราะหลักฐานต่าง ๆ ชัดเจนหมดแล้ว