อ.เจษฎา เฉลย ทำไมกดรีโมตรถยนต์ที่หัว กลับล็อกรถได้ไกลขึ้น ร่างกายเรามีอะไรพิเศษ

          ไขปริศนา กดรีโมตเปิดประตูรถจากชั้นบนคอนโด เพียงแค่เอาไว้บนหัวก็กดได้ฉลุย อาจารย์เจษฎาเฉลยแล้ว ทำไมถึงทำแบบนี้ได้ ถ้าเอาไว้ตรงอื่นทำไม่สำเร็จ


          จากกรณีที่มีผู้ใช้ TikTok @tarlongdoo ลงคลิปการทดสอบการกดรีโมตเปิด-ปิดประตูรถยนต์ระยะไกลจากชั้นบนของคอนโด โดยที่เอารีโมตมาไว้ใต้คางหรือไว้เหนือศีรษะ ผลปรากฏว่า สามารถกดเปิดปิดประตูได้ตามปกติ และเห็นไฟเตือนจากด้านล่างอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน เมื่อเอารีโมตไว้ตำแหน่งอื่น กลับกดไม่ติด

          ทั้งนี้ เจ้าของคลิประบุว่า วิธีดังกล่าวอย่างน้อยก็ช่วยประหยัดเวลา ทำให้เราไม่ต้องลงไปที่คอนโดชั้นล่าง เพื่อเช็กดูว่า รถเราล็อกประตูหรือยัง ซึ่งปกติแล้วระยะการกดรีโมตสูงสุดจะอยู่ที่ 10 เมตร ถ้าเอามาไว้ที่ศีรษะหรือใต้คางจะเพิ่มระยะได้ถึง 50 เมตร


          วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ของนายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการโพสต์เรื่องถึงดังกล่าวว่า การเพิ่มระยะรีโมตด้วยการกดจิ้มหัว เป็นเรื่องจริง และผมก็เคยลองทำมาแล้ว ได้ผลชัดเจน หรือถ้าไม่อยากจิ้มรีโมตที่หัว ก็จิ้มรีโมตกับขวดน้ำได้

          สำหรับหลักการเรื่องนี้ หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องของความสูงพื้นดิน ยิ่งสูงยิ่่งส่งสัญญาณดี แต่ความจริงไม่ใช่ ยิ่งเอารีโมตไว้สูง ก็ยังกดไม่สำเร็จ พอเปลี่ยนตำแหน่งเอาไว้บนศีรษะ กลับส่งสัญญาณถึง แสดงว่า ศีรษะของคน สามารถทำตัวเป็นเหมือนตัวขยายสัญญาณคลื่นวิทยุจากรีโมตรถยนต์ได้


          โดยทั่วไปแล้ว ความถี่ (frequency) ของสัญญาณวิทยุ (RF radio frequency) ของรีโมตรถยนต์ จะอยู่ที่ 315 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ดังนั้น ถ้าคำนวณหาความยาวคลื่น (wavelength) ของมันตามสูตร ก็จะเท่ากับ 0.95 เมตร หรือประมาณ 1 เมตร

          ซึ่งขนาดของ "เสาอากาศ (antenna)" ที่มีประสิทธิภาพในการรับส่งคลื่นวิทยุ จะอยู่ประมาณ "ความยาวคลื่น หารด้วย 2 " หรือประมาณ 0.5 เมตร ... จะเห็นว่า อยู่ในช่วงที่ร่างกายของเรา มีความสูง (ยาว) เพียงพอที่จะทำตัวเป็นเสาอากาศที่มีประสิทธิภาพได้


          ประเด็นสำคัญคือ ร่างกายของเรานั้นมีส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็น "น้ำ" ซึ่งมีแร่ธาตุผสมอยู่ มีความเป็นอิเล็กโทรไลต์ (สารละลายที่นำไฟฟ้าได้) จึงทำให้ร่างกายของเราสามารถ "คู่ควบ (couple)" กับแหล่งกำเนิดคลื่นวิทยุได้

          และการที่ศีรษะของเรา (รวมถึง ทรวงอก ด้วย) มีสภาพเป็น "ช่องว่าง (cavity)" ซึ่งคำว่าช่องว่างนี้ ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่มีอะไรอยู่เลย แต่ให้เป็นบริเวณที่สามารถสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปมาได้ ... ศีรษะของเรา แม้ว่าจะมีสมองอยู่ข้างใน (หรือหน้าอก ที่มีปอด-หัวใจ) จึงสามารถทำตัวเหมือนเป็น "ห้องสร้างการกำทอนของเสียง (resonance chamber)" ได้


          ทำให้คลื่นวิทยุจากรีโมตรถยนต์นั้นถูกขยาย (amplify) เพิ่มขนาด (amplitude) ขึ้น หรืออาจพูดได้ว่า ร่างกายของเราได้ทำตัวคล้ายกับอุปกรณ์ "ไดอิเล็กตริก เรโซเนเตอร์ (dielectric resonator) ซึ่งทำจากเซรามิก ทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนคลื่นวิทยุ ที่ถูกกักขังอยู่ในวัสดุเรโซเนเตอร์นี้ ให้กระเด้งไป-มา และทำให้เกิด "ความถี่กำทอน  (resonant frequency)" ที่ถูกขยายขนาดขึ้นนั่นเอง