เจ้าของรถกลุ้ม ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง จอดรถตากฝนหน้าบ้านไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แบตเตอรี่พัง เสียค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้าน
เจ้าของโพสต์ระบุว่า ขอแจ้งเตือนให้ข้อมูลเพื่อนำความปราถนาดีต่อผู้บริโภคด้วยกัน แค่จอดรถหน้าบ้าน ขณะฝนตก สัก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคา ค่าซ่อม เปลี่ยนแบตเตอร์รี่รวมอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา บอกมาเกือบ ๆ 1.1 ล้าน ตอนนี้ยังจอดสนิทอยู่โชว์รูม เป็นซากรถ มา เกือบ ๆ 30 วันแล้ว ดิฉันยังไม่ไดรับการติดต่อ หรือให้การบริการรถสำรอง เยียวยา ใด ๆ ทั้งสิ้นจากตัวแทนและโชว์รูม หรือจากประกันชั้นหนึ่งเลย
ความเสียหายที่ถือเป็นบทเรียนในการซื้อรถครั้งนี้ ทำได้ตอนนี้คือแจ้งความ กับแจ้ง สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการ เรียกร้อง ค่าเสียหาย และออกสื่อต่อไปค่ะ ทุก ๆ ทาง
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้สร้างความตกใจให้กับหลายคนไม่น้อย โดยเฉพาะค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่แพงถึงหลักล้าน แม้เคสนี้ดูเหมือนว่าประกันจะซัพพอร์ตก็ตาม ขณะที่บางส่วนก็ไม่อยากเชื่อว่ารถจะเสียกับการแค่จอดรถตากฝนแล้วมีน้ำท่วมเล็กน้อยเช่นนี้ อาจจะมีปัจจัยอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เป็นต้น
ตนจึงเรียกประกันเข้ามารับรถเพื่อทำเคลมทันที โดยทางโชว์รูมประเมินราคาซ่อมทั้งหมดอยู่ที่ 7.5 แสน และรายการอื่น ๆ เช่น ยางหุ้มสายไฟชาร์ตแบตฯ ค่าชุดบำรุงรักษาตัวควบคุมมอเตอร์ไดรฟ์ ชุดสายไฟจ่ายไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ รวมเบ็ดเสร็จประมาณ 1.1 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่รถดับคือ แบตชื้น ต้องเปลี่ยนเท่านั้น
แต่ปรากฏว่าประกันสามารถจ่ายได้เพียงประมาณ 8-9 แสน ทั้งที่จริง ๆ แล้วทำวงเงินไว้ 1.4 ล้าน พอคุยกับประกันถึงขั้นร้องไห้โฮ ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านไปเกือบเดือนแล้วยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่รถได้ถอดอุปกรณ์รอซ่อมแล้ว
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว เนื่องจากได้จ่ายค่าดาวน์รถไปกว่า 5 แสนบาท และเพิ่งออกรถมาช่วงเดือนธันวาคม 2565 เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนอย่างมาก มองว่ารถไม่ตรงปก เพราะมีการโฆษณาว่าแบตมีการซีลอย่างดี น้ำไม่เข้า ตอนนั้นจึงตัดสินใจซื้อ ล่าสุดได้ตั้งทนายความ และร้องไปทาง สคบ. ซึ่งมีการนัดเข้าไปพูดคุยวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายนนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว