x close

เจ้าของกลุ้ม รถไฟฟ้าป้ายแดงจอดตากฝนหน้าบ้าน แบตฯ พัง เจอค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้าน

 
            เจ้าของรถกลุ้ม ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าป้ายแดง จอดรถตากฝนหน้าบ้านไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แบตเตอรี่พัง เสียค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้าน




            วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค แชร์ประสบการณ์ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่ง แต่รถกลับเสียหลังจอดรถไว้หน้าบ้านขณะฝนตกราว 15-20 นาที เมื่อเข้าไปตรวจเช็กที่ศูนย์พบว่าแบตเตอรี่พัง ต้องเสียค่าใช้จ่ายกว่า 1.1 ล้านบาท

            เจ้าของโพสต์ระบุว่า ขอแจ้งเตือนให้ข้อมูลเพื่อนำความปราถนาดีต่อผู้บริโภคด้วยกัน แค่จอดรถหน้าบ้าน ขณะฝนตก สัก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคา ค่าซ่อม เปลี่ยนแบตเตอร์รี่รวมอื่น ๆ ต่าง ๆ นานา บอกมาเกือบ ๆ 1.1 ล้าน ตอนนี้ยังจอดสนิทอยู่โชว์รูม เป็นซากรถ มา เกือบ ๆ 30 วันแล้ว ดิฉันยังไม่ไดรับการติดต่อ หรือให้การบริการรถสำรอง เยียวยา ใด ๆ ทั้งสิ้นจากตัวแทนและโชว์รูม หรือจากประกันชั้นหนึ่งเลย

            ความเสียหายที่ถือเป็นบทเรียนในการซื้อรถครั้งนี้ ทำได้ตอนนี้คือแจ้งความ กับแจ้ง สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการ เรียกร้อง ค่าเสียหาย และออกสื่อต่อไปค่ะ ทุก ๆ ทาง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

            โดยเจ้าตัวเผยอีกว่า รถดับสนิทหลังจากขับรถออกตัวไปราว 1 กิโลเมตร ที่เศร้าคือประกันภัยชั้น 1 บอกว่าไม่สามารถเคลมค่าเดินทางได้ เพราะไม่มีคู่กรณี ส่วนโชว์รูมบอกว่าไม่มีรถสำรอง  ทุกข์ใจมาก ต้องนำเงินสำรองค่าเทอม มาจ่ายเป็นค่าแท็กซี่เดินทางไปทำงานเกือบ 1 เดือน รวม ๆ ก็ 10,000 กว่าบาทแล้ว

            หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้สร้างความตกใจให้กับหลายคนไม่น้อย โดยเฉพาะค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่แพงถึงหลักล้าน แม้เคสนี้ดูเหมือนว่าประกันจะซัพพอร์ตก็ตาม ขณะที่บางส่วนก็ไม่อยากเชื่อว่ารถจะเสียกับการแค่จอดรถตากฝนแล้วมีน้ำท่วมเล็กน้อยเช่นนี้ อาจจะมีปัจจัยอื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เป็นต้น






             ล่าสุด (8 มิถุนายน) เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว  รายงานว่า จากการพูดคุยกับเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เล่าว่า ช่วงบ่ายวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนนั่งประชุมวิดีโอคอลอยู่บนบ้าน ตอนนั้นจอดรถไว้หน้าบ้าน ระหว่างประชุมมีฝนตกลงมาประมาณ 15-20 นาที ขณะนั้นตนไม่ได้คิดด้วยว่าฝนตก ถ้ารถโดนน้ำแล้วแบตจะมีปัญหา เมื่อเสร็จงานจึงเดินลงมาดูก็เห็นว่าน้ำปริ่มล้อรถ จึงรีบย้ายรถขึ้นที่สูงและรอให้ฝนหยุดตก เมื่อสตาร์ตรถดูตอนนั้นก็เห็นแบตแจ้งว่าเหลือ 70% ก็ขับออกไปรับลูกที่โรงเรียน แต่ขับไปได้ประมาณ 1 กิโลเมตร ปรากฏว่ารถดับ และขึ้นแจ้งให้ติดต่อศูนย์บริการ

             ตนจึงเรียกประกันเข้ามารับรถเพื่อทำเคลมทันที โดยทางโชว์รูมประเมินราคาซ่อมทั้งหมดอยู่ที่ 7.5 แสน และรายการอื่น ๆ เช่น ยางหุ้มสายไฟชาร์ตแบตฯ ค่าชุดบำรุงรักษาตัวควบคุมมอเตอร์ไดรฟ์ ชุดสายไฟจ่ายไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ รวมเบ็ดเสร็จประมาณ 1.1 ล้านบาท ส่วนสาเหตุที่รถดับคือ แบตชื้น ต้องเปลี่ยนเท่านั้น

             แต่ปรากฏว่าประกันสามารถจ่ายได้เพียงประมาณ 8-9 แสน ทั้งที่จริง ๆ แล้วทำวงเงินไว้ 1.4 ล้าน  พอคุยกับประกันถึงขั้นร้องไห้โฮ ขณะนี้เหตุการณ์ผ่านไปเกือบเดือนแล้วยังหาข้อสรุปไม่ได้ แต่รถได้ถอดอุปกรณ์รอซ่อมแล้ว

             ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เพราะไม่เหลืออะไรแล้ว เนื่องจากได้จ่ายค่าดาวน์รถไปกว่า 5 แสนบาท และเพิ่งออกรถมาช่วงเดือนธันวาคม 2565 เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนอย่างมาก มองว่ารถไม่ตรงปก เพราะมีการโฆษณาว่าแบตมีการซีลอย่างดี น้ำไม่เข้า ตอนนั้นจึงตัดสินใจซื้อ ล่าสุดได้ตั้งทนายความ และร้องไปทาง สคบ. ซึ่งมีการนัดเข้าไปพูดคุยวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายนนี้

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง

รถยนต์ไฟฟ้าแบตพัง


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของกลุ้ม รถไฟฟ้าป้ายแดงจอดตากฝนหน้าบ้าน แบตฯ พัง เจอค่าซ่อมเกือบ 1.1 ล้าน อัปเดตล่าสุด 9 มิถุนายน 2567 เวลา 09:10:45 21,513 อ่าน
TOP