อดีตแม่ยายสร้างตำนาน พาลูกเขยไปสู่ขอเมียใหม่แต่งงาน ชื่นชมเป็นคนดี ขยันทำงาน ไม่เคยดุด่าหรือทำร้ายลูกสาว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจไม่น้อย กับพิธีแห่ขันหมากของหนุ่มรายหนึ่งซึ่งถูกระบุว่า เป็นประวัติศาสตร์แห่ง อ.นายูง จ.อุดรธานี แม่เฒ่าเก่าใจป้ำ แถมยังใจดี พาลูกเขยเก่าไปสู่ขอเมียใหม่ มีหนึ่งในล้านก็ว่าได้
เหตุการณ์ในงานวิวาห์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 สร้างความสนุกสนานและยินดีกันทั้งหมู่บ้าน เพราะแม่ยายถือขันหมากนำหน้าขบวนรถแห่ เปิดเพลงยอดฮิต สวยขยี้ใจ พาลูกเขยเก่าไปขอเมียใหม่
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า แม่ยายคนดังกล่าวคือ น.ส.นิด อายุ 39 ปี อดีตแม่ยายของ นายบอย อายุ 30 ปี ชาว สปป.ลาว ซึ่งอดีตแม่ยายเปิดใจว่า หลังจากนายบอย อยู่กินกับลูกสาวตนมานับ 10 ปี จนมีลูกชายวัย 8 ขวบ 1 คน ลูกเขยเป็นคนขยันทำมาหากิน รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม หาเงินมาจุนเจือครอบครัวช่วยตน หนักเอาเบาสู้ จนเก็บเงินปลูกบ้านได้ 1 หลัง ที่สำคัญเขาเป็นคนดี ตลอดเวลาที่เขามาอยู่ด้วย ไม่เคยเห็นเขาดุด่าทำร้ายลูกสาว หรือคนในครอบครัวเลย ทำให้รักเขาเหมือนลูกชาย ส่วนเขาก็รักเราเหมือนแม่ เพราะเขาเป็นคนพลัดถิ่น ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ในเมืองไทย
เมื่อประมาณเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกสาวและลูกเขยแยกทางกัน โดยลูกสาวตนเป็นคนขอแยกทาง เพราะไปพบรักใหม่ ลูกเขยตนก็ไม่ว่าอะไร และหอบผ้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยาย บอกว่าไม่มีที่ไป ขออาศัยอยู่กับตนสักระยะ ตนก็ยินดี กระทั่งบอยมาพบรักกับน้องต่าย ว่าที่ภรรยาใหม่ ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ บอยก็มาบอกว่า จะเก็บเงินไปสู่ขอน้องต่าย อยากให้ตนและสามีเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ตนและสามีก็ยินดี เพราะภรรยาใหม่ก็แยกทางกับสามีเก่านานแล้ว ที่สำคัญก็เป็นคนดี และขยันทำมาหากินเช่นกัน จึงมั่นใจว่าทั้งคู่จะได้เติมความรักที่ขาดหายให้กันได้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
นายบอย เปิดใจว่า ตนเป็นชาวเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก
สปป.ลาว พบรักกับอดีตภรรยาที่ กทม. แล้วมาอยู่กินกันที่นี่ประมาณ 10 ปี
ตนรักภรรยามาก แต่เราสองคนไปด้วยกันไม่ได้ เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา
ตนก็มาขออาศัยอยู่ที่บ้านอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่ตนรักและเคารพเหมือนพ่อแม่แท้ ๆ
เพื่อขอทำงานเก็บเงินช่วยอดีตภรรยาส่งเสียเลี้ยงดูลูก
และเราก็จากกันด้วยดี ถึงแม้ภรรยาจะแยกทางไปมีรักใหม่
ในใจตนเจ็บปวดทรมานมาก แต่ก็ต้องอดทน เพราะตนเป็นลูกผู้ชาย
กระทั่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับต่าย จึงสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา ต้องขอบคุณอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่เป็นธุระมาขอภรรยาใหม่ให้ ส่วนภรรยาคนใหม่ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 7 ปี ไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย เงินค่าสินสอดที่ไปสู่ขอ 5 หมื่นบาท และเลี้ยงแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน รวมแล้วหมดเงินเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บของตนที่รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม ในสวน วันละ 3-4 แห่ง เพื่อนำมาจัดงานแต่งงานใหม่ในครั้งนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ด้าน น.ส.ต่ายเล่าว่า ตนแยกทางกับสามีเก่ามาได้ 3 ปี มีลูก 2 คน ก่อนจะมารู้จักกับบอย รู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี เพราะต่างคนต่างเจอกับรักที่ไม่สมหวังกันมา เพื่อนของบอยเป็นคนติดต่อให้เราคบกัน จนได้แต่งงานกันตามประเพณี ต้องขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะแม่นิด และสามีแม่นิด รวมทั้งเพื่อนของเขา ที่ทำให้เราสองคนได้มีวันนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เหตุการณ์ในงานวิวาห์ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 สร้างความสนุกสนานและยินดีกันทั้งหมู่บ้าน เพราะแม่ยายถือขันหมากนำหน้าขบวนรถแห่ เปิดเพลงยอดฮิต สวยขยี้ใจ พาลูกเขยเก่าไปขอเมียใหม่
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เดลินิวส์ รายงานว่า แม่ยายคนดังกล่าวคือ น.ส.นิด อายุ 39 ปี อดีตแม่ยายของ นายบอย อายุ 30 ปี ชาว สปป.ลาว ซึ่งอดีตแม่ยายเปิดใจว่า หลังจากนายบอย อยู่กินกับลูกสาวตนมานับ 10 ปี จนมีลูกชายวัย 8 ขวบ 1 คน ลูกเขยเป็นคนขยันทำมาหากิน รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม หาเงินมาจุนเจือครอบครัวช่วยตน หนักเอาเบาสู้ จนเก็บเงินปลูกบ้านได้ 1 หลัง ที่สำคัญเขาเป็นคนดี ตลอดเวลาที่เขามาอยู่ด้วย ไม่เคยเห็นเขาดุด่าทำร้ายลูกสาว หรือคนในครอบครัวเลย ทำให้รักเขาเหมือนลูกชาย ส่วนเขาก็รักเราเหมือนแม่ เพราะเขาเป็นคนพลัดถิ่น ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ในเมืองไทย
เมื่อประมาณเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกสาวและลูกเขยแยกทางกัน โดยลูกสาวตนเป็นคนขอแยกทาง เพราะไปพบรักใหม่ ลูกเขยตนก็ไม่ว่าอะไร และหอบผ้ามาขออาศัยอยู่ที่บ้านแม่ยาย บอกว่าไม่มีที่ไป ขออาศัยอยู่กับตนสักระยะ ตนก็ยินดี กระทั่งบอยมาพบรักกับน้องต่าย ว่าที่ภรรยาใหม่ ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ บอยก็มาบอกว่า จะเก็บเงินไปสู่ขอน้องต่าย อยากให้ตนและสามีเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ ตนและสามีก็ยินดี เพราะภรรยาใหม่ก็แยกทางกับสามีเก่านานแล้ว ที่สำคัญก็เป็นคนดี และขยันทำมาหากินเช่นกัน จึงมั่นใจว่าทั้งคู่จะได้เติมความรักที่ขาดหายให้กันได้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
กระทั่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับต่าย จึงสานสัมพันธ์กันเรื่อยมา ต้องขอบคุณอดีตพ่อตาแม่ยาย ที่เป็นธุระมาขอภรรยาใหม่ให้ ส่วนภรรยาคนใหม่ถึงแม้ว่าอายุจะห่างกันถึง 7 ปี ไม่ได้เป็นอุปสรรคเลย เงินค่าสินสอดที่ไปสู่ขอ 5 หมื่นบาท และเลี้ยงแขกที่มาร่วมเป็นสักขีพยาน รวมแล้วหมดเงินเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินเก็บของตนที่รับจ้างกรีดยาง ตัดปาล์ม ในสวน วันละ 3-4 แห่ง เพื่อนำมาจัดงานแต่งงานใหม่ในครั้งนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ด้าน น.ส.ต่ายเล่าว่า ตนแยกทางกับสามีเก่ามาได้ 3 ปี มีลูก 2 คน ก่อนจะมารู้จักกับบอย รู้สึกว่าเราเข้ากันได้ดี เพราะต่างคนต่างเจอกับรักที่ไม่สมหวังกันมา เพื่อนของบอยเป็นคนติดต่อให้เราคบกัน จนได้แต่งงานกันตามประเพณี ต้องขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะแม่นิด และสามีแม่นิด รวมทั้งเพื่อนของเขา ที่ทำให้เราสองคนได้มีวันนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ภาพจาก ข่าวช่องวัน