เกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวผุดบริการมื้อพิเศษ ใช้สาวฮอตแทนจาน เสิร์ฟอาหารแบบสุดอึ้ง แต่หมอเตือนส่อเป็นมื้ออันตราย ระวังเจอเชื้อโรค
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่โรงแรมใหญ่ ๆ มากมายมีการตกแต่งและการบริการที่ดี พร้อมมอบประสบการณ์ความหรูหราแก่แขกที่มาพัก เกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวแห่งหนึ่งในไถจง ของไต้หวัน ก็พยายามมอบประสบการณ์ไม่รู้ลืมแก่แขกที่มาใช้บริการเช่นกัน ด้วยอาหารมื้อพิเศษที่ถูกจัดเสิร์ฟในแบบไม่เหมือนใคร ให้แขกได้ลิ้มรสมื้อหรูพร้อมชมเรือนร่างของสาวฮอตไปในเวลาเดียวกัน
โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เกสต์เฮ้าส์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสถูกพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้ หลังทำให้แขกตกตะลึงไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ที่นำสารพัดซูชิและซาชิมิมาจัดวางบนเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาว เป็นรูปแบบเดียวกับซูชิเปลือยอันอึ้อฉาว ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว
กลายเป็นว่านับตั้งแต่มีวิกฤตโรคระบาด ก็มีเกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวหลายแห่งเปิดให้บริการในเมืองไถจง โดยมีทั้งความหรูหราและสไตล์สุดพิเศษ แถมยังพร้อมให้บริการเด็กเอนมาสร้างสีสันแก่ปาร์ตี้ต่าง ๆ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีแขกบางคนออกมาแชร์ประสบการณ์อึ้ง ว่าได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่เกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง และเห็นสาวฮอตนอนอยู่บนโต๊ะโดยมีอาหารอย่างซูชิ ซาชิมิ และอาหารอื่น ๆ วางอยู่บนตัวเธอ พร้อมนำดอกไม้มาวางปิดตรงของลับ ซึ่งไม่เพียงแค่จะการนำเสนอจะน่าตกตะลึง แม้แต่ค่าอาหารมื้อนั้นก็ทำเอาอึ้งไม่ต่างกัน เพราะคิดราคาสูงถึง 60,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 68,000 บาท)
คนวงในเผยว่า บริการซูชิเปลือยนี้จะจัดให้ตามคำขอของแขก ซึ่งจะมีการติดต่อหานางแบบสาวไต้หวันผ่านบริษัทเอเจนซี่ คิดเรตค่าตัว 20,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 22,000 บาท) ต่องาน 1-2 ชั่วโมง ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังไม่รวมถึงค่าจ้างเชฟซูชิ ที่จะมาจัดเตรียมอาหารจานหรูให้ ตลอดจนค่าอาหาร
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บริการซูชิเปลือยสร้างความตกตะลึงและสีสันให้กับแขก มื้ออร่อยนี้อาจไม่เจริญอาหารอย่างที่คิด โดยแพทย์รายหนึ่งได้ออกมาเตือนว่าการกินอาหารลักษณะดังกล่าวอาจทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ เพราะผิวหนังของมนุษย์สามารถพบแบคทีเรียได้หลายชนิด ทั้งเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) สตาฟีโลค็อกคัส เอพิเดอร์มิดิส (Staphylococcus epidermidis) หรือแม้แต่โนโรไวรัส (Norovirus) ที่ทำให้ท้องเสียได้ และอาจจะพบเชื้ออีโคไล (E. coli) บริเวณของลับด้วย เชื้อเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาต่อระบบอาหารได้
ยิ่งไปกว่านั้น อุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ซึ่งอยู่ประมาณ 36 องศาเซลเซียสก็ไม่เหมาะแก่การถนอมอาหารประเภทซาชิมิเลย ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media, ETtoday
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่โรงแรมใหญ่ ๆ มากมายมีการตกแต่งและการบริการที่ดี พร้อมมอบประสบการณ์ความหรูหราแก่แขกที่มาพัก เกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวแห่งหนึ่งในไถจง ของไต้หวัน ก็พยายามมอบประสบการณ์ไม่รู้ลืมแก่แขกที่มาใช้บริการเช่นกัน ด้วยอาหารมื้อพิเศษที่ถูกจัดเสิร์ฟในแบบไม่เหมือนใคร ให้แขกได้ลิ้มรสมื้อหรูพร้อมชมเรือนร่างของสาวฮอตไปในเวลาเดียวกัน
โดยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เกสต์เฮ้าส์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสถูกพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้ หลังทำให้แขกตกตะลึงไปกับมื้ออาหารสุดพิเศษ ที่นำสารพัดซูชิและซาชิมิมาจัดวางบนเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาว เป็นรูปแบบเดียวกับซูชิเปลือยอันอึ้อฉาว ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว
กลายเป็นว่านับตั้งแต่มีวิกฤตโรคระบาด ก็มีเกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวหลายแห่งเปิดให้บริการในเมืองไถจง โดยมีทั้งความหรูหราและสไตล์สุดพิเศษ แถมยังพร้อมให้บริการเด็กเอนมาสร้างสีสันแก่ปาร์ตี้ต่าง ๆ จนกระทั่งไม่นานมานี้มีแขกบางคนออกมาแชร์ประสบการณ์อึ้ง ว่าได้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่เกสต์เฮ้าส์ส่วนตัวแห่งหนึ่ง และเห็นสาวฮอตนอนอยู่บนโต๊ะโดยมีอาหารอย่างซูชิ ซาชิมิ และอาหารอื่น ๆ วางอยู่บนตัวเธอ พร้อมนำดอกไม้มาวางปิดตรงของลับ ซึ่งไม่เพียงแค่จะการนำเสนอจะน่าตกตะลึง แม้แต่ค่าอาหารมื้อนั้นก็ทำเอาอึ้งไม่ต่างกัน เพราะคิดราคาสูงถึง 60,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 68,000 บาท)
คนวงในเผยว่า บริการซูชิเปลือยนี้จะจัดให้ตามคำขอของแขก ซึ่งจะมีการติดต่อหานางแบบสาวไต้หวันผ่านบริษัทเอเจนซี่ คิดเรตค่าตัว 20,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 22,000 บาท) ต่องาน 1-2 ชั่วโมง ซึ่งค่าใช้จ่ายดังกล่าวยังไม่รวมถึงค่าจ้างเชฟซูชิ ที่จะมาจัดเตรียมอาหารจานหรูให้ ตลอดจนค่าอาหาร
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บริการซูชิเปลือยสร้างความตกตะลึงและสีสันให้กับแขก มื้ออร่อยนี้อาจไม่เจริญอาหารอย่างที่คิด โดยแพทย์รายหนึ่งได้ออกมาเตือนว่าการกินอาหารลักษณะดังกล่าวอาจทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ เพราะผิวหนังของมนุษย์สามารถพบแบคทีเรียได้หลายชนิด ทั้งเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) สตาฟีโลค็อกคัส เอพิเดอร์มิดิส (Staphylococcus epidermidis) หรือแม้แต่โนโรไวรัส (Norovirus) ที่ทำให้ท้องเสียได้ และอาจจะพบเชื้ออีโคไล (E. coli) บริเวณของลับด้วย เชื้อเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาต่อระบบอาหารได้
ยิ่งไปกว่านั้น อุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ซึ่งอยู่ประมาณ 36 องศาเซลเซียสก็ไม่เหมาะแก่การถนอมอาหารประเภทซาชิมิเลย ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media, ETtoday