ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ ไม่เชื่อเดินไปเอง ชี้จุดพิรุธ หวั่นซ้ำรอยคดี น้องชมพู่

          ครอบครัวคาใจ น้องอลิส เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต ห่างจากศูนย์เด็กเล็ก 800 เมตร ชี้พิรุธรองเท้าไม่ใช่ของน้อง แถมไม่มีรอยเปื้อน-สงสัยเรื่องเวลา      
      

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

          จากกรณี "น้องอลิส" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนาในลักษณะนอนหงาย ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีระยะห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 800 เมตร ครอบครัวคาใจหลายเรื่อง ทั้งไม่เชื่อว่าน้องจะเดินไปเองได้ รวมทั้งเรื่องรองเท้าในที่เกิดเหตุซึ่งไม่ใช่รองเท้าของน้องอลิส แต่เป็นรองเท้าผ้าใบของเพื่อนที่เล็กกว่าเท้าตัวเอง อีกทั้งยังมีการถอดแพมเพิร์สและกางเกงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ  


          ล่าสุดรายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ พ่อแบน, แม่บี, ย่าทิพย์ ซึ่งไม่เชื่อว่าน้องจะเดินไปเองแล้วเสียชีวิต, พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, รศ. นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

เล่าเหตุการณ์หายตัว-ไม่เชื่อน้องเดินไปเอง


- น้องแข็งแรง ร่าเริง แจ่มใส ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกับหนองน้ำ คิดว่าน้องเดินไปได้เองไหม ?

          พ่อแบน : ยังไงก็ไม่ได้ พื้นที่ขรุขระ มีโคลน

- เหตุการณ์วันนั้น น้องหายไปเมื่อไหร่ ?

          ย่าทิพย์ : วันที่ 14 ที่ผ่านมาค่ะ ย่าอยู่บ้าน ประมาณ 12.47 น. มีโทรศัพท์เข้ามาจากผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ใกล้ศูนย์เด็ก โทร. มาบอกว่าผู้ช่วยได้รับน้องอลิสกลับบ้านหรือยัง ไม่เห็นน้องนะ ให้ออกมาตามหาน้องช่วยหน่อย พอได้ยินอย่างนั้น ลูกที่เขาไปเก็บเห็ดกำลังกินข้าวเที่ยงกันก็ออกจากบ้านไปคนละทางเลย

- พอได้รับโทรศัพท์ก็เริ่มหา ย่าทำไงต่อ ?

           ย่าทิพย์ : ย่าได้มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ไปตรงศูนย์เด็ก พ่อขึ้นไปทางเหนือบ้านไปศูนย์เด็ก มันไปได้ 2 ทางเหมือนกัน ระหว่างทางเราเห็นคนวิ่งไปที่ทุ่งนาที่เขาหว่านข้าวแล้ว สระน้ำมีนอนอยู่ตรงต้นตาล แล้วมีทุ่งนาลงไป เราก็วิ่งตามคันนา ทั้งวิ่งทั้งเดิน เห็นเขาไปก็วิ่งตามเขาไป ลูกชายไปถึงก่อน

- เห็นคนกำลังมุงอยู่ ?

          พ่อแบน : ผมเจอคุณครูกับผู้ใหญ่บ้านอยู่ตรงนั้น ก็วิ่งไปหาเขา เจอศพน้องลอยอยู่ในน้ำ

- คนลงไปช่วยน้องเป็นใคร ?

          พ่อแบน : พลเมืองดี เขาได้รับแจ้งจากคุณครูที่ศูนย์ให้มาตามหาเด็ก

- ครูไม่ได้แจ้งพ่อแม่คนแรกเหรอ เขาแจ้งใคร ?

          ย่าทิพย์ : อบต. แล้วแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ครอบครัวรู้ทีหลัง รู้ตอนเจอร่างน้องแล้ว

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ชี้พิรุธ สิ่งที่พบในจุดเกิดเหตุ


- ทั้งสามคนพอเห็นน้องอยู่ในน้ำ มีพลเมืองดีช่วยขึ้นมา น้องเสียชีวิตแล้ว ตรงจุดเกิดเหตุพบอะไรบ้าง ?

          พ่อแบน : รองเท้า กางเกง และแพมเพิร์ส ถูกถอดอยู่ครับ

- อายุ 3 ขวบ น้องถอดแพมเพิร์สเองได้ไหม ?

          พ่อแบน : ถอดได้เป็นบางครั้ง แต่ส่วนมากเขาจะฉี่ใส่กางเกง ถ้าไม่มีคนช่วยเขาก็ถอดได้ แต่จะยาก

          แม่บี : แต่จะไม่ใช่แบบนี้ค่ะ ถ้าเขาถอดเองมันจะม้วนค่ะ เขาค่อย ๆ ดึง ม้วนเป็นเลข 8

- แต่อันนี้เหมือนจับดึงออกไปแล้ววางไว้ ส่วนรองเท้าเป็นรองเท้าน้องหรือเปล่า ?

          พ่อแบน : ไม่ใช่ครับ น้องใส่รองเท้าสไปเดอร์แมน

- วันที่น้องไปที่ศูนย์เด็กเล็ก คุณย่าเตรียมคู่นี้ให้เขา ?

          แม่บี : แม่เตรียมให้เขาค่ะ วันที่เขาหายไป รองเท้าคู่นี้อยู่ที่ศูนย์ ปกติน้องไม่ใส่รองเท้าผ้าใบ น้องไม่ชอบเลย ที่บ้านไม่มีรองเท้าผ้าใบให้น้องใส่เท่าไหร่ค่ะ มีแต่รองเท้าง่าย ๆ ให้ใส่แบบนี้

- รองเท้าคู่นั้นเป็นของใคร ?

          แม่บี : ของน้องที่โรงเรียนค่ะ

- ไม่งงเหรอ รองเท้าคู่นี้มาได้ยังไง ?

          แม่บี : งงค่ะ

          ย่าทิพย์ : ทำไมต้องใส่ลงมาด้วย

          พ่อแบน : แล้วรองเท้าเขาไม่เปื้อนด้วย

- ตอนเดินมาตรงจุดนี้ โคลนเยอะไหม ?

          พ่อแบน : เยอะครับ เป็นที่นา ต้องเดินลงบันไดมา

- คุณพุทธจำลองเหตุการณ์ได้ดีมาก ให้เด็กมาเดินตรงนี้เลย เพื่อไปบ่อน้ำที่เจอร่างน้อง คุณพุทธเอาเด็กวัยเดียวกันแต่เป็นเด็กผู้ชาย น้องเดินไม่ไหว บอกว่าปวดเท้ามาก มันแปลกใจ อันดับแรก น้องออกจากจุดนั้นได้ยังไง น้องใส่รองเท้าผ้าใบ ซึ่งเท้าเล็กกว่าน้อง ยัดแทบไม่เข้า ใส่ไปได้ยังไง ต่อให้เท้าพอดีกัน เด็ก 3 ขวบจะใส่รองเท้าผ้าใบเองยากมาก ระยะทางที่เดินไป ใต้รองเท้าเป็นไง ?

          ย่าทิพย์ : ไม่เปื้อนโคลน ไม่เปื้อนอะไรเลย

- น้องไปไหนมาไหนคนเดียวไหม ?

          แม่บี : ไปสูงสุดก็บ้านย่า แต่พ่อแม่ดูอยู่ บ้านย่ากับบ้านแม่ไม่ไกลกัน ประมาณ 100 เมตร มองเห็นค่ะ ยืนดูแล้วบอกให้ระวัง ไม่เคยไปไกลกว่านี้ค่ะ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวยังคาใจ รอคำอธิบายจากครู


- ณ วันนี้มุมที่เกิดขึ้น คุณครูมาพูดคุยกับเราไหม ?

          พ่อแบน : เขามา แต่ยังไม่พูดเรื่องน้องหายไปได้ยังไง เขาไม่ได้พูด บอกแค่ขอโทษ ขอขมา เขาไม่ได้มาคุยเรื่องอะไร

- เขาเอาเงินมาให้เหรอ ?

          ย่าทิพย์ : เขาถือพานมาขอขมา ทาง อบต. เขารวบรวมเงินมาเยียวยาเบื้องต้นก่อน เขาบอกว่าเงินส่วนนี้จะช่วยเยียวยาเบื้องต้น ไม่เกี่ยวกับคดี ไม่เกี่ยวกับค่าอะไรอย่างอื่นค่ะ เหมือนทำบุญกับน้อง

- ครูไปให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกสบายใจขึ้น แต่ย่าบอกว่าไม่ใช่ ?

          ย่าทิพย์ : ยังคาใจอยู่ค่ะ ไม่ชี้แจง

          พ่อแบน : ยังไม่คุยเลย พวกผมก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมาอธิบายให้ฟัง แต่ก็ไม่มา พวกผมก็อยากรู้ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง ตอนนี้ไม่มีใครมาอธิบายเลย

- ตอนน้องหายไป เขาพูดไหมว่าหายไปตอนไหน ?

          ย่าทิพย์ : เขาบอกกินข้าว 11 โมง กินอิ่มก็ให้เด็กออกไปวิ่งบริเวณรอบโรงเรียน ประมาณเที่ยงเตรียมเด็กเข้านอน แต่ตามหาอลิสไม่เจอ

- แต่มีคนไปรับหลาน เขาบอกเด็กนอนปกติหรือยังไง ?

          ย่าทิพย์ : เขาไปรับเด็กประมาณเที่ยงครึ่ง คุณครูยังไม่ได้ทำอะไร ยังเงียบอยู่

- เขาไปรับหลานเนื่องจากอะไร ?

          ย่าทิพย์ : หลานไม่สบาย ครูโทร. บอกให้ไปรับหลาน เด็กก็ยังนอนอยู่ ครูก็ยังเงียบอยู่ คนไปรับเด็กเขาบอกอย่างนั้น

- เป็นเวลาที่ใกล้กันมาก ?

          พ่อแบน : เวลาที่น้องหาย กับเวลาไปพบศพน้อง เวลาแค่นิดเดียวเอง เวลาพบศพน้องเที่ยง เวลาที่ผู้ใหญ่โทร. มาหาผม 12.47 น. บอกว่าได้ไปรับน้องอลิสไหม น้องอลิสได้กลับบ้านไหม ออกมาตามหาเด็กกันหน่อย ผมก็ออกจากบ้าน 2-3 นาที

- คุณน่าจะถึงที่โรงเรียน 12.50 น ?

          พ่อแบน : คุณครูบอกว่าลงไปดูน้องอยู่ข้างล่าง ผมเห็นคุณครูกับผู้ใหญ่อยู่ในที่เกิดเหตุ ผมก็วิ่งไปดูเลย

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ข้อสังเกตเรื่องเวลา แจ้งน้องหาย-พบศพ ห่างกันไม่นาน


- มีการไลน์หาย่าทิพย์ แล้วผ่านไปแค่ 8 นาที ผู้ใหญ่โทร. ไปบอกพ่อกับแม่ว่าเด็กหาย พ่อใช้เวลา 3 นาทีไปถึงศูนย์เด็กเล็ก ก็เจอร่างลูก แล้วพ่อบอกว่าแปลกไหมล่ะ ตอน 12.40 น. ยังหาไม่เจออยู่เลย พอ 12.50 น. บอกว่าไปดูร่างลูกตรงนั้น 10 นาทีที่ตามหาแล้วไปเจอ เด็กลอยอยู่ในน้ำ ?


          พ่อแบน : ยังไงก็ไม่เชื่อว่าเด็กจะไปเอง เวลามันนิดเดียวเอง

- 12.00 น. ให้เด็กนอน 12.40 น. มีการคุยในไลน์ครั้งสุดท้าย ถามว่าแม่เด็กอยู่ในไลน์หรือเปล่า 12.48 น. มีการแจ้งไปว่าเด็กหาย พ่อบึ่งมอเตอร์ไซค์มา ตีให้ 5 นาทีเลย 12.53 น. พ่อไปถึงโรงเรียน พอไปถึงเขาบอกลูกอยู่กลางนา พ่อกับแม่วิ่งไปเจอศพแล้ว เจอศพ 12.50 น. ฝั่งคุณย่ามีการบอกว่ามีเด็กคนหนึ่งไม่สบาย ครอบครัวเขามารับในเวลา 12.30 น. ตอนนั้นเด็กยังนอนอยู่เลย แต่ไม่ได้ลงลึกว่าเจอน้องอลิสหรือเปล่า แต่ทุกอย่างนิ่งสงบ ไม่ได้แตกตื่น ?

          ย่าทิพย์ : ทำไมไม่ไปบอกว่าให้ไปบอกเพื่อนบ้านหน่อย

- มีผลชันสูตรของเจ้าหน้าที่นิติเวชครั้งแรก บอกว่าเด็กเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ชม. ฉะนั้นถามว่าในเมื่อเราเจอศพเด็กตอน 12.50 น. เราต้องยิงมาที่ 10.50 น. ครูยังกริบ บอกกินข้าวกันอยู่ ทำไมครูไม่เห็นว่าน้องอลิสนั่งกินข้าวอยู่หรือเปล่า ไม่ได้กล่าวหาใครนะ แต่พ่อเห็นศพตอนครูบอก 12.53 น. เชื่อเจอศพ 12.50 น. แต่เขาชันสูตรมาแล้วว่าน้องเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ชม. แปลกใจว่าถ้าเด็กหายไปก่อนหน้านั้นทำไมครูไม่เห็นอลิส ?

          นพ.วีระชัย : ประเด็นเรื่องเวลา เมื่อครู่ได้คุยกับคุณย่า ไม่ใช่มากกว่า 2 ชม. คือไม่เกิน 2 ชม. บวกลบ โดยหลักการแพทย์ทั่วไปที่ชันสูตรพลิกศพ เขาจะตรวจการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังตาย จะบอกเป็นช่วง 1-2, 2-4, 4-6 กรณีนี้น่าจะบอก 1-2 นี่แหละ บวกลบ ช่วงระยะเวลาเป็นอีกแบบหนึ่ง อาจไม่ใช่มากกว่า 2 ชม. แต่ทีนี้มีประเด็น พอคุยลึกลงไปมีการผ่า มีอาหารในกระเพาะอาหาร ซึ่งเมื่อกี้ได้สอบถามว่าอาหารที่พบ ถ้าตามข้อมูลการผ่าเป็นเส้น มันเป็นมื้อไหน ถ้ามื้อที่ทานของโรงเรียน โรงเรียนบอกทานตอน 11 โมง อาหารที่เข้าไปในกระเพาะ ผ่านเข้าไปคลุกเคล้ากับน้ำย่อยกว่าจะลงลำไส้ อยู่ช่วงครึ่งถึง 2 ชม. ยังไม่ลงไปที่ลำไส้ เขาพบในกระเพาะอาหารว่ามีลักษณะเส้น ซึ่งไม่ใช่อาหารที่ทานที่บ้านตอนเช้า ถ้าตอนเช้าน่าจะย่อยหมดแล้ว น่าจะเป็นอาหารที่โรงเรียน น่าจะมีการทานอาหารที่โรงเรียนจริงตอน 11 โมง ตรงนี้ตีกรอบไปว่าทานอาหารแล้ว แล้วมาเกิดเหตุ

- เราตัดประเด็น 2 ชม. ทิ้งไป ?

          พล.ต.ต. วิชัย : ถ้าพิสูจน์แล้วว่าอาหารที่พบในกระเพาะเป็นอาหารที่เด็กกินในโรงเรียน แสดงว่า 11 โมงเด็กทานอาหารที่นั่น เด็กยังอยู่ แต่จะมาวิเคราะห์ในทางตำรวจ ถ้าเด็กจะหาย จะหายช่วง 11-12 โมง เพราะเขาจะเอาเด็กไปนอน แล้วเท่าที่รู้มา เด็กไม่อยู่ 4 คน ไปเล่นข้างนอก อาจไปตามมาได้ 3 คน น้องหายไป 1 คน ช่วงที่แจ้งและพบน่าจะไม่คลาดเคลื่อน เพราะตอนไปพบใหม่ ๆ น้องยังตัวอ่อน

          ย่าทิพย์ : ตัวอ่อน เหมือนเด็กนอนหลับ

          พล.ต.ต. วิชัย : แสดงว่าตายใกล้ ๆ เวลานั้นแหละ แต่ในฐานะผมเป็นตำรวจ จะวิเคราะห์เรื่องหลักการสืบสวนก่อน คดีตามธรรมชาติ สิ่งที่ต้องสอบสวนคือรู้สาเหตุการตาย หรือใครทำให้ตาย ต้องไปดูพยานบุคคล ซึ่งมีอย่างเดียวคือครู อาจมีป้าคนเดียวที่มารับลูก แต่ตอนมารับก็ไม่รู้หรอกเด็กนอนครบหรือไม่ครบ แสดงว่าเด็กหายไปช่วงนี้ พอหายไปแล้ว ถามว่าเด็กไปได้อย่างไร นี่เป็นข้อพิรุธ เด็กจะเดินไปไกลขนาดนี้ได้ไหม ต้องลงสะพาน มีคูน้ำ มีผ่านกระดานไม้เดียว จะเดินผ่านกระดานแผ่นนี้ไปได้ไหม เดินไปเจอท่อ ขึ้นท่อสูง 50 ซม. ซึ่งชันได้ไหม แล้วจะไปลงน้ำได้ไหม รองเท้าอีก ถ้าคิดในแง่ไม่ดี ถ้ามีใครทำให้ตาย สิ่งที่จะทำให้เห็นว่าครบสมบูรณ์ ก็เอารองเท้าให้เห็นว่าเดินไป แต่ดันหยิบรองเท้าผิดไป ก็เป็นพิรุธ ตำรวจต้องทำการสืบสวนต่อ รองเท้ามีรอยเปื้อนไหม ถ้าไม่เปื้อนแสดงว่าหยิบไปวางแน่นอน ผมไม่รู้ตำรวจสอบสวนยังไง แต่ผมวิเคราะห์ว่าข้อสงสัยเป็นอย่างนี้ ต่อไปกางเกงที่ถอด ต้องดูว่าถอดสภาพแบบไหน รูดทีเดียวเลยไหม ลองขยายพื้นที่กว้างของภาพ ข้าง ๆ ถ้าเด็กเดินไป เด็กจะลื่นตกตรงนั้นไหม

          พ่อแบน : แต่มันไม่ใช่สระน้ำนะตรงนั้น มันเป็นที่นา สระอยู่อีกที่หนึ่ง ห่างจากตรงนี้ 2-3 เมตรนี่แหละ

          พล.ต.ต. วิชัย : ก็ไม่ได้ไกล รองเท้าถ้าเด็กจะถอด ต้องวางคู่กันไหม นี่วางไม่คู่กัน เวลาเป็นตำรวจต้องวิเคราะห์ นี่เป็นข้อสงสัยที่ตำรวจต้องทำการสืบสวนสอบสวน ให้เห็นประเด็นว่าอาจมีคนทำให้ตายก็ได้ ไม่ได้ตกน้ำตาย

- ตัดประเด็นเด็กหายไปตอน 10 โมงกว่า น้องน่าจะได้กินอาหารกลางวันแล้ว 11 โมงน้องยังอยู่ พี่แต้มมองว่าตรงนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญคือน้องไปตรงนั้นได้อย่างไร ?

          พล.ต.ต. วิชัย : และผ่าพิสูจน์ น้ำเข้าปอด แสดงว่าจมน้ำตรงนั้น ไม่ได้ฆ่าที่อื่นแล้วเอามาทิ้ง

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

คุณหมอวิเคราะห์สาเหตุร่างน้องนอนหงาย


- สภาพน้องลอยหงายหน้าขึ้น ทำไมลอยหงายหน้า ?

          นพ.วีระศักดิ์ :
ตอนแรกที่ผมได้รับทราบข้อมูล มีการสอบถามเข้ามาบอกว่าศพคาดว่าเสียชีวิตไม่เกิน 2 ชม. แต่มีเรื่องแปลกคือศพลอยน้ำ ซึ่งศพทั่วไปเสียชีวิตต้องจมน้ำก่อน เกิน 24 ชม. ถึงลอยขึ้นมา เพราะการจมน้ำ น้ำแทนที่อากาศในร่างกายแล้วก็จม หลังจากนั้นเกิดแบคทีเรียในร่างกายไปย่อยทำให้เกิดแก๊สลอยขึ้นมา พอเป็น 2 ชม. ก็เลยดูแปลก ก็ตั้งข้อสังเกตว่า 2 ชม. มีความเป็นไปได้ เป็นลักษณะของอากาศที่ยังคั่งอยู่ในร่างกาย ในปอด ทำให้ศพลอยอยู่ และน่าจะกล่องเสียง หลาย ๆ กรณี กล่องเสียงปิด ทำให้น้ำเข้าไปไม่ได้ ทำให้หายใจไม่ได้ด้วย ก็ทำให้เสียชีวิต แต่พอมาดูรูปที่ชัดเจนวันนี้ มีโอกาสเป็นไปได้อีก 1 อย่าง นั่นคือกรณีน้องยังใส่เสื้อ มีอากาศอยู่ภายในเสื้อ ลักษณะตีโป่ง มีความเป็นไปได้ที่อากาศค้างอยู่เลยพยุงตัวน้อง ซึ่งเป็นเด็กมีน้ำหนักตัวน้อยให้ลอยอยู่ แต่เรียนว่าไม่ว่ากรณีจมน้ำเสียชีวิตหรือสงสัยว่าฆาตกรรมแล้วเอาไปทิ้งน้ำ ยังไงก็ต้องจมน้ำ ไม่ใช่ว่าถูกฆาตกรรมเสียชีวิตมาก่อนแล้วเอามาทิ้งน้ำ ตัวจะลอย ไม่ใช่นะครับ ถ้าเสียชีวิตด้วยวิธีใดมาก่อน เอามาทิ้งน้ำ น้ำก็แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ยังไงก็จมเหมือนกัน กรณีที่ลอยก็ไม่ได้สื่อถึงเรื่องถูกฆาตกรรม แต่เป็นลักษณะที่ไม่ได้เจอได้บ่อย แต่พอดูผลผ่าชันสูตรพลิกศพบอกว่าพบน้ำอยู่ในปอดในปริมาณมาก โอกาสกล่องเสียงปิดจนทำให้น้ำไม่สามารถเข้าไปได้ก็ตัดทิ้งไป ก็น่าจะเหลือตรงตัวเสื้อที่มีอากาศอยู่ทำให้พยุงตัว ซึ่งน้องมีน้ำหนักตัวน้อย ทำให้ลอยอยู่ได้ อันนี้น่าจะเป็นไปได้ครับ

- พี่แต้มมองยังไง ?

          พล.ต.ต. วิชัย : ถ้าฆาตกรรมผมว่าไม่เป็นหรอก ถ้าฆาตกรรม การทำร้ายร่างกายต้องมีร่องรอย แต่นี่ผ่าพิสูจน์แล้วไม่มีร่องรอยทำร้ายร่างกาย ถ้าทำให้ตาย สาเหตุโกรธเคืองระหว่างน้องกับครูก็ไม่มี อันนี้ก็ตัด ถ้าจะเกี่ยวข้องกับคดี มีอย่างเดียวคือประมาทหรือเปล่า ทำให้เด็กไปเสียชีวิตหรือเปล่า ผมคิดเองนะ สมมติเด็กดื้อ ไม่เข้านอน คนอื่นเข้านอนหมด อาจลงโทษเอาเด็กปล่อยไว้ตรงแถวบันได ทีหลังจะได้เข้ามาให้พร้อมเขา พอไปแล้วมันถึงเลยเถิด ทำให้เสียชีวิตหรือเปล่า คิดเลวไปอีก ถ้าเสียชีวิตแล้วก็ต้องทำหลักฐานกันไหม เอารองเท้าไปวางไหม นี่คิดแบบเลวนะ ถ้าคิดแบบดี เด็กอาจเดินไปได้ แต่ข้อสงสัยที่มีคือหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ พยานวัตถุคือรองเท้า กางเกง แพมเพิร์ส ถ้าผมทำผมต้องสร้างหลักฐานเท็จ ผมต้องเอาหลักฐานอื่นไปทำตรงนี้ ก็เป็นหน้าที่ตำรวจต้องสอบให้ชัดว่ามันจะเป็นแบบนี้ได้ไหม เด็กดื้อไหม เหมือนเราเลี้ยงหลาน หลานดื้อก็ให้อยู่นอกบ้าน ขอโทษเมื่อไหร่ก็ให้เข้าบ้าน ในฐานะหลักการสืบสวน เจตนาฆ่าไม่มี แต่ถ้าจะมีก็เรื่องประมาท เพราะตอนนี้ตำรวจก็แจ้งข้อหาประมาท

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

เทียบเคส น้องชมพู่ กับข้อสงสัย เด็กไม่น่าเดินไปเอง


- ระยะทางที่เดินไปด้วยประสบการณ์ คิดว่าเด็กเดินไปได้ไหม ?

          พล.ต.ต. วิชัย : ถ้าคนพาเดิน ผมว่าเด็กไปได้ 800 เมตร ถ้าเดินไปเองค่อนข้างยาก ดูระยะทางที่เขาเดิน ลงบันได แล้วมีคูรอยขาด มีกระดานแผ่นเดียววาง ตรงนี้เด็ก 3 ขวบจะเดินได้ไหม

- คุณพุทธจำลองให้เด็ก 3 ขวบเดิน น้องเดินตะแคง แต่บอกว่าปวดเท้ามาก ?

          พล.ต.ต. วิชัย : โดยธรรมชาติเราต้องคิดว่าเขาเดินได้ไหม แล้วมันจะลื่นไหม ทำให้เห็นว่าเด็กไม่น่าเดินได้ ถ้าเด็กหลงก็ไม่น่าลงไปตรงนั้น เด็กเดินไปไม่เจอใครนี่ร้องตายเลย หลงก็ร้องไห้แล้ว

          ย่าทิพย์ : ตอนนั้นอากาศร้อน เด็กมันจะเดินไปทำไม

          นพ.วีระศักดิ์ : กรณีน้องชมพู่ก็ถกเถียงกันว่าเดินได้ไม่ได้

- ผมลงพื้นที่ ก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้จะเดินขึ้นไป ผมมั่นใจว่าไม่ได้ แต่บางคนบอกว่าได้ ?

          นพ.วีระศักดิ์ :
ก็จะมีทั้งคนที่เห็นว่าได้และไม่ได้ แต่ความเป็นจริงเอาหลักการก่อน เด็ก 3 ขวบเดินได้ วิ่งได้ ทำอะไรได้ มีความเป็นไปได้ไหม มีความเป็นไปได้ แต่ดูสภาพข้างหน้าจริง ๆ ทุกคนประเมินแบบไม่รู้เด็กเลย แต่คนรู้จักเด็กจริง ๆ คือพ่อแม่ ย่า ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้ก็น่าเชื่อถือ แต่ทางสืบสวนสอบสวน ตำรวจจะถามแค่นี้ก็ไม่เพียงพอ อาจไปถามคนรู้จัก ญาติอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ เด็กเวลาประเมิน ประเมิน 3 อย่าง กาย จิต สังคม กายเขาสามารถเดินได้หรือไม่ จิตใจถ้าติดพ่อแม่ ห่างออกไปแล้วร้องไห้งอแง สังคมคือเขาไปกับคนอื่นไหม ปกติเป็นคนแปลกหน้าเขาจะไปไหม

          แม่บี : ไม่ไป

          นพ.วีระศักดิ์ : ทั้งหมดนี้คือการประเมิน ถ้าไปดูคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ก็จะมีการพูดถึงเรื่องนี้ว่ามีการสอบปากคำตำรวจแล้วพบว่าน้องติดพ่อแม่ โอกาสไปกับคนอื่นเป็นไปได้ยาก ยกเว้นบางคน ซึ่งก็มีรายละเอียดแบบนี้ในการสืบสวนสอบสวน ส่วนเรื่องที่คนนั้นบอกว่าได้ คนนี้บอกไม่ได้ คุณจะยึดหลักการอะไรล่ะ ข้อเท็จจริงคนที่จะรู้จริงคือคนในครอบครัว ถ้าผมมองนะในระยะไกลแบบนี้ โอกาสที่เด็กเดินด้วยตัวคนเดียว เดินไปไม่ร้องไห้งอแง ผมว่าเป็นไปไม่ได้ แต่จะใช่หรือไม่ใช่ต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลหลักฐานของตำรวจ

          พล.ต.ต. วิชัย : ตอนน้องชมพู่เราวิเคราะห์กันว่าน้องติดพ่อแม่มาก ใครจะอุ้มไปไม่ได้ นอกจากพ่อแม่และคนที่ใกล้ชิดที่สุด ตอนนั้นเราสงสัยผู้ที่มีเรื่องอยู่ เราบอกว่าน้องเดินไปได้ไหม มาวิเคราะห์ว่าเดินไม่ได้หรอก หนึ่ง เดินขึ้นเขา ถ้าหลงลงจากเขามากกว่า จะเดินขึ้นทำไม แล้วเดินไปตั้ง 2-3 กม. ก็ต้องมีรอยบาดตัวเด็ก เด็กที่เห็นก็ถอดเสื้อผ้า เราก็วิเคราะห์ได้แน่ว่ามีคนพาไป มาเปรียบเทียบคดีนี้ได้ว่าเด็กขนาดนี้จะเดินไปได้ไหม ถ้าเดินไปไม่ได้ต้องมีคนพาไป เด็กต้องร้อง เพราะหลงหน่อยเด็กก็ร้องแล้ว

          นพ.วีระศักดิ์ : กรณีนี้ในการพิสูจน์ ถ้าย้อนกลับไปคดีน้องชมพู่ มันไม่ได้จบแค่นั้น มันมีการสืบสวนสอบสวน ที่ตำรวจต้องไปสอบถามญาติ คนใกล้ชิด ประเมินความเป็นไปได้ด้วยว่ามีโอกาสเดินไปได้จริงหรือเปล่า

          พล.ต.ต. วิชัย : วิเคราะห์จากครูบาอาจารย์ว่าอยู่หรือไม่อยู่ เดี๋ยวหลักฐานตัวนี้จะไปล้อมกรอบคนเกี่ยวข้องมากขึ้น

          นพ.วีระศักดิ์ : ผมยืนยันกับคุณย่า ถ้าศพเสียชีวิตมาก่อนหน้านี้แล้วเอามาทิ้งลงน้ำ ยังไงก็ต้องเริ่มจากการจมน้ำ เพราะน้ำเข้าไปแทนที่ กรณีศพลอยจึงไม่ได้สื่อเลยว่าเป็นการฆาตกรรมหรือทำให้ตายมาก่อน เพียงแต่เป็นลักษณะที่เจอได้ไม่บ่อย

          พล.ต.ต. วิชัย : จมน้ำอยู่ตรงนั้นแหละ แต่ใครทำให้จมหรือเปล่า ประเด็นแค่นี้ เป็นหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวน อย่างอื่นตัดไปได้เลย

- คาใจผมมากคือเด็กจะลงน้ำ แต่ถอดกางเกง แพมเพิร์ส และรองเท้า ?

          นพ.วีระศักดิ์ :
วางเป็นระเบียบด้วย แพมเพิร์สดูเป็นระเบียบดีด้วยนะ ลูกผมเกือบ 3 ขวบก็ยังถอดไม่ได้ ม้วนก็ไม่ออกหรอกครับ

          พล.ต.ต.วิชัย : ถ้าถอดไปเล่นน้ำ ผมว่าเขาระเบียบจัดไป

- วันนี้จะทำยังไงกันต่อไป ?

          พล.ต.ต.วิชัย : ก็เป็นหน้าที่ตำรวจต้องทำการสอบสวนให้แน่ชัดให้ได้ ผมเชื่อว่าถ้ามีการกระทำความผิด เดี๋ยวพิรุธก็ออกมา ใครจะผิด ใครจะประมาท เชื่อว่าทำแค่คนเดียว ส่วนคนอื่นจะช่วยปกปิด ถึงเวลาแล้วก็ช่วยเขาไม่ได้หรอก ยกตัวอย่าง ถ้ามีการลงมือกระทำความผิด แต่ไม่ใช่ฆ่านะ อาจเป็นเรื่องความประมาท อาจปรากฏได้ทีหลัง หลักฐานต่าง ๆ ตำรวจเอามาประกอบ แล้วซักทีละประเด็น จะได้ชัดเจนขึ้น ไม่ต้องห่วงหรอก

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ

ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ครอบครัวคาใจ น้องอลิส จมน้ำดับ ไม่เชื่อเดินไปเอง ชี้จุดพิรุธ หวั่นซ้ำรอยคดี น้องชมพู่ อัปเดตล่าสุด 22 มิถุนายน 2567 เวลา 23:46:18 6,065 อ่าน
TOP
x close