ทลายโรงงานผลิตยาแก้แพ้ปลอม ขายว่อนโซเชียลให้กลุ่มวัยรุ่น เสียหายกว่า 100 ล้าน

          ตำรวจทลายโรงงานผลิตยาแก้แพ้ปลอม ส่งขายตามร้านขายยาและโซเชียล เน้นเป้าหมายกลุ่มวัยรุ่น เสียหายกว่า 100 ล้าน

          วันที่ 22 มิถุนายน 2567 สวพ.FM 91 รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.น.7 นำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 548/2567 เข้าตรวจค้นสวนกระท่อมล้อมรั้วสังกะสีทึบ ไม่มีเลขที่ ต.ราษฎร์นิยม อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยภายในสวนดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ มีโรงงานและเครื่องจักรสำหรับผลิตและบรรจุสินค้าขนาดใหญ่ โดยมี นายมี่ อายุ 37 ปี รับเป็นเจ้าของ และนายทวี อายุ 25 ปี เป็นผู้ดูแลการผลิต จากการตรวจจค้นพบของกลาง คือ

          1. ยาแก้แพ้(ปลอม) ขนาด 60ml ที่บรรจุเสร็จแล้วติดฉลาก จำนวน 60 ลัง จำนวน 12,000 ขวด
          2. เครื่องจักรบรรจุ ยาแก้แพ้ชนิดน้ำ 2 เครื่อง
          3. เครื่องจักรปิดฝา 1 เครื่อง
          4. เครื่องจักรติดฉลาก 1 เครื่อง
          5. ฉลากยี่ห้อ
          6. เครื่องรัดกล่องกระดาษ 1 เครื่อง พร้อมเชือกรัดกล่อง 35 ม้วน
          7. รถยนต์กระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน กทม
          8. ขวดเปล่าบรรจุยา 80,000 ใบ
          9. รถแฮนด์ลิฟต์ 1 คัน

          การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากบริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายยาแก้แพ้ยี่ห้อหนึ่ง ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ โดยพบว่ามีการลักลอบผลิตยาเลียนแบบขึ้นมา โดยใช้ฉลากและบรรจุภัณฑ์ที่เหมือนกับของแท้มาผลิตและจัดจำหน่ายเอง จึงเข้าแจ้งความไว้ จนกระทั่งมีการล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน จากนั้นได้ทำการขยายผลไปถึงต้นตอแหล่งผลิตและนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางไว้ได้ทั้งหมด

          นายมี่ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยมีนายทวี เป็นผู้จัดการและได้ร่วมกันผลิตยาแก้แพ้ปลอม เมื่อผลิตเสร็จทางหุ้นส่วนจะเป็นผู้รับผิดชอบนำสินค้าไปส่งให้กับลูกค้าตามที่สั่งไว้ และจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปโดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการทำการตลาด โดยลักลอบผลิตยาปลอมมาได้ประมาณ 4-5 เดือน ซึ่งสูตรที่ผลิตยาตัวนี้ทางหุ้นส่วนเป็นคนได้มา ตนเป็นเพียงพ่อค้าคนกลาง ส่วนเครื่องจักรทั้งหมด ตนเป็นคนสั่งมาเอง และเป็นคนลงทุนทั้งหมด ออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเดือนหนึ่งตกประมาณ 50 ลัง บรรจุลังละ 200 ขวด ราคาลังละ 9,000 บาท รวมเป็นเงิน 450,000 บาทต่อเดือน   

          ด้าน นายณัฐวุฒิ สิมานุรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทผลิตภัณฑ์ดังกล่าว (บริษัทจริง) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการสืบทราบมาว่ามีการปลอมแปลงยาของบริษัทฯ ทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท เชื่อว่าเขาทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี โดยจะนำสินค้าไปวางขายในร้านขายยาทั่วไป และขายให้กับกลุ่มวัยรุ่น หลังจากนี้ทางบริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด


          เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปที่ กก.สส.บก.น.7 เพื่อทำบันทึกการจับกุม และบันทึกตรวจยึดของกลางทั้งหมด จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป