สาวสุดอาย จุดซ่อนเร้นเหม็นโชย จนเพื่อนร่วมงานบอก ได้กลิ่นอาหารเน่า หมอตรวจและให้ยายังไม่หาย ถามไปจนรู้วิธีการซักกางเกงใน ทำหมอส่ายหน้า
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เว็บไซต์ ETtoday รายงานปัญหาชวนกลุ้มของสาวไต้หวันรายหนึ่ง กับปัญหาเรื่องกลิ่นที่ยากจะเปิดเผย โดยพบว่าหญิงวัย 20 ปีรายนี้มาขอความช่วยเหลือจากสูตินรีแพทย์ หลังจากที่เธอมีปัญหากลิ่นน้องสาวเหม็นรุนแรง ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวเธอที่ได้กลิ่น แม้แต่เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศเองก็ได้กลิ่นเช่นกัน โดยครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมงานถึงกับถามขึ้นว่า "ได้กลิ่นอาหารเน่าไหม"
ด้วยความอับอายทำให้หญิงสาวไม่กล้ายอมรับ ทำได้แค่ปลีกตัวออกมานั่งห่าง ๆ จากเพื่อนร่วมงานคนอื่น และพยายามหลีกเลี่ยงหากมีคนเข้าใกล้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่ากลิ่นเน่าเหม็นปริศนานั้นมาจากตัวเธอเอง ก่อนจะมาพบแพทย์เพื่อให้ทำการตรวจรักษา
โดย หลี่เว่ยห่าว สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลเจิ้งซิน เปิดเผยในรายการโทรทัศน์ 醫師好辣 ว่าคนไข้หญิงรายนี้ดูเครียดมากตอนที่มาพบแพทย์ เธอโอดครวญว่ามีบางอย่างกำลังเน่าที่ช่วงล่างของร่างกาย และบอกมีตกขาวที่ส่งกลิ่นเหม็น จากนั้นเมื่อตรวจดูก็พบว่ามีรอยแดงและบวมเล็กน้อยบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งไม่ใช่ปัญหารุนแรงนัก
ในตอนนั้นแพทย์วินิจฉัยว่าน่าจะมีการติดเชื้อราแคนดิดาและเชื้ออีโคไล จึงสั่งจ่ายยาให้เพื่อทำการรักษา แต่หลังจากนั้น 2 สัปดาห์สาวคนนี้ก็กลับมาใหม่ และชี้ว่าอาการของเธอไม่ดีขึ้นเลย แต่เมื่อแพทย์ตรวจซ้ำก็พบว่าไม่ได้มีโรคอื่นนอกจากการติดเชื้อที่เคยตรวจพบแล้ว
ด้วยเหตุนี้จึงมีการซักถามเกี่ยวกับการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว
หญิงสาวเล่าว่า เธอมักจะซักชุดชั้นในด้วยมือ
เพราะเชื่อว่าหากนำไปซักรวมกับชุดชั้นในของคนอื่นและถุงเท้าจะทำให้ไม่สะอาด
นอกจากนี้เธอยังกังวลว่าสารตกค้างจากน้ำยาซักผ้าจะทำให้ผิวหนังแพ้
จึงเลือกที่จะใช้เจลอาบน้ำซักกางเกงในแทน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ได้ยินดังนั้น
หลี่เว่ยห่าว ก็ส่ายหัว
เขาอธิบายว่าเจลอาบน้ำนั้นอาจไม่สามารถทำความสะอาดแบคทีเรียบนกางเกงในได้
ดังนั้นเขาจึงแนะนำให้เธอเปลี่ยนวิธีการซักกางเกงใน
คือนำไปซักที่เครื่องซักผ้าโดยใช้น้ำยาซักผ้าแบบแอนตี้แบคทีเรีย
โดยให้แยกซักจากเสื้อผ้าปกติ
ซึ่งเมื่อหญิงสาวทำตามคำแนะนำก็พบว่าปัญหาเรื่องกลิ่นของเธอดีขึ้น
และไม่กลับมาเป็นซ้ำใหม่ในครึ่งปี
ด้าน จางอวี้ชิน สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลคาเธ่ย์ ของไต้หวัน เปิดเผยว่า ผู้หญิงจำนวนมากคิดว่าการซักกางเกงในด้วยมือเป็นสิ่งที่ดีกว่า แต่จริง ๆ แล้วการซักกางเกงในด้วยมืออาจทำให้มีผงซักฟอกตกค้างบนผ้า ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณของลับได้ อีกทั้งหากล้างน้ำไม่มากพอ เมื่อนำไปตากก็ยังทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ใช้มือซักเมื่อกางเกงในเปื้อนสารคัดหลั่งหรือประจำเดือนและจำเป็นต้องขยี้แรง ๆ เท่านั้น จากนั้นก็ให้ซักด้วยเครื่องก่อนตาก เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของจุดซ่อนเร้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
วันที่ 20 มิถุนายน 2567 เว็บไซต์ ETtoday รายงานปัญหาชวนกลุ้มของสาวไต้หวันรายหนึ่ง กับปัญหาเรื่องกลิ่นที่ยากจะเปิดเผย โดยพบว่าหญิงวัย 20 ปีรายนี้มาขอความช่วยเหลือจากสูตินรีแพทย์ หลังจากที่เธอมีปัญหากลิ่นน้องสาวเหม็นรุนแรง ซึ่งไม่เพียงแค่ตัวเธอที่ได้กลิ่น แม้แต่เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศเองก็ได้กลิ่นเช่นกัน โดยครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมงานถึงกับถามขึ้นว่า "ได้กลิ่นอาหารเน่าไหม"
ด้วยความอับอายทำให้หญิงสาวไม่กล้ายอมรับ ทำได้แค่ปลีกตัวออกมานั่งห่าง ๆ จากเพื่อนร่วมงานคนอื่น และพยายามหลีกเลี่ยงหากมีคนเข้าใกล้ เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่ากลิ่นเน่าเหม็นปริศนานั้นมาจากตัวเธอเอง ก่อนจะมาพบแพทย์เพื่อให้ทำการตรวจรักษา
โดย หลี่เว่ยห่าว สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลเจิ้งซิน เปิดเผยในรายการโทรทัศน์ 醫師好辣 ว่าคนไข้หญิงรายนี้ดูเครียดมากตอนที่มาพบแพทย์ เธอโอดครวญว่ามีบางอย่างกำลังเน่าที่ช่วงล่างของร่างกาย และบอกมีตกขาวที่ส่งกลิ่นเหม็น จากนั้นเมื่อตรวจดูก็พบว่ามีรอยแดงและบวมเล็กน้อยบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งไม่ใช่ปัญหารุนแรงนัก
ในตอนนั้นแพทย์วินิจฉัยว่าน่าจะมีการติดเชื้อราแคนดิดาและเชื้ออีโคไล จึงสั่งจ่ายยาให้เพื่อทำการรักษา แต่หลังจากนั้น 2 สัปดาห์สาวคนนี้ก็กลับมาใหม่ และชี้ว่าอาการของเธอไม่ดีขึ้นเลย แต่เมื่อแพทย์ตรวจซ้ำก็พบว่าไม่ได้มีโรคอื่นนอกจากการติดเชื้อที่เคยตรวจพบแล้ว
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ด้าน จางอวี้ชิน สูตินรีแพทย์จากโรงพยาบาลคาเธ่ย์ ของไต้หวัน เปิดเผยว่า ผู้หญิงจำนวนมากคิดว่าการซักกางเกงในด้วยมือเป็นสิ่งที่ดีกว่า แต่จริง ๆ แล้วการซักกางเกงในด้วยมืออาจทำให้มีผงซักฟอกตกค้างบนผ้า ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณของลับได้ อีกทั้งหากล้างน้ำไม่มากพอ เมื่อนำไปตากก็ยังทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ใช้มือซักเมื่อกางเกงในเปื้อนสารคัดหลั่งหรือประจำเดือนและจำเป็นต้องขยี้แรง ๆ เท่านั้น จากนั้นก็ให้ซักด้วยเครื่องก่อนตาก เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของจุดซ่อนเร้น
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday