เปิดค่าตัวอินฟลูฯ ชื่อดัง ค่าจ้างทำคลิป 350,000 บาท ลงได้ช่องทางเดียว อยากลงช่องทางอื่นจ่ายเพิ่มอีก เจ้าของแบรนด์ยังบ่น ตอนนี้คนทำคลิปรวยกว่าคนลงทุน ด้านหลายคนตั้งคำถาม 350,000 บาท สมน้ำสมเนื้อ หรือ แพงเกินไป

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในยุคที่โซเชียลมีเดียมาแรง หนึ่งในอาชีพเกิดใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาล คือการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทำคลิปรีวิวสินค้าที่ใช้ และเจ้าของแบรนด์ บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ก็เริ่มทุ่มงบโฆษณาไปที่การจ้างอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น จนตอนนี้อินฟลูฯ ดังบางช่อง ค่าตัวแทบจะไม่ต่างกับดารา หรือสูงกว่าด้วยซ้ำ
ล่าสุด 27 มิถุนายน 2567 เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้ออกมาเผยแชตที่มีการสอบถามเรื่องค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ และพบว่าค่าตัวมีดังนี้
- ค่าผลิตคลิปพร้อมลง 1 ช่องทาง : 350,000 ต่อคลิป หากมีการเพิ่มช่องทางการลงคลิป คิดเพิ่ม 20,000 บาทต่อ 1 ช่องทาง หากมีการเพิ่มสินค้า คิดเพิ่ม 35,000 บาทต่อชิ้น
- ทำโค้ดเพื่อบูสต์โพสต์เพิ่มการมองเห็น 1 เดือน 20% ของราคาต่อคลิป ต่อครั้ง โดยต้องซื้อพร้อมผลิตคลิปเท่านั้น
- Buyout Asset (ซื้อขาด) คิด 50% ของราคาคลิป/ช่องทางที่นำไปใช้/6 เดือน
ด้านเจ้าของแบรนด์ก็ถึงกับมาบ่นกับตัวเองว่า ทำไม 10 ปีที่แล้วไม่ยอมทำแบรนด์ ไม่น่ารอให้ตลาดมันโหดขนาดนี้ ใครว่าเป็นเจ้าของแบรนด์แล้วจะสบาย ขอเชิญค่ะ เพราะอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน ค่าจ้างโหดมาก และไม่การันตีด้วยว่าจะได้ยอดเท่าไร ทุกคนติดสัญญากับสินค้าดัง ๆ และอาจจะถึงเวลาแล้วที่เจ้าของแบรนด์ต้องมาถือสินค้าขายเอง "ยุคนี้มันอะไรนี่ ช่วยกูด้วย"
ในขณะที่อีกมุมก็มองว่า ถ้าคุณมองว่าคนที่จะจ้างนั้นแพงไปก็ไม่ต้องจ้าง บางครั้งจ้างดาราแล้วไม่เห็นผลก็มี เพราะลูกค้าก็รู้ว่าดาราไม่ได้ใช้จริง แต่คือการจ้างงานให้ช่วยโปรโมต การที่อินฟลูฯ โดนเอาเรตการ์ดมาเปิดเผยแบบนี้ คงจะเสียใจมาก เพราะกว่าจะผลักดันตัวเองให้มีค่าตัวเท่านี้ ก็คงเหนื่อยมากเช่นกัน รวมไปถึงเพจ จ็อกจ็อก ก็ได้ให้ความเห็นเช่นกันว่า ราคาค่าตัวของอินฟลูฯ ก็เป็นตัวช่วยในการคัดลูกค้าอยู่แล้ว หากเห็นว่าแพงไปก็ไม่ต้องจ้าง มียูทูบเบอร์ดัง ๆ บางคนที่เรตการ์ดเป็นล้านบาทก็มี
ในการจ้างงานนั้น เราต้องดูว่ามีคนติดตามมากน้อยแค่ไหน คุณภาพคลิป คุณภาพงาน ทีมงาน ไอเดีย ชื่อเสียง อินฟลูฯ มีมากน้อยอย่างไร คนทำอินฟลูฯ ก็เหมือนการทำธุรกิจ ทุกอย่างก็หวังกำไร คนที่จ้างอินฟลูฯ ทำการตลาดก็หวังสร้างการรับรู้ให้ลูกค้า เพิ่มยอดขาย แต่จะมามองว่า ลงทุนจ้างอินฟลูฯ ด้วยเงินเท่านี้ ยอดขายต้องกลับเท่านี้ มันคือการมองภาพผิดไป หากหวังยอดขายก็ไปจ้างขายไปเลย ไม่จำเป็นต้องแคปภาพมาโพสต์
![ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์]()
![ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์]()
![ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์]()
![ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ ค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์]()

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในยุคที่โซเชียลมีเดียมาแรง หนึ่งในอาชีพเกิดใหม่ที่สร้างรายได้มหาศาล คือการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ทำคลิปรีวิวสินค้าที่ใช้ และเจ้าของแบรนด์ บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ก็เริ่มทุ่มงบโฆษณาไปที่การจ้างอินฟลูเอนเซอร์มากขึ้น จนตอนนี้อินฟลูฯ ดังบางช่อง ค่าตัวแทบจะไม่ต่างกับดารา หรือสูงกว่าด้วยซ้ำ
ล่าสุด 27 มิถุนายน 2567 เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้ออกมาเผยแชตที่มีการสอบถามเรื่องค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ และพบว่าค่าตัวมีดังนี้
- ค่าผลิตคลิปพร้อมลง 1 ช่องทาง : 350,000 ต่อคลิป หากมีการเพิ่มช่องทางการลงคลิป คิดเพิ่ม 20,000 บาทต่อ 1 ช่องทาง หากมีการเพิ่มสินค้า คิดเพิ่ม 35,000 บาทต่อชิ้น
- ทำโค้ดเพื่อบูสต์โพสต์เพิ่มการมองเห็น 1 เดือน 20% ของราคาต่อคลิป ต่อครั้ง โดยต้องซื้อพร้อมผลิตคลิปเท่านั้น
- Buyout Asset (ซื้อขาด) คิด 50% ของราคาคลิป/ช่องทางที่นำไปใช้/6 เดือน
ด้านเจ้าของแบรนด์ก็ถึงกับมาบ่นกับตัวเองว่า ทำไม 10 ปีที่แล้วไม่ยอมทำแบรนด์ ไม่น่ารอให้ตลาดมันโหดขนาดนี้ ใครว่าเป็นเจ้าของแบรนด์แล้วจะสบาย ขอเชิญค่ะ เพราะอินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน ค่าจ้างโหดมาก และไม่การันตีด้วยว่าจะได้ยอดเท่าไร ทุกคนติดสัญญากับสินค้าดัง ๆ และอาจจะถึงเวลาแล้วที่เจ้าของแบรนด์ต้องมาถือสินค้าขายเอง "ยุคนี้มันอะไรนี่ ช่วยกูด้วย"

ในขณะเดียวกัน
เรื่องนี้ก็ทำให้เสียงแตกออกเป็นสองฝ่าย
บางคนก็บอกว่าตอนนี้อินฟลูเอนเซอร์จะรวยกว่าเจ้าของแบรนด์ไปแล้ว
ทำแค่คลิปเดียว รับ 4-5 งาน รายได้อาจทะลุ 1.8 ล้านบาท จนต้องจด Vat
และถ้าเป็นเรตนี้จริง ก็แสดงว่าค่าตัวไม่ต่างจากดาราดัง ๆ
ซึ่งดาราที่ไปออกงานอีเวนต์ อาจจะต้องหันมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์แทนแล้ว
ในขณะที่อีกมุมก็มองว่า ถ้าคุณมองว่าคนที่จะจ้างนั้นแพงไปก็ไม่ต้องจ้าง บางครั้งจ้างดาราแล้วไม่เห็นผลก็มี เพราะลูกค้าก็รู้ว่าดาราไม่ได้ใช้จริง แต่คือการจ้างงานให้ช่วยโปรโมต การที่อินฟลูฯ โดนเอาเรตการ์ดมาเปิดเผยแบบนี้ คงจะเสียใจมาก เพราะกว่าจะผลักดันตัวเองให้มีค่าตัวเท่านี้ ก็คงเหนื่อยมากเช่นกัน รวมไปถึงเพจ จ็อกจ็อก ก็ได้ให้ความเห็นเช่นกันว่า ราคาค่าตัวของอินฟลูฯ ก็เป็นตัวช่วยในการคัดลูกค้าอยู่แล้ว หากเห็นว่าแพงไปก็ไม่ต้องจ้าง มียูทูบเบอร์ดัง ๆ บางคนที่เรตการ์ดเป็นล้านบาทก็มี
ในการจ้างงานนั้น เราต้องดูว่ามีคนติดตามมากน้อยแค่ไหน คุณภาพคลิป คุณภาพงาน ทีมงาน ไอเดีย ชื่อเสียง อินฟลูฯ มีมากน้อยอย่างไร คนทำอินฟลูฯ ก็เหมือนการทำธุรกิจ ทุกอย่างก็หวังกำไร คนที่จ้างอินฟลูฯ ทำการตลาดก็หวังสร้างการรับรู้ให้ลูกค้า เพิ่มยอดขาย แต่จะมามองว่า ลงทุนจ้างอินฟลูฯ ด้วยเงินเท่านี้ ยอดขายต้องกลับเท่านี้ มันคือการมองภาพผิดไป หากหวังยอดขายก็ไปจ้างขายไปเลย ไม่จำเป็นต้องแคปภาพมาโพสต์



