รถยนต์ไฟฟ้า HEV PHEV BEV EREV และ FCEV ล้วนเป็นรถกลุ่มทางเลือกใหม่นอกเหนือจากรถ ICE ที่เราใช้กันมานาน ว่าแต่คำเหล่านี้ย่อมาจากอะไร แตกต่างกันยังไง แล้วแบบไหนดีสุด

ในวงการรถยนต์มักจะมีการใช้คำย่อเรียกสิ่งต่าง ๆ เยอะแยะมากมายจนหลายคนอาจจะงงไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ซึ่งมีทั้ง HEV PHEV BREV EREV REEV FCEV ที่คาดว่าจะมาแทนรถ ICE (Internal Combustion Engine) หรือรถที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในในอนาคตอันใกล้นี้ แค่นี้ก็งงแล้วใช่ไหม ? ว่าแต่คำย่อพวกนี้คือรถอะไร ต่างกันยังไง มีชื่อเต็มว่าอะไร และรถแบบไหนน่าสนใจที่สุด ซึ่งคนที่สนใจซื้อรถพลังงานใหม่อาจจำเป็นต้องรู้ไว้
แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักกับรถยนต์ NEV ประเภทต่าง ๆ เราควรรู้จักกับรถ ICE กันก่อน ซึ่งย่อมาจาก Internal Combustion Engine หมายถึงรถยนต์แบบเดิมที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนในการขับเคลื่อน มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับรถ BEV และคาดการณ์กันว่าในอนาคตรถ ICE จะเริ่มหายไปในที่สุด แต่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายยังคงพยายามพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ควบคู่กันไปด้วย เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ หรือการใช้ก๊าซไฮโดรเจนแทนน้ำมันเชื้อเพลิงในการจุดระเบิดต่อไป
HEV PHEV BEV EREV NEV
และ FCEV คือรถอะไร

1. HEV รถยนต์ไฮบริด
HEV ย่อมาจากคำว่า Hybrid Electric Vehicle หรือรถยนต์ไฮบริด ซึ่งมีทั้ง MHEV (Mild Hybrid) กับ Full HEV (Full Hybrid) เป็นรถที่ยังติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่ อาศัยมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ขนาดเล็กช่วยเสริมกำลัง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าของระบบ MHEV จะไม่ขับเคลื่อนล้อโดยตรง ขณะที่ Full Hybrid ทำได้ในระยะสั้น ๆ ข้อดีคือ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ปล่อยมลพิษน้อยลง และไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟจากภายนอก
2. PHEV รถปลั๊กอินไฮบริด
PHEV ย่อมาจากคำว่า Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือรถปลั๊กอินไฮบริด หลักการทำงานจะคล้ายกับ HEV เพียงแต่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลกว่า ทำให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยลงไปอีก และต้องชาร์จไฟจากภายนอกคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้โดยตรง แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางวิ่ง เพราะมีเครื่องยนต์ช่วยขับเคลื่อน

3. BEV รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่
BEV ย่อมาจาก Battery Electric Vehicle หรือรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หากจะเรียกง่าย ๆ ว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วนก็ได้เช่นกัน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ข้อดีคือ ขับเคลื่อนโดยไร้มลพิษ มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงบิดสูงได้ในทันที เร่งได้เร็วทันใจ ไม่มีเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น สถานที่พักอาศัยไม่อำนวยต่อการชาร์จ ระยะทางวิ่งจำกัด รวมถึงการชาร์จไฟที่ต้องใช้เวลานานกว่าการเติมน้ำมันค่อนข้างมาก

4. EREV รถยนต์ไฟฟ้าที่ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดเล็กเพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่
EREV ย่อมาจาก Extended Range Electric Vehicle บ้างใช้คำว่า REEV (Range Extended Electric Vehicle) คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่ขยายระยะทางวิ่งด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็กเพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่เท่านั้น แต่รถยังขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน และยังต้องชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอก
อย่างไรก็ตาม มี HEV บางรุ่นที่มีรูปแบบการทำงานใกล้เคียงกับ EREV คือ วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนแต่ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็ก ต้องใช้เครื่องยนต์สร้างกระแสไฟตลอดเวลา และไม่สามารถชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้
5. รถ FCEV รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง
FCEV ย่อมาจาก Fuel Cell Electric Vehicle หรือรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเหมือน BEV แต่ใช้ไฮโดรเจนเหลวมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าด้วยเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell) ซึ่งข้อดีคือ ใช้แบตเตอรี่ขนาดเล็กกว่า BEV ระยะเวลาที่ใช้ในการเติมไฮโดรเจนใกล้เคียงกับรถที่เติมน้ำมัน

นอกจากนี้ ไฮโดรเจน พลังงานแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก สามารถผลิตได้จากแหล่งวัตถุดิบหลายประเภท ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่เป็นพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนกว่า
ทำให้ในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ๆ ต่างพัฒนาเทคโนโลยี FCEV เพื่อรองรับพลังงานรูปแบบใหม่ควบคู่ไปกับ BEV ซึ่ง กลุ่ม ปตท. ได้เตรียมความพร้อม และนำร่องผลักดันเทคโนโลยีไฮโดรเจนทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน และภาคขนส่งของประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มขีดความสามารถการเเข่งขันของประเทศ ควบคู่กับการบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างสมดุล จึงได้มีการริเริ่มโครงการนำร่องการติดตั้งสถานีเติมไฮโดรเจน (Hydrogen Refueling Station) เพื่อทดสอบการใช้งานไฮโดรเจนในรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle : FCEV) แห่งแรกของประเทศไทย ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยความร่วมมือของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT), บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR), บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (TMT) และ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (BIG) โดยการนำรถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง รุ่น Toyota Mirai จำนวน 2 คัน บริการในรูปแบบรถรับ-ส่งระหว่างสนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี (U-Tapao Limousines) สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารในพื้นที่พัทยา ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมีการต่อยอดสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนให้รองรับรถบรรทุกขนส่งและรถหัวลาก

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

ภาพจาก : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ กลุ่มยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle : NEV) ที่จะมาทดแทนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน อาจไม่ได้เจาะจงแค่รถพลังงานแบบใดแบบหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพราะอนาคตเป็นเรื่องคาดเดาได้ยากว่ารถยนต์รวมถึงพลังงานที่ใช้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยและไม่มีความตายตัว แต่เชื่อแน่ว่าจะก้าวไปสู่ยุคแห่งพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดปัญหาโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ให้เป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า