รวบนักต้มตุ๋นระดับแม่ทีม หลอกลงทุนมหาศาล แปลงโฉมเป็นสายบุญ ตบตาแต่ไม่รอด

          รวบ เมย์ ตัวการระดับแม่ทีม ตุ๋นลงทุน เสียหายร่วม 5 ล้าน พบแปลงโฉมอำพรางตัว ขยันเปลี่ยนทรงเป็นสายบุญ แฝงตัวรวบได้คาวัดดัง


          วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 สืบนครบาล IDMB รายงานข่าวการจับกุม น.ส.พิมพ์ประภัสสร หรือ เมย์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายสำคัญระดับหัวเรือ หรือ แม่ทีม หลอกลงทุน Forex ซึ่งพบว่าเจ้าตัวยังใช้วิธีการแปลงโฉมเพื่ออำพรางตัวระหว่างการหลบหนีตำรวจ สวมคราบสายบุญ แต่ก็หนีไม่รอด
 
          โดยวานนี้ (6 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สามารถจับกุม น.ส.พิมพ์ประภัสสร ได้ภายในลานจอดรถวัด ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่ง น.ส.พิมพ์ประภัสสร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ จ.105/2566 ลงวันที่2 มีนาคม 2566 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน


          สำหรับพฤติการณ์ของคนร้าย พบว่าประมาณปี 2560 ที่แชร์ลูกโซ่ออนไลน์เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย บริษัท โอดี แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในนั้น ได้กล่าวอ้างว่ารับฝากเงินลงทุน นำไปเพิ่มมูลค่าโดยการนำไปเทรดค่าเงิน Forex โดยรับรองกำไรที่ได้จากการลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ทำให้มีคนหลงเชื่อร่วมลงทุนจำนวนมาก

          สำหรับ น.ส.พิมพ์ประภัสสร จัดเป็นแม่ทีมคนสำคัญที่ชักชวนคนมาร่วมลงทุนได้เป็นจำนวนมาก และยังมีการไซโคต่อ ๆ กันว่า หากสามารถชักชวนคนมาร่วมลงทุนได้เยอะ ๆ จะได้สิทธิพิเศษ ไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้คนสนใจร่วมลงทุนจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายจากการถูกหลอกลงทุน เป็นเงินกว่า 5,000,000 บาท

          หลังวงแชร์ล่ม ผู้บริหารบริษัทเริ่มถูกจับกุม ในขณะที่ น.ส.พิมพ์ประภัสสร ได้ผันตัวมาเป็นเจ้าแม่สายบุญ

          อย่างไรก็ตาม ต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังจากไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง และไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้ นำมาสู่การออกหมายเรียก แต่ผู้ต้องหาไม่มาตามหมายเรียก จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ
 
          จากนั้นทีมงานสืบนครบาลสืบทราบว่า ผู้ต้องหามักไปทำบุญที่วัดทุกวันพระเป็นประจำ โดยมีการปรับเปลี่ยนทรงผมอยู่บ่อยครั้ง เพื่ออำพรางตัวไม่ให้เจ้าหน้าที่จำจดได้ ชุดสืบสวนจึงส่งตำรวจหญิงใส่ชุดขาว แฝงตัวไปร่วมทำบุญและปฏิบัติธรรมในวัดดังย่านคลองหลวง จนพบตัว น.ส.พิมพ์ประภัสสร ที่เปลี่ยนทรงผมใหม่อีกครั้ง โดยใส่วิกผมสีน้ำตาลติดโบสีขาวด้านหลัง จึงเฝ้ารอจนเสร็จสิ้นการปฏิบัติธรรมและจับกุมตัวได้คาวัด

          ด้านผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นจับกุม อ้างว่าสิ่งที่ตนทำเป็นการลงทุนจริง ๆ ไม่ได้ฉ้อโกง เพราะก็ได้เงินจริง แต่เรื่องที่เป็นคดีความ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2560 ตนถูกคนรู้จักชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการเทรดหุ้น ซึ่งตนก็ได้เงินจริง ได้กำไรจากการลงทุนร้อยละ 7 ต่อเดือน จากนั้นจึงเริ่มชักชวนคนรอบตัวให้มาลงทุนเพิ่ม

          โดยตนได้ไปถ่ายรูปร้านเพชรและกิจการที่จังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดความน่าเชื่อถือ ทำให้มีคนสนใจมาลงทุนด้วยจำนวนมาก ต่อมาในปี 2561 บริษัทที่ลงทุนเริ่มประสบปัญหาในการจ่ายปันผล ไม่ได้เงินตามที่ลงทุนไป ตนจึงไม่ได้จ่ายเงินให้กับคนที่ตนชักชวนมา จึงเกิดเป็นคดีความ

          ในส่วนที่เปลี่ยนทรงผมบ่อย เพราะตนเพิ่งสึกจากการบวชแถววัดในพิษณุโลก ผมสั้น เลยต้องสวมวิกผมยาว อีกทั้งยังเกิดจากลูกชายบอกให้เปลี่ยน เพราะได้ไอเดียในการเปลี่ยนทรงผมใหม่ ๆ ตามสื่อออนไลน์ ขอยืนยันว่าตนชอบการทำบุญและการปฏิบัติธรรม
 
          ทั้งนี้ หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก สืบนครบาล