รวบตัว หนุ่มวัย 26 ก่อเหตุฆ่าแกร็บ นำรถไปชิงทอง 70 บาทในห้างดังเชียงใหม่ ตร. เผย พฤติกรรรมเลียนแบบเกม วางแผนเป็นขั้นตอนข้ามปี เปิดไทม์ไลน์ก่อเหตุ
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีคนร้ายชิงทองคำน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ในห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จากนั้นขับรถยนต์หลบหนีแล้วมีผู้พบว่าถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยตำรวจตรวจสอบพบรอยเลือดจำนวนมากภายในรถนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (9 กรกฎาคม 2567) ข่าวช่อง 3 รานงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 8 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมร้ายที่ก่อเหตุได้ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ โดยเบื้องต้นพบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนีนั้น เป็นรถที่ได้มาจากการฆ่าชิงทรัพย์
โดยพบว่าคนร้ายทำทีเป็นผู้โดยสารเรียกแกร็บมารับ ก่อนลงมือฆ่าคนขับรถ แล้วเอาศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณจุดชมวิวดอยสุเทพ จากนั้นนำรถไปใช้ก่อเหตุและเอามาจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยเอาทองคำที่ชิงมาได้ไปเร่ขายตามร้านทองในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ เนื่องจากเห็นสัญลักษณ์ของร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุติดอยู่ และแจ้งเบาะแสให้ตำรวจทราบ จนกระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
พล.ต.ท. กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำทีมคุมตัว นายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี คนร้ายชิงทองน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท บนห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ไปชี้จุดฆ่า ว่าที่ร้อยโทสุเทพ อายุ 48 ปี ก่อนชิงรถยนต์ซึ่งเรียกผ่านแอปพลิเคชัน แล้วทิ้งศพหมกป่าดอยสุเทพ พบวางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่เอารถไปจอดทิ้งแล้วเรียกรถผ่านแอปฯ มารับ ก่อนลงมือฆ่าคนขับรถและทิ้งศพ แล้วนำรถไปใช้ชิงทองและหลบหนี ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ต้องหาติดเกมประเภทใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เชื่อส่วนหนึ่งได้จากพฤติกรรมเลียนแบบเกม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
- ก่อนก่อเหตุคนร้ายมีการวางแผนมาก่อน ทั้งการไปดูร้านทองเป้าหมายหลายวันต่อเนื่อง มีการวางแผนเส้นทางหลบหนี หาอุปกรณ์และเครื่องมือในการก่อเหตุ มีการซื้อปืนเตรียมไว้ วางแผนเรื่องของขั้นตอนการหารถเพื่อใช้หลบหนี ศึกษาและสำรวจเส้นทางเดินป่าของดอยสุเทพเพื่ออำพรางศพ
- เริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 กรกฎาคม ขับรถเก๋งส่วนตัวไปจอดไว้ที่เส้นทางเดินป่าใกล้อ่างเก็บน้ำกาแล แล้วเดินเท้าเข้าป่าใช้เส้นทางที่จะเดินป่าลัดมาออกที่วัดผาลาด จากนั้นเดินออกมายังถนนห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ ไปยังน้ำตกผาลาด ซึ่งอยู่ริมถนน
- คนร้ายสุ่มเรียกรถโดยสารผ่านแอปฯ ให้ขึ้นมารับ แล้วชักปืนจ่อยิงคนขับรถที่ท้ายทอยทันที จากนั้นก็ลากศพผู้ตายไปไว้ด้านหลัง
- คนร้ายใช้รถที่เรียกมา ขับลงจากจุดที่เรียกรถไปไม่ไกล ซึ่งช่วงที่ก่อเหตุนั้นยังเป็นช่วงเช้ามืด ยังไม่ค่อยมีคนใช้ถนนผ่านไป-มา
- นำรถมาจอดที่ศาลาที่พักริมทาง ช่วงก่อนจะขึ้นมาถึงวัดผาลาด ซึ่งด้านหลังศาลาเป็นป่ารกและลาดชัน ก่อนลากศพลงไปทิ้งอำพรางในป่า ห่างจากศาลาลงไปประมาณ 50 เมตร
- คนร้ายเปลี่ยนเป็นชุดของไรเดอร์ และปิดบังอำพรางใบหน้า ขับรถของผู้ตายไปที่ห้าง เข้าไปก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น.
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
- หลังจากก่อเหตุ ได้นำรถของผู้ตายขับขึ้นดอยสุเทพอีกครั้ง และนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณจุดที่เคยเรียกรถให้มารับ และเดินกลับเข้ามาตามเส้นทางป่า เพื่อลงมาเอารถของตนเองที่กาแล ก่อนที่จะขับกลับเข้ามาในเมือง เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อหลืองแขนยาว เปิดหน้า สวมแว่นสายตา
- คนร้ายตระเวนนำทองไปเดินขายตามร้านทองย่านตลาดวโรรส แต่ไม่มีร้านไหนรับซื้อ เนื่องจากทองทุกเส้นมีสัญลักษณ์ของห้างทองที่ถูกชิงทอง และมีการแจ้งข่าวกันในกลุ่มร้านทอง จึงได้ขับรถไปยังพื้นที่ อ.สันกำแพง เพื่อขายทอง 1 เส้นหนัก 2 บาท และไปขายร้านทองที่อำเภอดอยสะเก็ดอีก 1 เส้น หนัก 2 บาท
- คนร้ายกลับบ้านพักใน อ.ดอยสะเก็ด ก่อนที่ตำรวจจะแกะรอยติดตามจับกุมได้ในที่สุด พร้อมของกลางทองที่เหลืออีก 70 บาท
จากการสอบสวนและลักษณะการก่อเหตุแล้ว เชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากตามประวัติพบว่าคนร้ายเป็นเด็กติดเกม ชื่นชอบการเล่นเกมวางแผนและใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในการวางแผนก่อเหตุเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น คาดว่ามาจากปัญหาทางการเงิน เพราะไม่ได้ทำงาน หรือประกอบอาชีพใด ๆ อย่างไรก็ตามจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เปิดเผยว่า คนร้ายเผยสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่บ้าน มีการวางแผนมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 สอบปากคำและตรวจสอบประวัติพบ พ่อแม่มีหนี้สินเยอะถึง 10 ล้าน จากแชร์ลูกโซ่
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีคนร้ายชิงทองคำน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ในห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จากนั้นขับรถยนต์หลบหนีแล้วมีผู้พบว่าถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยตำรวจตรวจสอบพบรอยเลือดจำนวนมากภายในรถนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (9 กรกฎาคม 2567) ข่าวช่อง 3 รานงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 8 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมร้ายที่ก่อเหตุได้ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และควบคุมตัวไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ โดยเบื้องต้นพบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและหลบหนีนั้น เป็นรถที่ได้มาจากการฆ่าชิงทรัพย์
โดยพบว่าคนร้ายทำทีเป็นผู้โดยสารเรียกแกร็บมารับ ก่อนลงมือฆ่าคนขับรถ แล้วเอาศพไปทิ้งไว้ที่บริเวณจุดชมวิวดอยสุเทพ จากนั้นนำรถไปใช้ก่อเหตุและเอามาจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยเอาทองคำที่ชิงมาได้ไปเร่ขายตามร้านทองในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ เนื่องจากเห็นสัญลักษณ์ของร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุติดอยู่ และแจ้งเบาะแสให้ตำรวจทราบ จนกระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
พล.ต.ท. กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำทีมคุมตัว นายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี คนร้ายชิงทองน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท บนห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ไปชี้จุดฆ่า ว่าที่ร้อยโทสุเทพ อายุ 48 ปี ก่อนชิงรถยนต์ซึ่งเรียกผ่านแอปพลิเคชัน แล้วทิ้งศพหมกป่าดอยสุเทพ พบวางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่เอารถไปจอดทิ้งแล้วเรียกรถผ่านแอปฯ มารับ ก่อนลงมือฆ่าคนขับรถและทิ้งศพ แล้วนำรถไปใช้ชิงทองและหลบหนี ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ต้องหาติดเกมประเภทใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เชื่อส่วนหนึ่งได้จากพฤติกรรมเลียนแบบเกม
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เปิดไทม์ไลน์คนร้าย วางแผนดูลาดเลา-ลงมือเหี้ยม
- ก่อนก่อเหตุคนร้ายมีการวางแผนมาก่อน ทั้งการไปดูร้านทองเป้าหมายหลายวันต่อเนื่อง มีการวางแผนเส้นทางหลบหนี หาอุปกรณ์และเครื่องมือในการก่อเหตุ มีการซื้อปืนเตรียมไว้ วางแผนเรื่องของขั้นตอนการหารถเพื่อใช้หลบหนี ศึกษาและสำรวจเส้นทางเดินป่าของดอยสุเทพเพื่ออำพรางศพ
- เริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 กรกฎาคม ขับรถเก๋งส่วนตัวไปจอดไว้ที่เส้นทางเดินป่าใกล้อ่างเก็บน้ำกาแล แล้วเดินเท้าเข้าป่าใช้เส้นทางที่จะเดินป่าลัดมาออกที่วัดผาลาด จากนั้นเดินออกมายังถนนห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ ไปยังน้ำตกผาลาด ซึ่งอยู่ริมถนน
- คนร้ายสุ่มเรียกรถโดยสารผ่านแอปฯ ให้ขึ้นมารับ แล้วชักปืนจ่อยิงคนขับรถที่ท้ายทอยทันที จากนั้นก็ลากศพผู้ตายไปไว้ด้านหลัง
- คนร้ายใช้รถที่เรียกมา ขับลงจากจุดที่เรียกรถไปไม่ไกล ซึ่งช่วงที่ก่อเหตุนั้นยังเป็นช่วงเช้ามืด ยังไม่ค่อยมีคนใช้ถนนผ่านไป-มา
- นำรถมาจอดที่ศาลาที่พักริมทาง ช่วงก่อนจะขึ้นมาถึงวัดผาลาด ซึ่งด้านหลังศาลาเป็นป่ารกและลาดชัน ก่อนลากศพลงไปทิ้งอำพรางในป่า ห่างจากศาลาลงไปประมาณ 50 เมตร
- คนร้ายเปลี่ยนเป็นชุดของไรเดอร์ และปิดบังอำพรางใบหน้า ขับรถของผู้ตายไปที่ห้าง เข้าไปก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น.
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
- หลังจากก่อเหตุ ได้นำรถของผู้ตายขับขึ้นดอยสุเทพอีกครั้ง และนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณจุดที่เคยเรียกรถให้มารับ และเดินกลับเข้ามาตามเส้นทางป่า เพื่อลงมาเอารถของตนเองที่กาแล ก่อนที่จะขับกลับเข้ามาในเมือง เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อหลืองแขนยาว เปิดหน้า สวมแว่นสายตา
- คนร้ายตระเวนนำทองไปเดินขายตามร้านทองย่านตลาดวโรรส แต่ไม่มีร้านไหนรับซื้อ เนื่องจากทองทุกเส้นมีสัญลักษณ์ของห้างทองที่ถูกชิงทอง และมีการแจ้งข่าวกันในกลุ่มร้านทอง จึงได้ขับรถไปยังพื้นที่ อ.สันกำแพง เพื่อขายทอง 1 เส้นหนัก 2 บาท และไปขายร้านทองที่อำเภอดอยสะเก็ดอีก 1 เส้น หนัก 2 บาท
- คนร้ายกลับบ้านพักใน อ.ดอยสะเก็ด ก่อนที่ตำรวจจะแกะรอยติดตามจับกุมได้ในที่สุด พร้อมของกลางทองที่เหลืออีก 70 บาท
จากการสอบสวนและลักษณะการก่อเหตุแล้ว เชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากตามประวัติพบว่าคนร้ายเป็นเด็กติดเกม ชื่นชอบการเล่นเกมวางแผนและใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในการวางแผนก่อเหตุเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น คาดว่ามาจากปัญหาทางการเงิน เพราะไม่ได้ทำงาน หรือประกอบอาชีพใด ๆ อย่างไรก็ตามจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เปิดเผยว่า คนร้ายเผยสาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่บ้าน มีการวางแผนมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 สอบปากคำและตรวจสอบประวัติพบ พ่อแม่มีหนี้สินเยอะถึง 10 ล้าน จากแชร์ลูกโซ่
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, เรื่องเล่าเช้านี้