ครอบครัวจองโรงแรม จัดงานเลี้ยง 34 โต๊ะ ฉลองลูกสอบติด แต่ไม่มีคนมาร่วมยินดี ไม่เข้าใจผิดที่ตรงไหน คนถกเดือด

ภาพจาก Weibo
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 เว็บไซต์ Sina เผยว่า
มีเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในประเทศจีน
ถูกแชร์เป็นประเด็นถกเถียงร้อนแรงบนโซเชียลมีเดีย
ภายหลังจากครอบครัวนี้ออกมาระบายความทุกข์ เผยว่า เมื่อไม่นานมานี้
พวกเขาได้จองห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในมณฑลเฮย์หลงเจียง
เพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับลูกที่สอบติดมหาวิทยาลัย โดยมีทั้งหมด 34 โต๊ะ
จัดเรียงไว้อย่างประณีตสวยงามเป็นระเบียบ เตรียมพร้อมสำหรับเสิร์ฟอาหารดี ๆ
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงวันงานจริง ๆ กลับไม่มีแขกมาร่วมงานดังกล่าว
ภาพงานจัดเลี้ยงที่กว้างขวางจึงยิ่งดูว่างเปล่า
ราวกับเป็นงานร้างที่ไร้ซึ่งแขกมายินดี ทางครอบครัวรู้สึกเป็นกังวลใจ
จึงพากันกระสับกระส่ายเดินไปเดินมา เพื่อดูว่าจะมีใครมาหรือไม่
แต่ก็ต้องผิดหวัง ท้ายที่สุดมีคนมาร่วมงานของพวกเขาเพียงแค่ 4 คน
ซึ่งเป็นญาติ นั่งเพียงโต๊ะเดียวยังไม่เต็ม
ทั้งผู้เป็นพ่อและแม่รู้สึกทั้งไม่พอใจและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน
พวกเขาแค่ภาคภูมิใจและต้องการจะเลี้ยงฉลองความสำเร็จของลูก
ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงไม่มีคนมาร่วมงาน
ทำให้ต้องสูญเสียเงินจำนวนมากไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกโกรธมากแค่ไหน แต่ก็โทษว่าใครไม่ได้
เพราะพวกเขาไม่สามารถบังคับใครให้มาได้
ภาพจาก Weibo
ภายหลังจากเรื่องราวถูกนำไปเผยแพร่ต่อกันบนโลกออนไลน์
ผู้ใช้โซเชียลต่างก็พากันเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือด
โดยวิเคราะห์สาเหตุเอาไว้หลายทฤษฎี ส่วนหนึ่งคาดเดาว่า
ครอบครัวนี้อาจจะไม่มีน้ำใจกับคนอื่น
เมื่อถึงเวลาที่ต้องการให้คนอื่นมาร่วมแสดงความยินดี
จึงไม่มีใครเต็มใจที่มา
หรืออีกกรณีหนึ่งคือ
งานเลี้ยงของเขาอาจจะไม่ได้ระบุว่า
แขกที่มาร่วมงานจะต้องใส่ซองให้ด้วยหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่มีใครมา
เพราะไม่อยากจะเสียเงินไปกับงานที่ไม่จำเป็น
ยิ่งในปัจจุบันที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี นอกจากนี้
ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นว่า
ในสมัยนี้การสอบติดมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
ไม่ได้เป็นเรื่องยากเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน
ที่มีเพียงไม่กี่คนที่จะสอบติด วิธีการเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิมจึงค่อย ๆ
หมดความสำคัญไป
บางคนก็มองว่างานเลี้ยงฉลองสอบติดของลูก
เป็นงานที่ฟุ่มเฟือยไร้สาระ ยิ่งกรณีนี้ที่จัดงานเอิกเกริกใหญ่โต
ทางพ่อแม่ควรนำเงินไปจ่ายค่าเรียนพิเศษ
หรือกวดวิชาให้ลูกเพื่อเตรียมพร้อมก่อนเข้ามหาวิทยาลัยจะดีกว่า ในขณะที่อีกส่วนมองว่า
ความสำเร็จของลูกพวกเขา ไม่ใช่ความภาคภูมิใจของคนอื่น ตรงกันข้าม
อาจจะยิ่งเพิ่มความกดดัน หรือเกิดการเปรียบเทียบกับครอบครัวตัวเอง
ดังนั้นจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกยินดีและต้องการไปร่วมฉลองด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Sina