จับฆาตกรต่อเนื่อง ฆ่าหั่น 42 ศพทิ้งกองขยะ รวมเมียตัวเอง นำกำลังคุ้ยเจอแล้ว 9 ศพ

          สะเทือนขวัญ ชายเคนยารับสารภาพ ฆ่าหั่นศพผู้หญิง 42 คน รวมถึงภรรยาตัวเอง ทิ้งกองขยะ สังคมผวา ตอนนี้คุ้ยเจอแล้ว 9 ศพ อึ้งลงมือมา 2 ปีไม่มีใครรู้


          วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 สำนักข่าวอัลจาซีรา และบีบีซี มีรายงานคดีสะเทือนขวัญหลังพบหญิงถูกฆ่าหั่นศพในจุดทิ้งขยะในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา นำมาสู่การเปิดโปงฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุฆาตกรรมหญิง 42 คน รวมถึงภรรยาของตนเอง โดยตอนนี้ชายผู้ต้องสงสัยได้ยอมรับสารภาพกับทางตำรวจแล้ว

          การค้นพบสุดสยองมีขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เมื่อศพของเหยื่อที่ถูกหั่นและชำแหละ หุ้มด้วยถุงพลาสติก ถูกพบจากกองขยะในสลัมมูกูรู ทางตอนใต้ของกรุงไนโรบี จนสร้างความหวาดผวาไปทั่วประเทศ ทางตำรวจจึงได้ทำการปิดล้อมจุดทิ้งขยะดังกล่าวเพื่อทำคดี โดยขณะนี้มีศพที่ถูกพบแล้วทั้งสิ้น 9 ราย ทั้งหมดเป็นศพผู้หญิง อยู่ในสภาพเน่าเปื่อยระยะที่แตกต่างกัน


          เหตุสะเทือนขวัญนี้นำมาสู่การสอบสวนไล่ล่าตัวคนร้าย กระทั่งวันที่ 15 กรกฎาคม เวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัว คอลลินส์ จูไมซี คาห์ลูซา ชายวัย 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลักได้ บริเวณบาร์แห่งหนึ่ง ขณะกำลังดูการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบไฟนอล ระหว่าง สเปน พบ อังกฤษ จากนั้นเขาจึงนำเจ้าหน้าที่ไปยังบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งมีการพบโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง แล็ปท็อป บัตรประชาชน พร้อมเสื้อผ้าของผู้หญิงที่นั่น

          ด้าน มูฮัมหมัด อามิน ผู้บัญชาการกองกำกับการสืบสวนอาชญากรรม เผยกับสื่อว่า ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยหลักรับสารภาพแล้วว่าได้ล่อลวง สังหาร และนำศพของผู้หญิง 42 คนมากำจัดที่จุดทิ้งขยะ ขณะนี้เรากำลังรับมือกับฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตที่ไม่มีความเคารพต่อชีวิตมนุษย์

          ขณะที่ ดักลาส กันจา รักษาการผู้บัญชาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยหลักได้ เป็นชายวัย 33 ปี ภายใต้การทำงานร่วมกันของกองกำกับการสืบสวนอาชญากรรมและกรมตำรวจแห่งชาติ

          นอกจากนี้ผู้ต้องสงสัยอีกรายซึ่งพบว่ามีโทรศัพท์มือถือของเหยื่อนั้น ก็ถูกจับกุมแล้วเช่นกัน
 
          ทางตำรวจระบุว่า คาห์ลูซารับสารภาพว่าได้ลงมือฆ่าผู้หญิงจำนวน 42 คน มาตั้งแต่ปี 2565 รวมถึงภรรยาของเขาเอง โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิงอายุระหว่าง 18-30 ปี พวกเธอถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันทั้งหมด

          เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดผวาและความโกรธแค้นทั่วประเทศเคนยา โดยความเดือดดาลยังมุ่งเป้ามายังตำรวจ ที่ปล่อยให้เกิดอาชญากรรมนี้ขึ้นโดยไม่มีใครรู้มาเป็นเวลานาน และกลายเป็นอีกเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนจับตามองการทำงานของตำรวจเคนยา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกกล่าวหาเรื่องการละเมิดมนุษยชนมาแล้ว

          คดีที่เกิดขึ้นยังเพิ่มความกดดันแก่ประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา ซึ่งกำลังตกที่นั่งลำบากในการควบคุมวิกฤตการณ์ จากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่กระจายไปในวงกว้าง และมีผู้ประท้วงเสียชีวิตไปแล้วหลายสิบคน โดยการประท้วงนี้เกิดขึ้นหลังรัฐบาลขึ้นภาษี ในขณะที่ประชาชนยังดิ้นรนอยู่กับวิกฤตค่าครองชีพ
 

ขอบคุณข้อมูลจาก Aljazeera, BBC