ชายไอต่อเนื่องมา 2 ปี กินยาก็ยังไม่หาย สุดท้ายไปส่องกล้องนึกว่าเป็นโรคร้าย ใครจะรู้เจอสาเหตุ มาจากอาหารมื้อเดียวที่เคยกิน
รายงานเผยว่า นับตั้งแต่นายสวีเริ่มมีอาการไอ เขาก็พยายามหายากินระงับอาการมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ทำให้เขาเริ่มกังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งปอด จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและรับการรักษา สุดท้ายเขาก็เตรียมที่จะรับการผ่าตัด โดยมีการส่องกล้องหลอดลมก่อน ตอนนั้นเองแพทย์จึงพบสิ่งแปลกปลอมที่ซ่อนอยู่ในเยื่อบุผิวของขั้วปอดที่เชื่อมกับส่วนล่างของปอดข้างขวา และปรากฏว่าสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวก็คือเศษพริก
สิ่งที่ค้นพบทำให้นายสวีถึงกับโล่งใจที่ไม่ได้เป็นโรคร้ายอย่างที่กังวล และนึกขึ้นได้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน เขาเคยสำลักพริกระหว่างกินหม้อไฟเผ็ดร้อน
![สำลักพริก สำลักพริก]()
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
ในเรื่องนี้ เหล่า จิง ศัลยแพทย์ทรวงอก
เผยว่า ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์จะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งแปลกปลอมที่แตกต่างกัน
หากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหลอดลมก็ง่ายที่จะเกิดอาการไอรุนแรง
แต่หากสิ่งแปลกปลอมหลุดไปถึงขั้วปอดก็อาจไม่แสดงอาการที่เห็นได้ชัด ผู้ป่วยก็อาจจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยสำลักอาหาร
ทำให้สิ่งแปลกปลอมติดค้างอยู่แบบนั้น
เป็นที่มาของอาการไอเรื้อรังและปอดติดเชื้อ
ขณะที่ จู ซินไห่ ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทรวงอก วิเคราะห์ว่า นายสวีน่าจะสำลักตอนกินหม้อไฟ ทำให้มีเศษพริกหลุดเข้าไปในหลอดลมลงปอด จากนั้นจึงเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เซลล์ในส่วนนั้นเพิ่มจำนวน โดยเศษพริกซ่อนอยู่ใต้เนื้อเยื่อที่เพิ่มขึ้นมา ยากที่จะตรวจพบด้วยวิธีการทั่วไป
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงเตือนว่า หากมีอาการไอต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานโดยที่อาการไม่ดีขึ้น รวมถึงไม่พบสาเหตุ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจรักษา เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งแปลกปลอมในหลอดลมด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เว็บไซต์มิเรอร์มีเดีย รายงานว่า ชายนามสกุลสวี วัย 54 ปี จากเมืองหางโจว ประเทศจีน เพิ่งจะเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเมื่อไม่นานมานี้ หลังมีอาการไอต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปี แถมอาการก็ไม่ดีขึ้น ทำให้เขาเริ่มกังวลว่าจะเป็นโรคร้าย ซ้ำผลการทำซีทีสแกนยังพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมในปอดฝั่งขวา รวมถึงต่อมน้ำเหลืองบวม แต่ใครเลยจะคิดว่าระหว่างการส่องกล้องหลอดลมจะพบว่าต้นเหตุที่แท้จริงคือเศษพริกที่เขาเคยสำลักระหว่างมื้ออาหารเมื่อ 2 ปีก่อน รายงานเผยว่า นับตั้งแต่นายสวีเริ่มมีอาการไอ เขาก็พยายามหายากินระงับอาการมาโดยตลอด แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ทำให้เขาเริ่มกังวลว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายอย่างมะเร็งปอด จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและรับการรักษา สุดท้ายเขาก็เตรียมที่จะรับการผ่าตัด โดยมีการส่องกล้องหลอดลมก่อน ตอนนั้นเองแพทย์จึงพบสิ่งแปลกปลอมที่ซ่อนอยู่ในเยื่อบุผิวของขั้วปอดที่เชื่อมกับส่วนล่างของปอดข้างขวา และปรากฏว่าสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวก็คือเศษพริก
สิ่งที่ค้นพบทำให้นายสวีถึงกับโล่งใจที่ไม่ได้เป็นโรคร้ายอย่างที่กังวล และนึกขึ้นได้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อน เขาเคยสำลักพริกระหว่างกินหม้อไฟเผ็ดร้อน

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
ขณะที่ จู ซินไห่ ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมทรวงอก วิเคราะห์ว่า นายสวีน่าจะสำลักตอนกินหม้อไฟ ทำให้มีเศษพริกหลุดเข้าไปในหลอดลมลงปอด จากนั้นจึงเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้เซลล์ในส่วนนั้นเพิ่มจำนวน โดยเศษพริกซ่อนอยู่ใต้เนื้อเยื่อที่เพิ่มขึ้นมา ยากที่จะตรวจพบด้วยวิธีการทั่วไป
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงเตือนว่า หากมีอาการไอต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานโดยที่อาการไม่ดีขึ้น รวมถึงไม่พบสาเหตุ ควรไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจรักษา เพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งแปลกปลอมในหลอดลมด้วย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Mirror Media