เตือนภัย คนไทยขึ้นเครื่องไปฮ่องกง เจอแก๊งโจรฉกเงินเกือบล้าน อึ้งเที่ยวบินเดียวเจอ 2 เคส

          คนไทยเตือนภัย ขึ้นเครื่องไปฮ่องกงเจอขโมยเงินเกือบล้าน คาดฝีมือแก๊งมิจฉาชีพชาวจีน พบเที่ยวบินเดียวมีเหยื่อถึง 2 เคส

          วันที่ 22 กรกฎาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict  เปิดเผยเรื่องราวเตือนภัยคนที่ต้องเดินทางบนเครื่องบินไปต่างประเทศและนำของมีค่าติดตัวขึ้นไปด้วย หลังมีคนไทยซึ่งเดินทางไปฮ่องกงมาพร้อมครอบครัว แต่กลับเจอกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาขโมยทรัพย์สินไป โดยคาดว่ากลุ่มนี้ทำกันเป็นขบวนการ และไม่ได้มีเหยื่อเพียงแค่รายเดียว

          เจ้าของเรื่องราว เล่าว่า ตนกับครอบครัวเดินทางจากฮ่องกงกลับไปเที่ยวเมืองไทย ก่อนจะบินกลับฮ่องกงเมื่อวันที่ 16 กรฎาคม เที่ยวบิน TG 602 เป็นเครื่องเล็ก คนไม่ค่อยนั่ง เพราะไม่มีจอทีวี  ตนกับครอบครัวนั่ง 43J 43H 43K  และบริเวณรอบ ๆ ไม่มีคนนั่ง ทั้งด้านซ้าย ด้านหน้า ส่วนด้านหลังถัดไป 2-3 แถว จะมีกลุ่มชายจีนแผ่นดินใหญ่นั่งอยู่

          หลังจากเครื่องเทคออฟแล้ว ภรรยาเปิดกระเป๋า Laptop เพื่อจะหยิบ Ipad แล้วเอากระเป๋าไว้ที่เดิม ในกระเป๋า มีกระเป๋าซิปอีก 1 ใบ มีเงินสดอยู่ประมาณ 188,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 8.7 แสนบาท) หลังจากทานอาหารบนเครื่อง ตนกับภรรยาและลูกสาวก็หลับไป

          พอตื่นมาก็นั่งดูหนังที่โหลดไว้ในโทรศัพท์จนกระทั่งเครื่องเตรียมลงจอด หลังจากเครื่องจอดแล้ว ทุกคนก็ลุกกันหมดเพื่อเตรียมหยิบสำภาระและเตรียมลงเครื่อง ตนเองและครอบครัวก็มีสัมภาระมาเยอะ เพราะซื้อขนมของฝาก ก็เลยบอกให้คนข้างหลังเดินผ่านไปก่อนเลย เพราะตนนั้นจะลงทีหลัง

          จังหวะนั้นเริ่มสังเกตความผิดปกติ กลุ่มชาย 3-4 คน พูดภาษาจีนกลาง แล้วบอกว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบ ค่อย ๆ เก็บของ ประตูยังไม่เปิดเลย" แล้วกลุ่มชายพวกนี้ก็ยืนบล็อกไม่ให้คนข้างหลังออกไปก่อ ตนก็บอกว่า "ไปก่อนเลย เพราะกระเป๋าน่าจะกลิ้งไปอยู่ข้างหลังที่ช่องเก็บของเหนือหัว" (ตอนแรกคิดว่าน่าจะเพราะ ตอนเครื่องขึ้น-ลง-เลี้ยว ทำให้กระเป๋า Laptop และ Hand carry Luggage ไหลไป ข้างหลัง)

          แล้วกลุ่มคนพวกนี้ก็ยังบอกว่า "ใช่ใบนี้หรือเปล่า ?" (คืออยู่เหนือหัวที่นั่งเขาเลย) ตนก็ไม่ทันได้คิดอะไร เพราะคุยกับลูกสาวอยู่ แต่เอะใจนิดหนึ่ง (ปกตินั่งเครื่องบินหลายรอบ ไม่เคยเจอคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่นิสัยดีแบบนี้ มีช่วยยกกระเป๋าให้ด้วย เพราะปกติไม่มีใครจับสัมภาระของใครอยู่แล้ว) จึงมองว่ามีพิรุธ

          หลังจากนั้นก็มีผู้ชายจีนสูงประมาณ 165 เซนติเมตร พยามชะโงกหัว เหมือนจะพยามเบียดตัวเพื่อไปก่อน เห็นทำแบบนี้ตั้งแต่ ไฟโชว์ให้ปลดสายรัดเข็มขัด แล้วแต่โดนบล็อกอยู่ คล้ายกับมีพิรุธ ต่อมาชายคนนี้ก็เบียดออกไปจนได้ คือเหมือนรีบมาก ๆ  ปกติคนรอลงเครื่องจะยืนนิ่ง ๆ แต่นี่ ยืนรอแบบขยับขยุกขยิกและชะโงกหน้าตลอดเวลา

          หลังจากลงเครื่องตนก็กลับบ้าน โดยครอบครัวขับรถมารับ แล้วตนก็ขับ ส่งภรรยาไปที่ออฟฟิศ จากนั้นก็ขับรถกลับบ้านพร้อมสัมภาระ พอถึงบ้านก็จะนำเงินไทย เงินฮ่องกง และพาสปอร์ตใส่ตู้เซฟ พอเปิดกระเป๋าดู  เห็นทรงกระเป๋าแบนแฟบ รีบเปิดกระเป๋า จึงรู้ว่าเงินได้หายไปแล้ว

          ตนพยายามนั่งคิดว่าจะมีช่วงเวลาไหนที่โจรจะโขมยได้บ้าง จึงรู้ว่าเหตุเกิดบนเครื่องบิน ตนเห็นเงินครั้งสุดท้าย ตอนผ่าน Security Check point (กระเป๋าเงินในกระเป๋า Laptop ยังพองโตอยู่) กระเป๋าเงินอยู่ในระยะสายตาตลอดเวลา จนกระทั่งนั่งบนเครื่อง กลุ่มคนจีนมีท่าทีแปลก ๆ ทั้งบล็อกทางเดิน และ คนที่พยามจะแทรกไป โดยไม่ได้พูดขอทางหรือขอโทษตอนที่เบียดแทรกตัวไปได้ หรือ แม้กระทั่งใจดีช่วยหยิบสัมภาระ ที่ไหลไปอยู่ข้างหลัง เหมือนเขาจะมองดูว่าเราจะรู้ตัวหรือเปล่า  ส่วนคนถือเงิน น่าจะเป็นคนที่พยายามออกไปจากเครื่องก่อน  

          หลังเกิดเรื่องได้เข้าแจ้งความที่ ฮ่องกง ก่อนที่วันต่อมาจะมีข่าวว่า มีคนโดนโขมยเงินสดบนเครื่องบิน 25,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว1.1 แสนบาท) ดังนั้นเที่ยวบินนี้ โดนโขมยเงินสดไป 213,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือ ประมาณ  958,000 บาท ซึ่งจะกลับไทยต้นเดือน สิงหา เพื่อจะไปแจ้งความที่ไทย และจะแจ้งสายการบิน

          ทั้งนี้อยากจะปรึกษากัปตันว่า ถ้าแจ้งความแล้ว ทางสายการบินสามารถ เช็กตัวตนและกล้องวงจรปิดได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้เอาข้อมูลพาสปอร์ตของคนเหล่านี้ไปขึ้นแบล็กลิสต์กับ ตม. ไทย และ ฮ่องกง โดยตนเองนั้นไม่คิดว่าจะได้เงินคืนแต่อย่างได แต่ต้องการป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่มเติม ถ้าหากทางผู้เสียหายและสายการบินร่วมมือกัน