ชายเพิ่งย้ายบ้าน ควัก 1.4 หมื่นซื้อโซฟาใหม่ อึ้งเพิ่งรู้ว่าเป็นของมือสอง แถมเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้าย ถูกแมลงกัดจนเป็นรอยทั้งตัว ไม่ได้เจอลูก ซ้ำต้องหยุดงาน
วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า แอนดริว วูลฟ์ฟ ชายวัย 53 ปี เพิ่งจะย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ไม่ได้นานหลังเพิ่งหย่ากับภรรยา และกำลังอยู่ในช่วงจัดเตรียมข้าวของและซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดเลยว่าโซฟาตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อจากร้านค้า จะกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายในเวลาไม่กี่วัน
รายงานเผยว่า วูลฟ์ฟ เพิ่งจะซื้อโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาจากร้าน ScS ในเวสต์ยอร์คเชียร์ ของอังกฤษ เมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา โดยพนักงานเสนอขายโซฟาตัวนี้ในราคาลดพิเศษแก่เขา เหลือเพียง 300 ปอนด์ (ราว 14,000 บาท) จากราคาเต็มที่สูงกว่านั้นเท่าตัว พร้อมให้เหตุผลว่ามีสุนัขกระโดดขึ้นไปบนนั้น ทำให้ทางร้านต้องรีบขายโซฟาตัวนี้ทิ้งไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเช่ารถตู้มาขนโซฟาตัวนี้กลับบ้าน เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน วันต่อมาเขาก็เริ่มรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรกัด และในวันที่ 26 มิถุนายน ทั้งแขน ขา และลำตัวของเขา ก็เต็มไปด้วยตุมแดงที่คันยิบจากการถูกแมลงกัด ซึ่งตัวเขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเป็นเห็บหรือตัวเรือด
แผลจากแมลงกัดเหล่านี้สร้างความทุกข์ทรมานแก่เขาอย่างมาก มันทั้งคันและเป็นตุ่มน้ำ เขาจึงต้องไปหาเภสัชภรเพื่อซื้อยา ซึ่งเมื่อได้เห็นเภสัชกรก็แจ้งว่าเขาถูกแมลงกันและมีอาการแพ้รุนแรง นับจากนั้นเขาก็ต้องกินยาแก้แพ้พร้อมทาครีมสเตียรอยด์ แต่จนกระทั่งตอนนี้เขากินยาไปเกือบจะหมดชุดที่ 2 ปัญหาก็ยังไม่หายไป และเขายังถูกแมลงปริศนากัดอยู่แม้จะซื้อโซฟามาได้ 4 สัปดาห์แล้วก็ตาม
ปัญหาที่เกิดไม่ได้มีเพียงรอยกัด วูลฟ์ฟชี้ว่า ลูก ๆ อยากมาอยู่กับเขามาก ๆ แต่เป็นเวลานานถึง 4 สัปดาห์แล้วที่ลูก ๆ มาหาเขาไม่ได้ แค่เรื่องที่เขาเครียดอยู่ก็มากพอแล้ว การที่เจอลูกไม่ได้ยิ่งเหมือนการซ้ำเติมกัน
อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกจาก ScS ยืนยันว่าลูกค้าได้รับแจ้งข้อมูลแล้วตอนที่ซื้อโซฟา ว่านี่เป็นโซฟาที่ถูกลูกค้ารายอื่นส่งคืนมาที่ร้าน
แต่วูลฟ์ฟปฏิเสธไม่ทราบเรื่องดังกล่าว โดยชี้ว่า ในวันนั้นตอนแรกพนักงานเสนอโซฟาให้เขาในราคา 400 ปอนด์ (ราว 18,000 บาท) แต่เมื่อเขาต่อราคาเหลือ 300 ปอนด์ พนักงานก็รีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว และข้อมูลเดียวที่เขาทราบเกี่ยวกับโซฟาตัวนี้ คือคำพูดที่เหมือนบ่นให้ฟังว่า "เราได้โซฟาตัวนี้มา แต่หมาโกลเดนท์กระโดดขึ้นไป เพราะงั้นเราเลยต้องนำมาขายทิ้ง"
แต่กลายเป็นว่าเมื่อนำโซฟามาที่บ้าน เขาก็พบว่ามีผมติดอยู๋เต็มไปหมด ทั้งใต้เบาะและด้านหลังโซฟา ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่า ไม่ได้มีเพียงสุนัขที่กระโดดขึ้นไป แต่โซฟานี้ต้องเคยถูกใช้งานที่บ้านใครสักคนมาก่อน หรือกล่าวคือนี่เป็นโซฟามือสองไปแล้ว
วูลฟ์ฟ เผยว่า เขาติดต่อไปยังฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของแบรนด์ รวมถึงพูดคุยกับพนักงานของร้านแล้ว ซึ่งตอนแรกพนักงานก็เสนอจะเปลี่ยนโซฟาตัวใหม่ให้ แต่หลังจากที่เขาบอกให้ทางร้านจ่ายค่าชดเชยมาด้วย พวกนั้นก็ถอนข้อเสนอไป
สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับเขา ที่ต้องเจ็บตัว ปวดใจ แถมยังถูกบังคับให้ต้องหยุดงาน เพราะสภาพการทำงานของเขาต้องอยู่ในสายการผลิดที่มีความร้อน 30-40 องศาเซลเซียส แม้ว่าเขาจะสามารถถอดหมวกและสวมเสื้อแขนสั้นได้ แต่เขายังต้องสวมเสื้อแจ็กเก็ตกับถุงมือไว้ตลอด เพื่อไม่ให้แผลเกิดปฏิกิริยาหนักขึ้นจากแป้งขนมปังในสายการผลิตของเขา และสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวจนต้องหยุดงาน ทำให้สูญเสียรายได้ไปหลายร้อยปอนด์แล้ว
ทั้งนี้ โฆษกของ SCS ระบุว่า ทางแบรนด์เป็นกังวลมากเมื่อทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พวกเขาตระหนักถึงปัญหานี้แล้ว และกำลังให้ฝ่ายบริการลูกค้าติดต่อไปหาวูลฟ์ฟเพื่อสอบสวนเรื่องเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ยืนยันได้ว่าก่อนซื้อ ลูกค้าได้รับแจ้งเรื่องที่โซฟาเป็นของที่ถูกส่งคืนมาแล้ว ก่อนจะขายไปในราคาลดพิเศษ ทางแบรนด์ยังไม่ทราบมาก่อนว่าโซฟามีปัญหาเห็บหมัด และยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเห็บหมัดมาจากโซฟานี้จริง ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail