เจ้าสาวออกมาบ่น โดนปรับเงิน 6,000 บาท จากการเช่าชุดแต่งงาน เอารูปมาลงเลอะแค่ตรงตะเข็บ ด้านร้านงัดมาสู้ ดูให้ชัดว่าเลอะเกือบทั้งชุด ถึงขั้นซักไม่ออก พร้อมงัดบิลมาให้ดูว่าราคาชุดแพงแค่ไหน จนเจ้าบ่าวต้องมาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเอง
รูปจาก Bhubest Noodam2
ในงานแต่งงานแต่ละงาน มักจะมีค่าใช้จ่ายยุบยิบมากมายมหาศาล หนึ่งในวิธีการที่จะประหยัดได้นั้นคือการเช่าชุดจากทางร้าน ที่ใส่ครั้งเดียวแต่สวยและอยู่ในความทรงจำตลอดไป ทว่า การเช่าชุดแต่งงานั้น เจ้าบ่าว เจ้าสาว ต้องคอยดูแลรักษาชุดให้ดี โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวที่ยาวลากพื้น ต้องระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ดราม่าเช่นนี้ได้
ทั้งนี้ ทางเจ้าสาวได้ไปเช่าชุดมาจากร้านหนึ่ง เป็นจำนวนทั้งหมด 2 ชุด คือชุดราตรีและชุดไทย และหลังจากที่คืนชุดแล้วพบว่า ชุดมีรอยเปื้อน ทางร้านขอปรับรอยเปื้อนในราคา 6,000 บาท ทางเจ้าสาวจึงเอามาบ่นว่ามันแพงเกินไป และโชว์ให้เห็นว่ารอยเปื้อนนั้นมีอยู่ตรงที่ตะเข็บด้านในเล็กน้อย
ในส่วนของชุดไทยนั้น เจ้าสาวอ้างว่า ทางเราใส่แล้วสกปรก แต่ทางร้านไปซักจนขาด แต่กลับมาปรับที่ลูกค้า พร้อมกับเผยให้เห็นรูขาดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย "ไม่อยากรีวิวเยอะ ไม่มีเงินจ้างทนาย" และต่อมาก็มีคนแชร์โพสต์นั้นออกไปมหาศาล พร้อมกับที่เพื่อนของเจ้าสาวเข้ามาต่อว่าร้านอย่างสนุกปาก ว่าขูดรีดกันเกินไป เงิน 6,000 บาทซื้อชุดได้ตั้งหลายชุด
รูปจาก Bhubest Noodam2
ด้านร้านเมื่อเจอแบบนี้ จึงงัดหลักฐานมาให้เห็นชัด ๆ ว่าตรงที่ชุดเลอะนั้น ไม่ใช่แค่เลอะตรงตะเข็บ แต่เลอะดินเกินครึ่งชุด โดยเฉพาะชุดไทยที่เป็นผ้าไหมปักมือทั้งตัว ดินเลอะตรงขอบที่ปักจนซึมลงเนื้อผ้า จากชุดสีขาวได้กลายมาเป็นชุดน้ำตาลทันที
ทางร้านแจงว่า ลูกค้าทำชุดเลอะทั้ง 2 ชุด และทางร้านก็ให้พนักงานซัก หากซักออกจะไม่คิดเงิน พนักงานก็ซักจนกาวเปื่อย ซักจนชุดขาด แต่ก็ซักไม่ออก ทางร้านจึงจำเป็นต้องนำชุดมาซ่อมด้วยการส่งชุดกลับไปที่ร้านรับตัดเย็บ และทางร้านรับตัดเย็บคิดค่าซ่อมชุด 2 ชุด ที่ 6,000 บาท เป็นค่าซ่อมชุดไทย 4,000 บาท ค่าซ่อมชุดราตรี 2,000 บาท ซึ่งวิธีการซ่อมคือ ตัดผ้าครึ่งผืนแล้วปักทับใหม่ลงไป เท่ากับการผ่าชุดแล้วทำใหม่
รูปจาก Bhubest Noodam2
ในส่วนรอยขาดนั้น ทางร้านไม่ปรับเงิน เพราะเกิดจากการที่ร้านพยายามซักจนขาด ร้านก็แจ้งว่า ทางร้านพยายามอย่างสุดความสามารถ ด้วยการซักแล้วขยี้มือจนชุดขาด แต่คราบเลอะดินก็ยังไม่ออก ร้านพยายามไม่ปรับเงินลูกค้าแล้ว และการซ่อมชุดจำเป็นต้องส่งซ่อมเท่านั้น ค่าซ่อมนี้เป็นการเรียกมาจากร้านตัดเย็บ ร้านเช่าชุดไม่ได้คิดกำไรใด ๆ
สุดท้าย ทางร้านมาบอกเพิ่มว่า ชุดนี้เป็นชุดแบรนด์ดังของไทยที่ติดอันดับท็อปของประเทศ ราคาค่าซ่อมก็สูงตาม ก่อนที่จะส่งมอบชุด ร้านก็ย้ำถึงการดูแลชุด และแจ้งว่าจะปรับเงินหากชุดเสียหาย และในความเป็นจริง ค่าซ่อมชุดแพงกว่า 6,000 บาท แต่ทางร้านเช่าชุดได้ต่อรองกับทางร้านตัดเย็บแล้ว ลดได้เท่านี้ และชุดนี้ยังมีคนจองใช้ตอนสิงหาคมนี้
รูปจาก Bhubest Noodam2
ในขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้เอาบิลมาให้ดูว่า ได้มีการจ้างตัดชุดไทยศิวาลัย ลูกไม้ปักสีขาวเงินในราคา 40,000 บาท ซึ่งจริง ๆ ราคานี้เป็นราคาต้นทุนเท่านั้น เพราะทางร้านได้ซื้อวัสดุ มุกปล้อง เม็ดข้าวสารมาปักเพิ่ม และต้องใช้ผ้าตัดเชิงสูงมากกว่าผ้าปกติ ปักทั้งชุดไม่มีช่องว่าง วัสดุเกรดเอ ใช้เวลาตัดเย็บ 3-4 เดือน และในส่วนของการซ่อมนั้น ไม่ใช่แค่ตัดผ้าออกและปะไปใหม่ได้เลย เวลาที่ปักใหม่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ต้องนั่งเลาะเอาลูกปัดเดิมออกแล้วปักลงไปใหม่ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ค่าแก้ แต่มีค่าปัก ค่าผ้า ค่าอุปกรณ์ ค่าช่าง ไม่ต่างกับการทำชุดใหม่
แต่ทางเจ้าสาว ก็ยังไม่พอใจ เข้ามาบอกว่า ชุดมันแค่สกปรก ไม่ได้ทำเสียหายอะไร ร้านเอาไปซักแล้วขาด แล้วตรงนี้คือความรับผิดชอบของเจ้าสาวเหรอ แล้วงานจัดที่บ้านจะไม่ให้มันเลอะได้ยังไง ทำให้ทางร้านทนไม่ไหว ออกมาอธิบายเพิ่มว่า ที่ร้านปรับคือปรับตรงที่เลอะนั่นแหละ ไม่ได้ปรับตรงที่ร้านทำขาด เพราะตรงที่เลอะนั้นต้องตัดผ้าออกแล้วปะลงใหม่ แต่ตรงที่ร้านทำขาดคือซ่อมเองได้
รูปจาก NOCREDIT
ในขณะเดียวกัน ก็มีคนเอารูปมาให้ดูว่าเจ้าสาวใช้ชุดคุ้มมาก ด้วยการใส่ชุดไทยศิวาลัย ลงไปนั่งพับเพียบตรงพื้นดิน กอดขาบุพการี จนคนมาเห็นถึงกับจะร้องไห้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าสาวจะเอาชุดไปสมบุกสมบันขนาดนี้
รูปจาก NOCREDIT
สุดท้าย ทางร้านได้มาเผยว่า ทางเจ้าบ่าวได้มาขอโทษแทนเจ้าสาว ออกตัวรับผิดแทน และไม่ได้ว่าร้านหรือขอให้ร้านลบโพสต์ใด ๆ แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษแทนเจ้าสาวทั้งหมด ทางร้านก็ขอโทษเจ้าบ่าวด้วย ที่ร้านต้องโพสต์ก็เพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมกับที่มีคนแคปโพสต์ของเจ้าบ่าวที่บอกว่า "ก่อนจะทำอะไร ก็บอกแล้วให้คิดให้ดี ว่ามันส่งผลเสียหรือผลดีมากกว่า อย่าเอาแต่ความรู้สึกส่วนตัว"
รูปจาก NOCREDIT
รูปจาก Bhubest Noodam2
ในงานแต่งงานแต่ละงาน มักจะมีค่าใช้จ่ายยุบยิบมากมายมหาศาล หนึ่งในวิธีการที่จะประหยัดได้นั้นคือการเช่าชุดจากทางร้าน ที่ใส่ครั้งเดียวแต่สวยและอยู่ในความทรงจำตลอดไป ทว่า การเช่าชุดแต่งงานั้น เจ้าบ่าว เจ้าสาว ต้องคอยดูแลรักษาชุดให้ดี โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวที่ยาวลากพื้น ต้องระวังให้มาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์ดราม่าเช่นนี้ได้
เจ้าสาวเช่าชุดแต่งงาน หลังคืนชุดโดนปรับ 6,000 บาท อ้างร้านเอาชุดไปซักจนขาดแล้วโบ้ยลูกค้า
ทั้งนี้ ทางเจ้าสาวได้ไปเช่าชุดมาจากร้านหนึ่ง เป็นจำนวนทั้งหมด 2 ชุด คือชุดราตรีและชุดไทย และหลังจากที่คืนชุดแล้วพบว่า ชุดมีรอยเปื้อน ทางร้านขอปรับรอยเปื้อนในราคา 6,000 บาท ทางเจ้าสาวจึงเอามาบ่นว่ามันแพงเกินไป และโชว์ให้เห็นว่ารอยเปื้อนนั้นมีอยู่ตรงที่ตะเข็บด้านในเล็กน้อย
ในส่วนของชุดไทยนั้น เจ้าสาวอ้างว่า ทางเราใส่แล้วสกปรก แต่ทางร้านไปซักจนขาด แต่กลับมาปรับที่ลูกค้า พร้อมกับเผยให้เห็นรูขาดขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย "ไม่อยากรีวิวเยอะ ไม่มีเงินจ้างทนาย" และต่อมาก็มีคนแชร์โพสต์นั้นออกไปมหาศาล พร้อมกับที่เพื่อนของเจ้าสาวเข้ามาต่อว่าร้านอย่างสนุกปาก ว่าขูดรีดกันเกินไป เงิน 6,000 บาทซื้อชุดได้ตั้งหลายชุด
รูปจาก Bhubest Noodam2
ร้านงัดหลักฐานมาสู้ ใส่ชุดแต่งงานหรือไปดำนา ซักไม่ออกต้องตัดเย็บใหม่ 6,000 ที่ปรับ แทบไม่ได้อะไรเลย
ด้านร้านเมื่อเจอแบบนี้ จึงงัดหลักฐานมาให้เห็นชัด ๆ ว่าตรงที่ชุดเลอะนั้น ไม่ใช่แค่เลอะตรงตะเข็บ แต่เลอะดินเกินครึ่งชุด โดยเฉพาะชุดไทยที่เป็นผ้าไหมปักมือทั้งตัว ดินเลอะตรงขอบที่ปักจนซึมลงเนื้อผ้า จากชุดสีขาวได้กลายมาเป็นชุดน้ำตาลทันที
ทางร้านแจงว่า ลูกค้าทำชุดเลอะทั้ง 2 ชุด และทางร้านก็ให้พนักงานซัก หากซักออกจะไม่คิดเงิน พนักงานก็ซักจนกาวเปื่อย ซักจนชุดขาด แต่ก็ซักไม่ออก ทางร้านจึงจำเป็นต้องนำชุดมาซ่อมด้วยการส่งชุดกลับไปที่ร้านรับตัดเย็บ และทางร้านรับตัดเย็บคิดค่าซ่อมชุด 2 ชุด ที่ 6,000 บาท เป็นค่าซ่อมชุดไทย 4,000 บาท ค่าซ่อมชุดราตรี 2,000 บาท ซึ่งวิธีการซ่อมคือ ตัดผ้าครึ่งผืนแล้วปักทับใหม่ลงไป เท่ากับการผ่าชุดแล้วทำใหม่
รูปจาก Bhubest Noodam2
ในส่วนรอยขาดนั้น ทางร้านไม่ปรับเงิน เพราะเกิดจากการที่ร้านพยายามซักจนขาด ร้านก็แจ้งว่า ทางร้านพยายามอย่างสุดความสามารถ ด้วยการซักแล้วขยี้มือจนชุดขาด แต่คราบเลอะดินก็ยังไม่ออก ร้านพยายามไม่ปรับเงินลูกค้าแล้ว และการซ่อมชุดจำเป็นต้องส่งซ่อมเท่านั้น ค่าซ่อมนี้เป็นการเรียกมาจากร้านตัดเย็บ ร้านเช่าชุดไม่ได้คิดกำไรใด ๆ
สุดท้าย ทางร้านมาบอกเพิ่มว่า ชุดนี้เป็นชุดแบรนด์ดังของไทยที่ติดอันดับท็อปของประเทศ ราคาค่าซ่อมก็สูงตาม ก่อนที่จะส่งมอบชุด ร้านก็ย้ำถึงการดูแลชุด และแจ้งว่าจะปรับเงินหากชุดเสียหาย และในความเป็นจริง ค่าซ่อมชุดแพงกว่า 6,000 บาท แต่ทางร้านเช่าชุดได้ต่อรองกับทางร้านตัดเย็บแล้ว ลดได้เท่านี้ และชุดนี้ยังมีคนจองใช้ตอนสิงหาคมนี้
รูปจาก Bhubest Noodam2
ลูกค้ามาปากแซ่บใส่ซ้ำ ร้านงัดบิลมาให้ดู ชุดนี้ตัดมา 40,000 ขนาดเจ้าบ่าวยังเข้าข้างร้าน แถมขอโทษแทน
ในขณะเดียวกัน ทางร้านก็ได้เอาบิลมาให้ดูว่า ได้มีการจ้างตัดชุดไทยศิวาลัย ลูกไม้ปักสีขาวเงินในราคา 40,000 บาท ซึ่งจริง ๆ ราคานี้เป็นราคาต้นทุนเท่านั้น เพราะทางร้านได้ซื้อวัสดุ มุกปล้อง เม็ดข้าวสารมาปักเพิ่ม และต้องใช้ผ้าตัดเชิงสูงมากกว่าผ้าปกติ ปักทั้งชุดไม่มีช่องว่าง วัสดุเกรดเอ ใช้เวลาตัดเย็บ 3-4 เดือน และในส่วนของการซ่อมนั้น ไม่ใช่แค่ตัดผ้าออกและปะไปใหม่ได้เลย เวลาที่ปักใหม่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ต้องนั่งเลาะเอาลูกปัดเดิมออกแล้วปักลงไปใหม่ ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ค่าแก้ แต่มีค่าปัก ค่าผ้า ค่าอุปกรณ์ ค่าช่าง ไม่ต่างกับการทำชุดใหม่
แต่ทางเจ้าสาว ก็ยังไม่พอใจ เข้ามาบอกว่า ชุดมันแค่สกปรก ไม่ได้ทำเสียหายอะไร ร้านเอาไปซักแล้วขาด แล้วตรงนี้คือความรับผิดชอบของเจ้าสาวเหรอ แล้วงานจัดที่บ้านจะไม่ให้มันเลอะได้ยังไง ทำให้ทางร้านทนไม่ไหว ออกมาอธิบายเพิ่มว่า ที่ร้านปรับคือปรับตรงที่เลอะนั่นแหละ ไม่ได้ปรับตรงที่ร้านทำขาด เพราะตรงที่เลอะนั้นต้องตัดผ้าออกแล้วปะลงใหม่ แต่ตรงที่ร้านทำขาดคือซ่อมเองได้
รูปจาก NOCREDIT
ในขณะเดียวกัน ก็มีคนเอารูปมาให้ดูว่าเจ้าสาวใช้ชุดคุ้มมาก ด้วยการใส่ชุดไทยศิวาลัย ลงไปนั่งพับเพียบตรงพื้นดิน กอดขาบุพการี จนคนมาเห็นถึงกับจะร้องไห้ ไม่คิดเลยว่าเจ้าสาวจะเอาชุดไปสมบุกสมบันขนาดนี้
รูปจาก NOCREDIT
สุดท้าย ทางร้านได้มาเผยว่า ทางเจ้าบ่าวได้มาขอโทษแทนเจ้าสาว ออกตัวรับผิดแทน และไม่ได้ว่าร้านหรือขอให้ร้านลบโพสต์ใด ๆ แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษแทนเจ้าสาวทั้งหมด ทางร้านก็ขอโทษเจ้าบ่าวด้วย ที่ร้านต้องโพสต์ก็เพื่อปกป้องตัวเอง พร้อมกับที่มีคนแคปโพสต์ของเจ้าบ่าวที่บอกว่า "ก่อนจะทำอะไร ก็บอกแล้วให้คิดให้ดี ว่ามันส่งผลเสียหรือผลดีมากกว่า อย่าเอาแต่ความรู้สึกส่วนตัว"
รูปจาก NOCREDIT