คืบหน้า เครื่องบินเนปาลตก เสียชีวิต 18 ชีวิต รายงานเผยสาเหตุ ทำไมนักบินรอดมาได้คนเดียว ขณะนี้ปลอดภัยพูดคุยได้แล้ว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nepal Police
จากกรณีเครื่องบินของสายการบินเซาร์ยา แอร์ไลน์ส (Saurya Airlines) ในประเทศเนปาล เกิดอุบัติเหตุพุ่งกระแทกพื้น ที่สนามบินนานาชาติตรีภูวัน ในกรุงกาฐมาณฑุ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย ในขณะที่มีนักบินรอดชีวิตมาได้เพียงคนเดียวราวกับปาฏิหาริย์
เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 รายงานของสำนักข่าวบีบีซี เผยว่า กัปตันมานิช รัตนะ ศากยะ นักบินผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากโศกนาฏกรรมดังกล่าว ได้รับการช่วยเหลือถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บ ก่อนที่ต่อมาจะมีรายงานยืนยันว่า ขณะนี้อาการของเขาปลอดภัยแล้ว โดยเขาสามารถพูดและบอกกับสมาชิกในครอบครัวว่า เขาสบายดี
ตามข้อมูลของทีมกู้ภัยและตำรวจเนปาลที่เปิดเผยกับทางบีบีซี ระบุว่า แรงกระแทกส่งผลให้ส่วนของห้องนักบินหลุดขาดออกจากตัวเครื่องบิน และฝังติดอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ที่อยู่ในบริเวณนั้น ทางเจ้าหน้าที่รีบเข้าถึงตัวผู้ประสบเหตุ ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบากและแข่งกับเวลา กระทั่งสามารถทุบกระจกและดึงตัวนักบินออกมาได้สำเร็จ ก่อนที่เครื่องบินจะเกิดเพลิงลุกไหม้
"ตอนที่เขาได้รับการช่วยเหลือ เขามีเลือดเต็มหน้า แต่เราพาเขาไปโรงพยาบาลในสภาพที่เขาพูดได้" ดัมบาร์ ภิศวะการ์มา ผู้กำกับอาวุโส สำนักงานตำรวจเนปาล กล่าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nepal Police
ส่วนอื่นของเครื่องบินที่เหลือ ตกลงไปในหุบเขาที่อยู่สุดขอบของพื้นที่ และกระแทกพุ่งชนเข้ากับเนินดิน ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่ห้องนักบินไปติดกับตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนที่ตัวเครื่องจะฉีกขาดและเกิดไฟลุกไหม้ ในขณะที่นักบินได้รับการช่วยเหลือออกมาภายในเวลา 5 นาที หลังจากเกิดเหตุ
นายแพทย์มีนา ทาปา ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของโรงพยาบาลที่ทำการรักษา เปิดเผยว่า นักบินผู้รอดชีวิตได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า ได้รับการรักษาในเบื้องต้นแล้วและเตรียมจะเข้ารับการผ่าตัดรักษากระดูกหลังหักต่อ ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ในแผนกศัลยกรรมประสาท
รายละเอียดของสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นอำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติตริภูวัน กล่าวว่า จากการประเมินขั้นต้นพบว่า "เครื่องบินบินผิดทิศทาง ทันทีที่เครื่องขึ้นมันก็เลี้ยวขวา ทั้งที่ควรเลี้ยวซ้าย"
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nepal Police
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nepal Police
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Nepal Police
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC