สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าน วานนี้ (21 พ.ค.) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอีกกว่า 200 จุด หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งทะยานสร้างสถิตินิวไฮรายวันไม่หยุด ล่าสุดทะลุเพดาน 133 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรลแล้ว
โดยปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดิ่งลงอย่างหนักต่อเนื่องจากวันก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ที่ยังคงพุ่งไม่หยุด ทำสถิตินิวไฮเป็นรายวัน ล่าสุดพุ่งขึ้นไปเคลื่อนไหวที่ 133.72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ก่อนขยับลงมาปิดที่ 133.17 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากวันที่ 20 พ.ค. ถึง 4.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่หลังจากปิดตลาด ราคาน้ำมันยังขึ้นไปแตะระดับ 134.42 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล หรือขึ้นไปถึง 5.44 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ นับเป็นการปรับขึ้นมากสุดในวันเดียวตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดกรุงลอนดอน ปรับขึ้น 4.86 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดที่ 132.70 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นสถิติใหม่เช่นกัน
ขณะที่รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวลดลงอย่างรุนแรง รวมถึงอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลังของปีนี้ ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ดิ่งลง 227.49 จุด ไปปิดที่ระดับ 12,601.19 จุด แนสแดค ปิดที่ระดับ 2,456.09 จุด ลดลง 43.99 จุด และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,390.71 จุด ลดลง 22.69 จุด
วันเดียวกัน นักศึกษาอินโดนีเซียจำนวนมากเดินขบวนในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงกรุงจาการ์ตา ประท้วงรัฐบาลที่เตรียมประกาศขึ้นราคาน้ำมันอีกถึงร้อยละ 30
การประท้วงเกิดขึ้นทั้งที่บริเวณด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีการปะทะระหว่างนักศึกษากับตำรวจปราบจลาจลเล็กน้อย และในอีกหลายพื้นที่ ตั้งแต่เกาะสุมาตราทางตะวันตก ไปจนถึงเกาะสุลาเวสีทางตะวันออก โดยที่เมืองปาดังและแจมบิบนเกาะสุมาตรา ผู้ประท้วงยังได้ดึงธงชาติอินโดนีเซียลงจากอาคารรัฐบาลท้องถิ่นด้วย
ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน กล่าวว่า ไม่มีทางเลือกนอกจากลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน ที่เขาอ้างว่ามีแต่คนรวยได้ประโยชน์ และเตรียมปรับขึ้นราคาน้ำมันอีกร้อยละ 30 มีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้ แต่ผู้ประท้วงเห็นว่าจะส่งผลให้ราคาอาหาร ค่าไฟ และค่าเดินทางเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และคนยากจนจะมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ทั้งนี้ การประท้วงยังมีขึ้นเพื่อรำลึกวาระครบรอบ 10 ปี ที่อดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต หมดอำนาจ หลังบริหารประเทศยาวนาน 32 ปี
ที่ฝรั่งเศส ชาวประมงฝรั่งเศสปะทะกับตำรวจปราบจลาจลในกรุงปารีส ภายหลังการเดินขบวนประท้วงราคาน้ำมันแพง โดยกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งเป็นชาวประมงหลายร้อยคน ขว้างระเบิดเพลิงเข้าใส่ตำรวจปราบจลาจล ทำให้เจ้าหน้าที่ 4 นายบาดเจ็บ ตำรวจจึงยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุมบริเวณใกล้กับกระทรวงเกษตรในกรุงปารีส ขณะที่การเจรจาระหว่างนายมิเชล บาร์นิเยร์ รัฐมนตรีเกษตร กับผู้แทนสหภาพอุตสาหกรรมประมง ยังไม่สามารถตกลงกันได้ แต่จะมีการหารืออีกครั้งในวันนี้
ทั้งนี้ ชาวประมงนำเรือประมงไปปิดอ่าวและคลังน้ำมันในหลายเมืองท่าของฝรั่งเศสนานกว่า 1 สัปดาห์ จนทำให้หลายเมืองประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน เนื่องจากไม่พอใจที่ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นถึง 2 เท่า นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม นอกเหนือจากการให้เงินอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
