สาวเปิดชีวิตสุดประหยัด เป็นเจ้าของบ้าน 3 หลังตอนอายุ 37 ปี แชร์ทริกออมเงินขั้นสุด กินข้าววันละไม่ถึง 50 บาท ของไม่ลดราคาอย่าซื้อ !
ในขณะที่หลายคนฝันอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่การจะซื้อบ้านให้ได้สักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะซื้อบ้านหลังแรกได้ แต่สำหรับ ซากิ ทาโมกามิ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชาวญี่ปุ่น กลับทำความฝันของเธอที่อยากจะเป็นเจ้าของบ้าน 3 หลังให้เป็นจริงได้ ด้วยวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น
โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล รายงานว่า ซากิ ทาโมกามิ กลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในฐานะหญิงที่ประหยัดที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อตัดลดค่าใช้จ่าย และจะใช้เงินให้น้อยที่สุดในการซื้อของต่าง ๆ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งการดูแลตัวเอง
"อย่าซื้อของที่ไม่ได้ลดราคาเด็ดขาด" นี่คือคติประจำใจที่เธอยึดมั่นมานานถึง 15 ปี ซึ่งเธออ้างว่าสิ่งนี้ทำให้เธอสามารถเก็บเงินได้มากพอที่จะซื้อบ้าน 3 หลังได่สำเร็จ
นับตั้งแต่ซากิตั้งเป้าว่าอยากจะซื้อบ้านให้ได้ 3 หลัง ตั้งแต่ตอนที่อายุ 19 ปี เธอก็เริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เริ่มจากการหยุดซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ แต่หันมารับเสื้อผ้ามือสองต่อจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ รวมถึงดูแลเสื้อผ้าที่เธอมีอยู่แล้วให้ดีขึ้น ในส่วนของค่าอาหารนั้น ๆ หลัก ๆ เธอจะฝากท้องไว้กับอาหารราคาถูก เช่น อูด้ง ขนมปัง และหัวไชเท้าลดราคา เธอยังเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีราคาถูก หรือไม่ก็รอซื้อของลดราคา เช่น หากมีแซลมอนสักชิ้นที่กำลังลดราคา เธอก็จะซื้อกินบ้าง
เพื่อให้การประหยัดเห็นผลมากขึ้น ซากิมักทำอาหารกินเองที่บ้าน แถมยังกินอาหารจากหม้อหุงข้าวโดยตรง เพื่อประหยัดเงินที่จะซื้อจานหรือชาม ด้วยเหตุนี้เธอจึงแทบไม่เคยใช้เงินค่าอาหารเกินวันละ 200 เยน (ราว 46 บาท) เลย
นอกจากนี้แทนที่จะเสียเงินซื้อเครื่องสำอางหรือทำผม เธอยังเปลี่ยนผมตัวเองให้เป็นแหล่งรายได้ โดยเมื่อผมยาวพอก็จะตัดไปขาย ซึ่งจะได้เงินประมาณ 3,100 เยน (ราว 720 บาท) ซึ่งมากพอจะจ่ายค่าอาหารของเธอได้ครึ่งเดือน ซึ่งแม้ว่าสิ่งต่าง ๆ เธอทำดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่หญิงจอมประหยัดรายนี้ชี้ว่า เธอชินกับมันเสียแล้ว และยังสบายใจที่ได้เก็บออมเงินที่เหลือจากเงินเดือน เฝ้าดูเงินในบัญชีเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากใช้ชีวิตแบบนี้อยู่นาน 8 ปี ในที่สุดซากิก็เก็บเงินซื้อบ้านหลังแรกได้ตอนอายุ 27 ปี โดยเป็นบ้านที่ไซตามะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว บ้านหลังดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 10 ล้านเยน (ราว 2.3 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อซื้อแล้วซากิก็ปล่อยเช่าทันที เพื่อนำเงินค่าเช่ามาผ่อนจ่ายค่าบ้าน แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างประหยัดขั้นสุดต่อไป จนในอีก 2 ปีต่อมา เธอก็ซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้ในราคา 18 ล้านเยน (ราว 4.2 ล้านบาท)
กระทั่งในปี 2562 ซากิในวัย 37 ปี ก็บรรลุเป้าหมายในการซื้อบ้านหลังที่ 3 ได้ ในราคา 37 ล้านเยน (ราว 8.6 ล้านบาท) ซึ่งแม้ว่าจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตอย่างประหยัดและเก็บเงินต่อไป เพื่อที่จะนำเงินที่มีไปช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียว โดยขณะนี้เธอเปิดคาเฟ่แมวไว้ที่ชั้นแรกของบ้านหลังหนึ่ง รวมถึงมีแผนจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในอนาคต
เรื่องราวของซากิ ถูกรายงานผ่านรายการโทรทัศน์ Happy! Bomby Girl ของญี่ปุ่น ทำให้เธอกลายมาเป็นที่สนใจด้วยวิถีชีวิตที่ช็อกคนทั้งประเทศ โดยผู้คนมากมายมีท่าทีต่างกันไปกับเรื่องของเธอ ในขณะที่บางคนชื่นชมความมุ่งมั่นที่ซากิมี แต่บางคนก็เตือนว่าเธอกกำลังนำชีวิตตัวเองไปเสี่ยง ด้วยการกินอาหารคุณภาพต่ำ รวมถึงละเลยสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อจะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
ในขณะที่หลายคนฝันอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่การจะซื้อบ้านให้ได้สักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะซื้อบ้านหลังแรกได้ แต่สำหรับ ซากิ ทาโมกามิ นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชาวญี่ปุ่น กลับทำความฝันของเธอที่อยากจะเป็นเจ้าของบ้าน 3 หลังให้เป็นจริงได้ ด้วยวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น
โดยเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล รายงานว่า ซากิ ทาโมกามิ กลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศในฐานะหญิงที่ประหยัดที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อตัดลดค่าใช้จ่าย และจะใช้เงินให้น้อยที่สุดในการซื้อของต่าง ๆ ทั้งอาหาร เสื้อผ้า หรือแม้กระทั่งการดูแลตัวเอง
"อย่าซื้อของที่ไม่ได้ลดราคาเด็ดขาด" นี่คือคติประจำใจที่เธอยึดมั่นมานานถึง 15 ปี ซึ่งเธออ้างว่าสิ่งนี้ทำให้เธอสามารถเก็บเงินได้มากพอที่จะซื้อบ้าน 3 หลังได่สำเร็จ
นับตั้งแต่ซากิตั้งเป้าว่าอยากจะซื้อบ้านให้ได้ 3 หลัง ตั้งแต่ตอนที่อายุ 19 ปี เธอก็เริ่มประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เริ่มจากการหยุดซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ แต่หันมารับเสื้อผ้ามือสองต่อจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน ๆ รวมถึงดูแลเสื้อผ้าที่เธอมีอยู่แล้วให้ดีขึ้น ในส่วนของค่าอาหารนั้น ๆ หลัก ๆ เธอจะฝากท้องไว้กับอาหารราคาถูก เช่น อูด้ง ขนมปัง และหัวไชเท้าลดราคา เธอยังเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีราคาถูก หรือไม่ก็รอซื้อของลดราคา เช่น หากมีแซลมอนสักชิ้นที่กำลังลดราคา เธอก็จะซื้อกินบ้าง
เพื่อให้การประหยัดเห็นผลมากขึ้น ซากิมักทำอาหารกินเองที่บ้าน แถมยังกินอาหารจากหม้อหุงข้าวโดยตรง เพื่อประหยัดเงินที่จะซื้อจานหรือชาม ด้วยเหตุนี้เธอจึงแทบไม่เคยใช้เงินค่าอาหารเกินวันละ 200 เยน (ราว 46 บาท) เลย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
นอกจากนี้แทนที่จะเสียเงินซื้อเครื่องสำอางหรือทำผม เธอยังเปลี่ยนผมตัวเองให้เป็นแหล่งรายได้ โดยเมื่อผมยาวพอก็จะตัดไปขาย ซึ่งจะได้เงินประมาณ 3,100 เยน (ราว 720 บาท) ซึ่งมากพอจะจ่ายค่าอาหารของเธอได้ครึ่งเดือน ซึ่งแม้ว่าสิ่งต่าง ๆ เธอทำดูเหมือนจะเป็นเรื่องยาก แต่หญิงจอมประหยัดรายนี้ชี้ว่า เธอชินกับมันเสียแล้ว และยังสบายใจที่ได้เก็บออมเงินที่เหลือจากเงินเดือน เฝ้าดูเงินในบัญชีเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากใช้ชีวิตแบบนี้อยู่นาน 8 ปี ในที่สุดซากิก็เก็บเงินซื้อบ้านหลังแรกได้ตอนอายุ 27 ปี โดยเป็นบ้านที่ไซตามะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว บ้านหลังดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 10 ล้านเยน (ราว 2.3 ล้านบาท) ซึ่งเมื่อซื้อแล้วซากิก็ปล่อยเช่าทันที เพื่อนำเงินค่าเช่ามาผ่อนจ่ายค่าบ้าน แล้วก็ใช้ชีวิตอย่างประหยัดขั้นสุดต่อไป จนในอีก 2 ปีต่อมา เธอก็ซื้อบ้านหลังที่ 2 ได้ในราคา 18 ล้านเยน (ราว 4.2 ล้านบาท)
กระทั่งในปี 2562 ซากิในวัย 37 ปี ก็บรรลุเป้าหมายในการซื้อบ้านหลังที่ 3 ได้ ในราคา 37 ล้านเยน (ราว 8.6 ล้านบาท) ซึ่งแม้ว่าจะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว เธอก็ยังมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตอย่างประหยัดและเก็บเงินต่อไป เพื่อที่จะนำเงินที่มีไปช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียว โดยขณะนี้เธอเปิดคาเฟ่แมวไว้ที่ชั้นแรกของบ้านหลังหนึ่ง รวมถึงมีแผนจะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมในอนาคต
เรื่องราวของซากิ ถูกรายงานผ่านรายการโทรทัศน์ Happy! Bomby Girl ของญี่ปุ่น ทำให้เธอกลายมาเป็นที่สนใจด้วยวิถีชีวิตที่ช็อกคนทั้งประเทศ โดยผู้คนมากมายมีท่าทีต่างกันไปกับเรื่องของเธอ ในขณะที่บางคนชื่นชมความมุ่งมั่นที่ซากิมี แต่บางคนก็เตือนว่าเธอกกำลังนำชีวิตตัวเองไปเสี่ยง ด้วยการกินอาหารคุณภาพต่ำ รวมถึงละเลยสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อจะเก็บเงินให้ได้มาก ๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral