ปิยะโสภิชา คนที่มาแทน เบญญาภา สอบครูติดที่สระแก้วแล้วชื่อหาย ล่าสุดออกหน้ามาแล้ว โชว์ใบประกาศ ไล่เรียงต้นจนจบ เงินถุงเงินถัง เด็กเส้นเงินยัดจริงเหรอ วอนอย่าด้อยค่า พยายามมามากเหมือนกัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากกรณีดราม่าข้ามคืน ที่ นางสาวเบญญาภา ที่สอบติดครูที่สระแก้ว แต่รายชื่อหาย และทางการศึกษาสระแก้ว ก็ได้ออกมายอมรับว่า เป็นความผิดพลาดเรื่องการตรวจข้อสอบ
อ่านเพิ่มเติม สาวสอบครูได้อันดับ 1 อยู่ ๆ ชื่อหาย การศึกษาสระแก้วอธิบาย โป๊ะมาก...คนที่มาแทน
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้เผยคำพูดของ นางสาวปิยะโสภิชา (สงวนนามสกุล) คนที่มาแทน นางสาวเบญญาภา ที่สอบติดครูที่สระแก้ว แต่รายชื่อหาย โดยที่นางสาวปิยะโสภิชา ได้ไล่เรียงทุกอย่างตั้งแต่ประวัติการศึกษา ครอบครัว และตอบคำถามให้ฟังว่า เธอยัดเงินหรือเป็นเด็กเส้นอย่างที่ทุกคนอ้างไหม
นางสาวปิยะโสภิชา เผยว่า ครอบครัวของเธอ มีคุณพ่อคุณแม่ที่รับราชการ คุณพ่ออยู่ที่สระแก้ว คุณแม่และเธออยู่ที่ปราจีนบุรี เธอทำงานแบ่งเบาภาระครอบครัว ขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ ขายขนมขายเบเกอรี่ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ลูกนักการเมืองนามสกุลดังอย่างที่เข้าใจ ที่สอบติดก็ไม่ได้ใช้เงินซื้อตำแหน่งมา
นางสาวปิยะโสภิชา เผยว่า เธอจบประกาศนียบัตรวิชาชีพครู จาก ม.ราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา และปริญญาตรี ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ซึ่งในเฟซบุ๊กที่มีบางคนไปค้นและพบว่าเธอจบจากราชภัฏ แต่กลับใส่ว่าจบจาก ม.เกษตรศาสตร์ นั้น จริง ๆ แล้วเธอจบจากทั้ง 2 ที่
นางสาวปิยะโสภิชา ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี เคยสอบครูผู้ช่วย สพฐ.66 เอกฟิสิกส์ สพม.ปราจีนบุรี นครนายก ได้ลำดับที่ 24 และสอบครูผู้ช่วย สพฐ.67 เอกวิทยาศาสตร์ ที่ จ.สกลนคร ได้ลำดับที่ 18 ซึ่งที่เธอเลือกสอบวิชาวิทยาศาสตร์ เพราะมีทั้งรหัส 10 และ 11 ปี 2567 ไม่ได้เปิดสอบเอกนี้ทุกจังหวัด บางจังหวัดไม่รับคนเทียบหน่วยกิต
เธอทราบดีว่าตัวเองจบเอกฟิสิกส์ แต่จุดอ่อนก็คือฟิสิกส์ การไปสอบครูผู้ช่วย
สพฐ.66 ทำให้รู้ว่า ความรู้ทางฟิสิกส์ไม่มากพอที่จะไปสอนเด็กมัธยมศึกษา
หลายที่ที่เธอสอบติดแต่ไม่ใช่ที่ 1 หรือการสอบที่ปราจีนบุรีที่เธอสอบไม่ติด
ซึ่งขอน้อมรับ และนั่นจึงทำให้เธอไปสอบเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไปแทน
โดยนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุง เธออ่านหนังสืออย่างหนัก
มีการไปขอใบเทียบหน่วยกิตก่อนที่ทาง สพฐ. จะประกาศกำหนดสอบ ลงคอร์สติว
ซื้อหนังสือมาอ่าน และเธอก็สอบติดครูอาชีวะ เอกวิทยาศาสตร์ แล้วด้วย
กำลังจะไปสัมภาษณ์ภาค ค. เร็ว ๆ นี้ กรุณาอย่าด้อยค่าความพยายาม
ระหว่างรอบรรจุ เธอได้ไปสมัครสอบตามโรงเรียนและหน่วยงาน สพป. สพม. จังหวัดต่าง ๆ ตามที่ทุกคนค้นเจอ เธอมีบัตรประจำตัวผู้สมัครสอบแนบมาให้ดู และไปสอบสัมภาษณ์ตามขั้นตอนในวันที่ 8-9 กันยายน ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าไม่เข้าสอบหรือเอาคนอื่นมาสอบแทน
เธอไม่ได้ทราบมาก่อนว่าเธอมาแทนที่คนอื่น ตอนแรกที่เห็นประกาศและไม่มีชื่อเธอ เธอก็ไปบอกกับคนในครอบครัวว่า สอบไม่ติด และใช้ชีวิตปกติ และตอนนี้เธอก็รอความชัดเจนอยู่ แต่มีคนเอาข้อมูลส่วนตัว เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของเธอ เอาไปประจาน หาว่าเธอเป็นเด็กเส้น ใช้เงินซื้อตำแหน่งมา
เธอก็เป็นคนหนึ่งที่จบมา อยากเป็นครู อยากไปเรียนต่อปริญญาตรีบัณฑิต อยากสอบใบประกอบวิชาชีพครู สอบบรรจุข้าราชการครู สพฐ. ครูอาชีวะ ครูอัตราจ้าง พนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอนอย่าดูถูกว่าตนไม่เก่ง ความรู้ไม่มี ทั้งที่บางอย่างมันคือจังหวะชีวิต บางทีเธอป่วย ทำงานหนัก ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ จนสอบไม่ติด ก็นำจุดนี้มาปรับปรุงตัว ถ้าเธอมีเงิน มีเส้นสายจริง คงไม่ไปสอบทุกที่ที่มีโอกาสหรอก ทำทุกอย่างที่ทำและผลที่เกิดขึ้น เธอก็พยายามไม่แพ้คนอื่น และไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างไร เธอพร้อมน้อมรับ เพราะอยากจะพ้นข้อครหาเหมือนกัน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
จากกรณีดราม่าข้ามคืน ที่ นางสาวเบญญาภา ที่สอบติดครูที่สระแก้ว แต่รายชื่อหาย และทางการศึกษาสระแก้ว ก็ได้ออกมายอมรับว่า เป็นความผิดพลาดเรื่องการตรวจข้อสอบ
อ่านเพิ่มเติม สาวสอบครูได้อันดับ 1 อยู่ ๆ ชื่อหาย การศึกษาสระแก้วอธิบาย โป๊ะมาก...คนที่มาแทน
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้เผยคำพูดของ นางสาวปิยะโสภิชา (สงวนนามสกุล) คนที่มาแทน นางสาวเบญญาภา ที่สอบติดครูที่สระแก้ว แต่รายชื่อหาย โดยที่นางสาวปิยะโสภิชา ได้ไล่เรียงทุกอย่างตั้งแต่ประวัติการศึกษา ครอบครัว และตอบคำถามให้ฟังว่า เธอยัดเงินหรือเป็นเด็กเส้นอย่างที่ทุกคนอ้างไหม
ปิยะโสภิชา ยืนยัน พ่อแม่ก็รับราชการ ยังทำงานขายของออนไลน์เป็นรายได้เสริม ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ
นางสาวปิยะโสภิชา เผยว่า ครอบครัวของเธอ มีคุณพ่อคุณแม่ที่รับราชการ คุณพ่ออยู่ที่สระแก้ว คุณแม่และเธออยู่ที่ปราจีนบุรี เธอทำงานแบ่งเบาภาระครอบครัว ขายเสื้อผ้ามือสองออนไลน์ ขายขนมขายเบเกอรี่ ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ ลูกนักการเมืองนามสกุลดังอย่างที่เข้าใจ ที่สอบติดก็ไม่ได้ใช้เงินซื้อตำแหน่งมา
นางสาวปิยะโสภิชา เผยว่า เธอจบประกาศนียบัตรวิชาชีพครู จาก ม.ราชภัฏราชนครินทร์ จ.ฉะเชิงเทรา และปริญญาตรี ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ซึ่งในเฟซบุ๊กที่มีบางคนไปค้นและพบว่าเธอจบจากราชภัฏ แต่กลับใส่ว่าจบจาก ม.เกษตรศาสตร์ นั้น จริง ๆ แล้วเธอจบจากทั้ง 2 ที่
ปิยะโสภิชา ยอมรับ จุดอ่อนก็คือฟิสิกส์ เลยไปสอบวิทยาศาสตร์ทั่วไป ระหว่างนี้ก็ตระเวนสอบหน้ามืดเหมือนกัน
นางสาวปิยะโสภิชา ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี เคยสอบครูผู้ช่วย สพฐ.66 เอกฟิสิกส์ สพม.ปราจีนบุรี นครนายก ได้ลำดับที่ 24 และสอบครูผู้ช่วย สพฐ.67 เอกวิทยาศาสตร์ ที่ จ.สกลนคร ได้ลำดับที่ 18 ซึ่งที่เธอเลือกสอบวิชาวิทยาศาสตร์ เพราะมีทั้งรหัส 10 และ 11 ปี 2567 ไม่ได้เปิดสอบเอกนี้ทุกจังหวัด บางจังหวัดไม่รับคนเทียบหน่วยกิต
ระหว่างรอบรรจุ เธอได้ไปสมัครสอบตามโรงเรียนและหน่วยงาน สพป. สพม. จังหวัดต่าง ๆ ตามที่ทุกคนค้นเจอ เธอมีบัตรประจำตัวผู้สมัครสอบแนบมาให้ดู และไปสอบสัมภาษณ์ตามขั้นตอนในวันที่ 8-9 กันยายน ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าไม่เข้าสอบหรือเอาคนอื่นมาสอบแทน
ปิยะโสภิชา ยืนยัน อย่าด้อยค่าความพยายาม สอบพลาดและเอามาปรับปรุง ตอนนี้รอความชัดเจน แต่โดนคนประจานไปแล้ว
เธอไม่ได้ทราบมาก่อนว่าเธอมาแทนที่คนอื่น ตอนแรกที่เห็นประกาศและไม่มีชื่อเธอ เธอก็ไปบอกกับคนในครอบครัวว่า สอบไม่ติด และใช้ชีวิตปกติ และตอนนี้เธอก็รอความชัดเจนอยู่ แต่มีคนเอาข้อมูลส่วนตัว เฟซบุ๊ก อินสตาแกรมของเธอ เอาไปประจาน หาว่าเธอเป็นเด็กเส้น ใช้เงินซื้อตำแหน่งมา
เธอก็เป็นคนหนึ่งที่จบมา อยากเป็นครู อยากไปเรียนต่อปริญญาตรีบัณฑิต อยากสอบใบประกอบวิชาชีพครู สอบบรรจุข้าราชการครู สพฐ. ครูอาชีวะ ครูอัตราจ้าง พนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอนอย่าดูถูกว่าตนไม่เก่ง ความรู้ไม่มี ทั้งที่บางอย่างมันคือจังหวะชีวิต บางทีเธอป่วย ทำงานหนัก ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ จนสอบไม่ติด ก็นำจุดนี้มาปรับปรุงตัว ถ้าเธอมีเงิน มีเส้นสายจริง คงไม่ไปสอบทุกที่ที่มีโอกาสหรอก ทำทุกอย่างที่ทำและผลที่เกิดขึ้น เธอก็พยายามไม่แพ้คนอื่น และไม่ว่าผลสอบจะออกมาเป็นอย่างไร เธอพร้อมน้อมรับ เพราะอยากจะพ้นข้อครหาเหมือนกัน