บทสรุปกรณี ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ทำไมประตูฉุกเฉินถึงเปิดไม่ได้ เป็นประตูจริงหรือประตูหลอก แล้วทำไมเด็กไปอยู่กันท้ายรถ
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
หนึ่งในคำถามสำคัญกรณี ไฟไหม้รถบัสนักเรียน นั่นคือ เรื่องประตูฉุกเฉินเปิดได้หรือไม่ เพราะจุดที่มีคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่กระจุกกันอยู่ที่ท้ายรถ ดังนั้น ถ้าประตูฉุกเฉินเปิดได้ อย่างน้อยคนก็ยังสามารถหนีออกมาได้มากกว่านี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประตูฉุกเฉินไม่ได้ถูกเปิดออก ทั้งที่ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ประตูฉุกเฉินต้องเปิดออกได้เต็มส่วนกว้างและสูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญต้องเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือเครื่องมืออื่นใด ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออก และเปิดได้จากทั้งในตัวรถและนอกตัวรถ
ที่สำคัญหลังจากเจ้าหน้าที่ดับไฟได้ ยิ่งเห็นชัดว่าตัวกระจกตรงประตูฉุกเฉินแตกหมดจากความร้อน แต่ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยอมรับว่า ทำงานลำบาก เพราะตัวถังก๊าซเอ็นจีวีที่อยู่กลางรถ ทำงานอยู่ตลอดเวลา
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ส่วนสาเหตุที่ทำไมคนที่ไปอยู่จุดประตูฉุกเฉินกันเยอะ เพราะต้นเพลิงอยู่ตรงกลางรถ ทำให้ทางหนีเหลือเพียงทางเดียว ส่วนคนที่อยู่หน้ารถก็หนีไปยังประตูหน้า ส่วนประตูหลังตรงกลางรถฝั่งซ้าย ก็เป็นอีกประตูที่เปิดไม่ได้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
เจ้าของรถยัน ประตูฉุกเฉินได้มาตรฐาน ครูและเด็กใช้แรงไม่พอ
เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายอรรถพล เรืองสารณ์ ทนายความของบริษัทเจ้าของรถบัส ยืนยันว่า การตรวจสอบ การแจ้งจดทะเบียนต่าง ๆ การติดตั้งก๊าซ ทำตามระบบวิศวกรรมของขนส่ง ส่วนประตูฉุกเฉินก็ได้รับการตรวจสอบตามปกติ แต่ที่เปิดไม่ได้อาจเป็นเพราะมีน้ำหนักมาก เด็กและครูอาจใช้แรงไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมเยียวยาและยอมรับผิดในส่วนของทางแพ่งและพาณิชย์
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น พบว่า มีการจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 ระบุประเภทรถโดยสารไม่ประจำทาง 41 ที่นั่ง มีการดัดแปลงเครื่องยนต์จากอีซูซุเป็นเบนซ์ ตอนที่เอารถไปยื่นกรมการขนส่งทางบก ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี แต่ตอนสมัครบริษัทประกัน ระบุว่า ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้, เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
หนึ่งในคำถามสำคัญกรณี ไฟไหม้รถบัสนักเรียน นั่นคือ เรื่องประตูฉุกเฉินเปิดได้หรือไม่ เพราะจุดที่มีคนเสียชีวิต ส่วนใหญ่กระจุกกันอยู่ที่ท้ายรถ ดังนั้น ถ้าประตูฉุกเฉินเปิดได้ อย่างน้อยคนก็ยังสามารถหนีออกมาได้มากกว่านี้
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานว่า ในตัวรถจะมีประตูทางออก 4 ทางคือ ประตูคนขับรถที่คนขับใช้ออก, ประตูหน้ารถ, ประตูหลังรถ และประตูฉุกเฉิน ส่วนจุดที่มีผู้เสียชีวิตจะพบ 2 จุดคือ บริเวณแถว 3 แถว 4 ใกล้กับประตูหลัง กับท้ายรถที่ใกล้กับประตูฉุกเฉิน
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ประตูฉุกเฉินไม่ได้ถูกเปิดออก ทั้งที่ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ประตูฉุกเฉินต้องเปิดออกได้เต็มส่วนกว้างและสูงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญต้องเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรือเครื่องมืออื่นใด ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออก และเปิดได้จากทั้งในตัวรถและนอกตัวรถ
ที่สำคัญหลังจากเจ้าหน้าที่ดับไฟได้ ยิ่งเห็นชัดว่าตัวกระจกตรงประตูฉุกเฉินแตกหมดจากความร้อน แต่ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยอมรับว่า ทำงานลำบาก เพราะตัวถังก๊าซเอ็นจีวีที่อยู่กลางรถ ทำงานอยู่ตลอดเวลา
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ส่วนสาเหตุที่ทำไมคนที่ไปอยู่จุดประตูฉุกเฉินกันเยอะ เพราะต้นเพลิงอยู่ตรงกลางรถ ทำให้ทางหนีเหลือเพียงทางเดียว ส่วนคนที่อยู่หน้ารถก็หนีไปยังประตูหน้า ส่วนประตูหลังตรงกลางรถฝั่งซ้าย ก็เป็นอีกประตูที่เปิดไม่ได้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายอรรถพล เรืองสารณ์ ทนายความของบริษัทเจ้าของรถบัส ยืนยันว่า การตรวจสอบ การแจ้งจดทะเบียนต่าง ๆ การติดตั้งก๊าซ ทำตามระบบวิศวกรรมของขนส่ง ส่วนประตูฉุกเฉินก็ได้รับการตรวจสอบตามปกติ แต่ที่เปิดไม่ได้อาจเป็นเพราะมีน้ำหนักมาก เด็กและครูอาจใช้แรงไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมเยียวยาและยอมรับผิดในส่วนของทางแพ่งและพาณิชย์
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้น พบว่า มีการจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 ระบุประเภทรถโดยสารไม่ประจำทาง 41 ที่นั่ง มีการดัดแปลงเครื่องยนต์จากอีซูซุเป็นเบนซ์ ตอนที่เอารถไปยื่นกรมการขนส่งทางบก ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี แต่ตอนสมัครบริษัทประกัน ระบุว่า ติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเด่นเย็นนี้, เรื่องเล่าเช้านี้