สรุป 3 จุดตายไฟไหม้รถบัสนักเรียน ผิดพลาดซ้ำซ้อนหลายจุดจนส่งผลให้เกิดเหตุสลด ถ้าหากมีสิ่งเหล่านี้ อย่างน้อยจะมีคนรอดชีวิตเพิ่ม
ผ่านไป 2 วันหลังเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ตอนนี้ปมปริศนาการเกิดอุบัติเหตุหลายจุดเริ่มคลี่คลายออกมาให้เห็น ทั้งรถที่ไม่ได้มาตรฐาน ประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ รวมถึงอายุของรถที่จดทะเบียนมา 54 ปี ดัดแปลงรถเปลี่ยนไปจากสภาพเดิมมาก
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
2. ติดตั้งเอ็นจีวี 11 ถัง
รถคันนี้มีการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีเกินกว่าที่ขออนุญาต คือ ขออนุญาตไว้ที่ 6 ถัง แต่ติดจริง 11 ถัง ตั้งแต่ล้อหน้า 4 ถัง ล้อหลัง 2 ถัง และกลางรถอีก 4 ถัง นอกจากนี้ ตอนจดทะเบียนรถไม่ได้ระบุว่าติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี ถ้าหากระบุว่าติดตั้ง กรมการขนส่งทางบกจะต้องตรวจปีละ 2 ครั้ง
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
3. อุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่ครบ
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ท้ายรถเนื่องจากตรงกลางรถมีไฟ ไม่สามารถฝ่าไปได้ ดังนั้นทางออกที่เหลืออยู่เพียงทางเดียวคือ ประตูฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ประตูทางออกฉุกเฉินที่อยู่ท้ายรถเปิดไม่ได้ แม้คนขับรถบัสจะลงมาช่วยเปิดแล้วก็ไม่สำเร็จ ถ้าหากเปิดได้น่าจะมีคนรอดชีวิตมากกว่านี้ ขณะเดียวกันอุปกรณ์สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ ค้อนทุบกระจกรถบัส ก็ไม่มี ถ้าหากมีครูยังสามารถทุบกระจกแล้วให้คนหนีออกมาจากช่องได้ กรณีที่เปิดประตูไม่สำเร็จ
นอกจากนี้ ถังดับเพลิงที่อยู่ในรถสำหรับการดับไฟก็ไม่มี ถ้าหากมีถังอย่างน้อยก็ช่วยกันฉีดดับไฟในรถได้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
ผ่านไป 2 วันหลังเหตุการณ์ ไฟไหม้รถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ตอนนี้ปมปริศนาการเกิดอุบัติเหตุหลายจุดเริ่มคลี่คลายออกมาให้เห็น ทั้งรถที่ไม่ได้มาตรฐาน ประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ รวมถึงอายุของรถที่จดทะเบียนมา 54 ปี ดัดแปลงรถเปลี่ยนไปจากสภาพเดิมมาก
ล่าสุด วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เฟซบุ๊ก อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ มีการสรุปถึงจุดตาย 3 ข้อที่ทำให้เกิดเหตุ มีดังนี้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
1. รถบัสเก่า 54 ปีภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
รถบัสคันนี้เป็นรถบัสที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 ใช้งานมาแล้ว 54 ปี แต่รถบัสโดยสารในไทย ไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นรถใหม่หรือรถสำเร็จรูป ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงเอาคัสซี (หรือแชสซี) ของรถบรรทุกมา และซื้อเครื่องยนต์ เพื่อมาจดประกอบ ถือเป็นช่องวางในการจดทะเบียนรถกับกรมการขนส่งทางบก ขอแค่ทำสีและตัวถังใหม่ให้ผ่านการตรวจสอบก็พอ แต่ไม่ได้ตรวจสอบลงลึกถึงตัวถัง รหัสต่าง ๆ ว่าตรงไหม
ยิ่งถ้ารถมีการจดทะเบียนนาน ไม่ได้ถูกดูแลซ่อมบำรุง ก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยอายุรถที่เหมาะสมอยู่ที่ 10-15 ปี
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
รถคันนี้มีการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีเกินกว่าที่ขออนุญาต คือ ขออนุญาตไว้ที่ 6 ถัง แต่ติดจริง 11 ถัง ตั้งแต่ล้อหน้า 4 ถัง ล้อหลัง 2 ถัง และกลางรถอีก 4 ถัง นอกจากนี้ ตอนจดทะเบียนรถไม่ได้ระบุว่าติดตั้งก๊าซเอ็นจีวี ถ้าหากระบุว่าติดตั้ง กรมการขนส่งทางบกจะต้องตรวจปีละ 2 ครั้ง
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้
3. อุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่ครบ
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ท้ายรถเนื่องจากตรงกลางรถมีไฟ ไม่สามารถฝ่าไปได้ ดังนั้นทางออกที่เหลืออยู่เพียงทางเดียวคือ ประตูฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม ประตูทางออกฉุกเฉินที่อยู่ท้ายรถเปิดไม่ได้ แม้คนขับรถบัสจะลงมาช่วยเปิดแล้วก็ไม่สำเร็จ ถ้าหากเปิดได้น่าจะมีคนรอดชีวิตมากกว่านี้ ขณะเดียวกันอุปกรณ์สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือ ค้อนทุบกระจกรถบัส ก็ไม่มี ถ้าหากมีครูยังสามารถทุบกระจกแล้วให้คนหนีออกมาจากช่องได้ กรณีที่เปิดประตูไม่สำเร็จ
นอกจากนี้ ถังดับเพลิงที่อยู่ในรถสำหรับการดับไฟก็ไม่มี ถ้าหากมีถังอย่างน้อยก็ช่วยกันฉีดดับไฟในรถได้
ภาพจาก เรื่องเด่นเย็นนี้