ย้อนเส้นทางความรวยของ พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล แห่ง ดิไอคอนกรุ๊ป ที่พูดใน ตีสิบ จากลูกคนงานก่อสร้าง ต้องกินข้าวกับน้ำตาล สู่การสร้างอาณาจักร ดิไอคอน สอนการตลาดให้คนฟรี เจ้าของวลี ขยันผิดที่ ทำงาน 10 ปีก็ไม่รวย
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
จากกรณีสุดอื้อฉาว ที่มีการแฉถึงบริษัทชื่อดัง The iCON Group ที่ส่อเค้าทำธุรกิจคล้ายกับการขายตรง หาดาวน์ไลน์ จนมีหลายคนที่ออกมาแฉและบอกว่าต้องสิ้นเนื้อประดาตัวให้กับธุรกิจนี้ ซึ่งล่าสุดทาง พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล แห่ง ดิไอคอนกรุ๊ป ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมกับที่ แซม ยุรนันท์ ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว
อ่านเพิ่มเติม แซม - มิน - กันต์ เคลื่อนไหว โดนโยงเป็นบอส เครือข่ายหลอกลงทุน - เผยสัมพันธ์กับเจ้าของ
ทั้งนี้ ในรายการ ตีสิบเดย์ เคยสัมภาษณ์ พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ดิไอคอนกรุ๊ป
ภาพจาก ตีสิบ
ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน พอล วรัตน์พล เคยมาออกรายการ ตีสิบ และได้เล่าย้อนถึงชีวิตความลำบากในอดีต ที่สร้างตัวจนมาถึงวันนี้ พร้อมกับเป็นที่มาวลี ขยันผิดที่ ทำงาน 10 ปีก็ไม่รวย
บอสพอล วรัตน์พล วัยเด็กลำบาก ต้องกินข้าวกับน้ำตาล เคยคิดสั้นเพราะเป็นหนี้ไม่ถึงแสน ก่อนมาทำธุรกิจ
บอสพอล บอกว่า ตนเป็นคน กทม. พ่อทิ้งไปตั้งแต่ 3 ขวบ แม่ทำงานก่อสร้างได้เงินวันละ 150 บาท พอลเติบโตมากับแม่และยาย 2 คน และแม่ก็ไม่ชอบเป็นหนี้ ทำให้ช่วงวัยเด็กลำบาก เวลากินข้าวก็กินข้าวกับน้ำตาล หนังสือเรียนเก่า รองเท้าเก่า เวลาเห็นเพื่อนมีก็อยากมี ตนก็ขอแม่ แม่ก็บอกว่าไม่มีให้ ถามทีไรแม่ก็ตาแดง ๆ ร้องไห้ ทำให้ตนรู้สึกไม่ดี แม่ก็บอกว่าถ้าอยากรวย ก็ให้พอลตั้งใจเรียนเก่ง ๆ จบมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่ตนก็ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น ถ้าที่โรงเรียนมีการประกวดแล้วได้เงิน ตนก็จะไป เช่น ประกวดร้องเพลงไทยเดิม เพลงลูกทุ่ง พูดเป็นพิธีกร อ่านทำนองเสนาะ ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง
ภาพจาก ตีสิบ
ตอนที่ตนโตแล้ว ตนก็พยายามมีชีวิตที่ดีขึ้น เลยเป็นหนี้ แต่หนี้ไม่ถึงแสน ตอนนั้นตนมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งแฟนทิ้ง ทั้งหนี้ และตนก็เครียดเลยขึ้นไปบนดาดฟ้าตึก คิดว่าจะฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ตนดูในทีวีและเห็นว่า ถ้าเราอยากเป็นคนอย่างไร ให้คบคนแบบนั้น ตนอยากรวย เลยต้องคบคนรวย แต่คนรอบตัวของตนจนทุกคน ตนเลยไปร้านหนังสือเพื่อไปอ่านหนังสือที่คนรวย ๆ เขียน เช่น อ่านหนังสือของคุณเฉลียว อยู่วิทยา, คุณธนินท์ เจียรวนนท์ และทำให้รู้ว่า อยากรวยต้องทำธุรกิจ
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
บอสพอล วรัตน์พล เจ้าของวลี ขยันผิดที่ 10 ปีไม่รวย ไปศึกษาการขายของออนไลน์จนรวย
ก่อนหน้านี้ ตนทำงานประจำมาก่อน ตั้งแต่เสิร์ฟเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ค่าแรง 200 บาท แต่ได้ทิปหลักพัน ถ้าโชคดีก็ 2,000-3,000 บาท แต่งานนี้ทำไม่ได้ตลอด เงินได้เยอะก็ออกไปเยอะ หลังจากนั้นตนก็ไปทำงานประจำ ตำแหน่ง Marketing Executive แต่ทำจริงคือไปรับโทรศัพท์ ครั้งแรกได้เงินเดือน 6,000 บาท ซึ่งไม่พอตนก็ไปขอทำโอทีเพิ่ม จนได้มา 10,000 บาท ก็ไม่พอ และไปเสิร์ฟเบียร์เสริม แต่ละวันนอนแค่ 2-3 ชั่วโมง "ความขยันเป็นเรื่องที่ดี แต่ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย"
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
แต่พอเป็นแบบนี้ ทำให้ตนต้องเปลี่ยนชีวิต จากแต่ก่อนนอนหลับบนรถเมล์ เพราะทำงานเหนื่อย แต่พอจะคิดทำธุรกิจ เวลาอยู่บนรถเมล์ ตนจะมองซ้ายมองขวา เพื่อหาว่ามีอะไรให้เราทำไหม มีครั้งหนึ่งตนอยากขายบะหมี่ เพราะเห็นหน้าปากซอยขายดี แต่ไม่มีเงินลงทุน ตนก็ไต่เต้าในงาน จนตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตอนนั้นตนอ่านหนังสือเยอะ และทำให้รู้ว่า ถ้าอยากรวยต้องทำธุรกิจตามกระแสโลก และตอนนั้นเริ่มมีการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ ตนศึกษาแรก ๆ ไม่ถนัดเลย แต่ตนไปหาหนังสือ เรียนออนไลน์ และฝึกฝน จนไปเอากระเบื้องดินเผาที่บ้านแฟนมาขายออนไลน์ ขายไปขายมาก็เริ่มดี ก็ไปดีลกับเจ้าอื่นมาด้วย ตอนนั้นยอดขายเป็นล้าน แต่หักลบทุกอย่างเหลือเข้ากระเป๋าแค่ 300,000-400,000 บาท
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
บอสพอล วรัตน์พล ทำนายในปี 2568 คนจะรักงามมากขึ้น - ชี้ไม่กลัวคู่แข่ง คนยิ่งรวย ยิ่งดี
สุดท้าย บอสพอลบอกว่า ตอนนี้ ตนมีธุรกิจมากมาย ทั้งธุรกิจความงาม อุตสาหกรรมสุขภาพ Welless ซึ่งตนบอกได้เลยว่า เมื่อ 10 ปีก่อน คนยังไม่รักสวยรักงามมาก แต่อีก 10 ปีข้างหน้า (วันที่สัมภาษณ์คือปี 2558) คนจะรักสวยรักงามยิ่งกว่าวันนี้อีก หากเริ่มตั้งแต่วันนี้จะเปลี่ยนจากคนจน เป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
ตนสอนการทำการตลาดออนไลน์ คนเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรมอยู่แล้ว แต่เล่นแล้วไม่ได้เงิน เราก็สอนให้เขาเล่นแล้วรวย ใช้ประโยชน์ให้ถูกที่ถูกทาง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากจะมีคนมาทำแข่งตนก็ไม่หวั่น เพราะถ้าคนรวยเยอะ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตนจนมาทั้งชีวิต และเพิ่งรวยได้ 4 ปีเท่านั้น
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
จากกรณีสุดอื้อฉาว ที่มีการแฉถึงบริษัทชื่อดัง The iCON Group ที่ส่อเค้าทำธุรกิจคล้ายกับการขายตรง หาดาวน์ไลน์ จนมีหลายคนที่ออกมาแฉและบอกว่าต้องสิ้นเนื้อประดาตัวให้กับธุรกิจนี้ ซึ่งล่าสุดทาง พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล แห่ง ดิไอคอนกรุ๊ป ก็ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมกับที่ แซม ยุรนันท์ ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว
อ่านเพิ่มเติม แซม - มิน - กันต์ เคลื่อนไหว โดนโยงเป็นบอส เครือข่ายหลอกลงทุน - เผยสัมพันธ์กับเจ้าของ
ทั้งนี้ ในรายการ ตีสิบเดย์ เคยสัมภาษณ์ พอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ดิไอคอนกรุ๊ป
ภาพจาก ตีสิบ
ย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน พอล วรัตน์พล เคยมาออกรายการ ตีสิบ และได้เล่าย้อนถึงชีวิตความลำบากในอดีต ที่สร้างตัวจนมาถึงวันนี้ พร้อมกับเป็นที่มาวลี ขยันผิดที่ ทำงาน 10 ปีก็ไม่รวย
บอสพอล วรัตน์พล วัยเด็กลำบาก ต้องกินข้าวกับน้ำตาล เคยคิดสั้นเพราะเป็นหนี้ไม่ถึงแสน ก่อนมาทำธุรกิจ
บอสพอล บอกว่า ตนเป็นคน กทม. พ่อทิ้งไปตั้งแต่ 3 ขวบ แม่ทำงานก่อสร้างได้เงินวันละ 150 บาท พอลเติบโตมากับแม่และยาย 2 คน และแม่ก็ไม่ชอบเป็นหนี้ ทำให้ช่วงวัยเด็กลำบาก เวลากินข้าวก็กินข้าวกับน้ำตาล หนังสือเรียนเก่า รองเท้าเก่า เวลาเห็นเพื่อนมีก็อยากมี ตนก็ขอแม่ แม่ก็บอกว่าไม่มีให้ ถามทีไรแม่ก็ตาแดง ๆ ร้องไห้ ทำให้ตนรู้สึกไม่ดี แม่ก็บอกว่าถ้าอยากรวย ก็ให้พอลตั้งใจเรียนเก่ง ๆ จบมาจะได้เป็นเจ้าคนนายคน แต่ตนก็ไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น ถ้าที่โรงเรียนมีการประกวดแล้วได้เงิน ตนก็จะไป เช่น ประกวดร้องเพลงไทยเดิม เพลงลูกทุ่ง พูดเป็นพิธีกร อ่านทำนองเสนาะ ซึ่งก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง
ภาพจาก ตีสิบ
ตอนที่ตนโตแล้ว ตนก็พยายามมีชีวิตที่ดีขึ้น เลยเป็นหนี้ แต่หนี้ไม่ถึงแสน ตอนนั้นตนมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งแฟนทิ้ง ทั้งหนี้ และตนก็เครียดเลยขึ้นไปบนดาดฟ้าตึก คิดว่าจะฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ตนดูในทีวีและเห็นว่า ถ้าเราอยากเป็นคนอย่างไร ให้คบคนแบบนั้น ตนอยากรวย เลยต้องคบคนรวย แต่คนรอบตัวของตนจนทุกคน ตนเลยไปร้านหนังสือเพื่อไปอ่านหนังสือที่คนรวย ๆ เขียน เช่น อ่านหนังสือของคุณเฉลียว อยู่วิทยา, คุณธนินท์ เจียรวนนท์ และทำให้รู้ว่า อยากรวยต้องทำธุรกิจ
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
บอสพอล วรัตน์พล เจ้าของวลี ขยันผิดที่ 10 ปีไม่รวย ไปศึกษาการขายของออนไลน์จนรวย
ก่อนหน้านี้ ตนทำงานประจำมาก่อน ตั้งแต่เสิร์ฟเบียร์หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้ค่าแรง 200 บาท แต่ได้ทิปหลักพัน ถ้าโชคดีก็ 2,000-3,000 บาท แต่งานนี้ทำไม่ได้ตลอด เงินได้เยอะก็ออกไปเยอะ หลังจากนั้นตนก็ไปทำงานประจำ ตำแหน่ง Marketing Executive แต่ทำจริงคือไปรับโทรศัพท์ ครั้งแรกได้เงินเดือน 6,000 บาท ซึ่งไม่พอตนก็ไปขอทำโอทีเพิ่ม จนได้มา 10,000 บาท ก็ไม่พอ และไปเสิร์ฟเบียร์เสริม แต่ละวันนอนแค่ 2-3 ชั่วโมง "ความขยันเป็นเรื่องที่ดี แต่ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย"
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
แต่พอเป็นแบบนี้ ทำให้ตนต้องเปลี่ยนชีวิต จากแต่ก่อนนอนหลับบนรถเมล์ เพราะทำงานเหนื่อย แต่พอจะคิดทำธุรกิจ เวลาอยู่บนรถเมล์ ตนจะมองซ้ายมองขวา เพื่อหาว่ามีอะไรให้เราทำไหม มีครั้งหนึ่งตนอยากขายบะหมี่ เพราะเห็นหน้าปากซอยขายดี แต่ไม่มีเงินลงทุน ตนก็ไต่เต้าในงาน จนตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตอนนั้นตนอ่านหนังสือเยอะ และทำให้รู้ว่า ถ้าอยากรวยต้องทำธุรกิจตามกระแสโลก และตอนนั้นเริ่มมีการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ ตนศึกษาแรก ๆ ไม่ถนัดเลย แต่ตนไปหาหนังสือ เรียนออนไลน์ และฝึกฝน จนไปเอากระเบื้องดินเผาที่บ้านแฟนมาขายออนไลน์ ขายไปขายมาก็เริ่มดี ก็ไปดีลกับเจ้าอื่นมาด้วย ตอนนั้นยอดขายเป็นล้าน แต่หักลบทุกอย่างเหลือเข้ากระเป๋าแค่ 300,000-400,000 บาท
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
บอสพอล วรัตน์พล ทำนายในปี 2568 คนจะรักงามมากขึ้น - ชี้ไม่กลัวคู่แข่ง คนยิ่งรวย ยิ่งดี
สุดท้าย บอสพอลบอกว่า ตอนนี้ ตนมีธุรกิจมากมาย ทั้งธุรกิจความงาม อุตสาหกรรมสุขภาพ Welless ซึ่งตนบอกได้เลยว่า เมื่อ 10 ปีก่อน คนยังไม่รักสวยรักงามมาก แต่อีก 10 ปีข้างหน้า (วันที่สัมภาษณ์คือปี 2558) คนจะรักสวยรักงามยิ่งกว่าวันนี้อีก หากเริ่มตั้งแต่วันนี้จะเปลี่ยนจากคนจน เป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้
ภาพจาก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล
ตนสอนการทำการตลาดออนไลน์ คนเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรมอยู่แล้ว แต่เล่นแล้วไม่ได้เงิน เราก็สอนให้เขาเล่นแล้วรวย ใช้ประโยชน์ให้ถูกที่ถูกทาง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากจะมีคนมาทำแข่งตนก็ไม่หวั่น เพราะถ้าคนรวยเยอะ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตนจนมาทั้งชีวิต และเพิ่งรวยได้ 4 ปีเท่านั้น