บุกตรวจบ้านต้องสงสัย ดัดแปลงมิเตอร์ไฟขุดสกุลเงินดิจิทัล จ่ายบิลเดือนละ 100-400 บาท ทั้งที่ใช้จริงนับแสน สูญเสียรายได้ปีละนับ 100 ล้าน
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำหมายศาลปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุดใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังตรวจพบขบวนการดัดแปลงมิเตอร์ ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าไปใช้ในเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อน ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากค่าไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นจับ นายกฤษดา ซึ่งยอมรับเป็นเจ้าของและแอดมินดูแลระบบพยายามปิดระบบ ควบคุมผ่านหน้าจอคอมและมือถือ หลังถูกจับได้ เจ้าตัวมีอาการเครียดชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
จากการตรวจค้น พบการติดตั้ง Wi-Fi ดัดแปลงมิเตอร์ ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าแรงต่ำเข้าไปในบ้าน อีกหนึ่งเส้นโยงตรงเข้าไปที่เหมืองขุดในห้องลับหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า การดัดแปลงติดตั้งระบบต่าง ๆ กลุ่มคนที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเชี่ยวชาญและมีความรู้เฉพาะด้าน จึงเชื่อว่าน่าจะมีเครือข่ายหรือขบวนการ หรืออาจมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นเป้าหมายอีก 12 จุด พบพฤติการณ์แบบเดียวกัน ส่วนใหญ่ลักลอบทำในอาคารที่พักอาศัยหรือบ้านเช่า พบหลักฐานประกอบการกระทำความผิด ทั้งระบบ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ หม้อแปลง มิเตอร์แบบดัดแปลง บางจุดได้ไปเช่าบ้าน ก่อนจะลักลอบเจาะกำแพง ดัดแปลงบ้านและมิเตอร์ ทำเป็นเหมืองขุด มีช่องระบายลมร้อน และอุปกรณ์จำนวนมาก แต่แม้จะเป็นบ้านใหญ่มีแอร์หลายตัว แต่บิลค่าไฟกลับอยู่ที่เดือนละร้อยกว่าบาท บางเดือนไม่เกิน 500
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภายหลังการตรวจค้นทั้ง 13 จุด ดีเอสไอ ตำรวจ สภ.ท่าม่วง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมกันตรวจยึดของกลาง ทั้งอุปกรณ์และเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 300 เครื่อง คิดเป็นความเสียหายภาครัฐต่อปีไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นการขุดเหมืองบิทคอยน์ดังกล่าว จะใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากขนาดเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม แต่มีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการระบุตัวเลขจากมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีจำนวนตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง โดยตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งมีเครื่องขุดเงินดิจิทัล 12 เครื่อง กำลังเครื่องละ 3.6 กิโลวัตต์ แต่จ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน ทั้งที่ค่าไฟจริง ประมาณ 150,000 บาท
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดอื่น ๆ และจะตามตัวคนที่เหลือ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่พยายามหลบเลี่ยง ไม่เฉพาะกาญจนบุรี แต่ดีเอสไอจะขยายผลเข้าดำเนินการทั้งประเทศ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3, กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำหมายศาลปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุดใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังตรวจพบขบวนการดัดแปลงมิเตอร์ ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าไปใช้ในเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อน ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากค่าไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นจับ นายกฤษดา ซึ่งยอมรับเป็นเจ้าของและแอดมินดูแลระบบพยายามปิดระบบ ควบคุมผ่านหน้าจอคอมและมือถือ หลังถูกจับได้ เจ้าตัวมีอาการเครียดชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
จากการตรวจค้น พบการติดตั้ง Wi-Fi ดัดแปลงมิเตอร์ ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าแรงต่ำเข้าไปในบ้าน อีกหนึ่งเส้นโยงตรงเข้าไปที่เหมืองขุดในห้องลับหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า การดัดแปลงติดตั้งระบบต่าง ๆ กลุ่มคนที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเชี่ยวชาญและมีความรู้เฉพาะด้าน จึงเชื่อว่าน่าจะมีเครือข่ายหรือขบวนการ หรืออาจมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นเป้าหมายอีก 12 จุด พบพฤติการณ์แบบเดียวกัน ส่วนใหญ่ลักลอบทำในอาคารที่พักอาศัยหรือบ้านเช่า พบหลักฐานประกอบการกระทำความผิด ทั้งระบบ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ หม้อแปลง มิเตอร์แบบดัดแปลง บางจุดได้ไปเช่าบ้าน ก่อนจะลักลอบเจาะกำแพง ดัดแปลงบ้านและมิเตอร์ ทำเป็นเหมืองขุด มีช่องระบายลมร้อน และอุปกรณ์จำนวนมาก แต่แม้จะเป็นบ้านใหญ่มีแอร์หลายตัว แต่บิลค่าไฟกลับอยู่ที่เดือนละร้อยกว่าบาท บางเดือนไม่เกิน 500
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภายหลังการตรวจค้นทั้ง 13 จุด ดีเอสไอ ตำรวจ สภ.ท่าม่วง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมกันตรวจยึดของกลาง ทั้งอุปกรณ์และเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 300 เครื่อง คิดเป็นความเสียหายภาครัฐต่อปีไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นการขุดเหมืองบิทคอยน์ดังกล่าว จะใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากขนาดเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม แต่มีการลักลอบดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมการระบุตัวเลขจากมิเตอร์ไฟฟ้าให้มีจำนวนตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง โดยตรวจสอบบ้านหลังหนึ่งมีเครื่องขุดเงินดิจิทัล 12 เครื่อง กำลังเครื่องละ 3.6 กิโลวัตต์ แต่จ่ายค่าไฟฟ้าเพียง 100 - 400 บาทต่อเดือน ทั้งที่ค่าไฟจริง ประมาณ 150,000 บาท
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ตำรวจ นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดอื่น ๆ และจะตามตัวคนที่เหลือ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่พยายามหลบเลี่ยง ไม่เฉพาะกาญจนบุรี แต่ดีเอสไอจะขยายผลเข้าดำเนินการทั้งประเทศ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ภาพจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ