บอย ปกรณ์ ออกโหนกระแส รับโง่เป็นพรีเซ็นเตอร์ ดิไอคอน พูดชวนลงทุน คือสคริปต์

 
         บอย ปกรณ์ ออกโหนกระแส ยอมรับโง่เอง เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ ดิไอคอน ส่วนที่พูดบนเวทีชวนลงทุน คือสคริปต์ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย รับพร้อมแตกหัก พอล วรัตน์พล ขอยกเลิกสัญญา


         ทั้งนี้ บอย ปกรณ์ เผยในรายการ โหนกระแส ว่า หลังจากที่มีเรื่อง บอยก็ตกใจเพราะเป็นข้อมูลที่ไม่รู้มาก่อน และบอยก็รู้สึกไม่ดี บอยอยากออกมาชี้แจง แต่ขอเวลาเตรียมเอกสารก่อน และพอดีเอกสารเสร็จตอนเช้า บอยจึงขอมาที่รายการเลยดีกว่า
         บอยรู้จักดิไอคอน เพราะพอล วรัตน์พล ติดต่อมา บอยรู้จักบอสพอลตอนปี 2563 ที่เคยได้รับการติดต่อมาให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นเวย์โปรตีน สัญญา 1 ปี เมื่อครบ 1 ปี ก็ไม่มีการต่อสัญญา เว้นไป 1 ปี และปี 2565 บอยก็เป็นพรีเซ็นเตอร์กาแฟ จากนั้นก็ต่อสัญญาเรื่อย ๆ จนถึงปี 2567

         ในสัญญาคือเป็นพรีเซ็นเตอร์ โปรโมตสินค้า แสดงแบบ ถ่ายทำภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ ร่วมกิจกรรม ออกอีเวนต์ ออกรายการไทด์อินสินค้า ทำคอนเทนต์ แต่ไม่มีการชักชวน ไม่มีโมเดลธุรกิจ พร้อมกับที่บอยเผยให้เห็นสัญญา ไม่สามารถเปิดต่อสาธารณะได้ แต่พร้อมที่จะส่งให้ตำรวจ ซึ่งคนที่เซ็นเอกสารคือ บอสพอล แต่บอยไม่ใช่ "บอส" และไม่ใช่ผู้บริหาร 

 

บอย ปกรณ์ เผยคำพูดบนเวที ดิไอคอน คือสคริปต์และบรีฟมา ยอมรับว่าพลาด ผิดไปแล้ว

         จากนั้นรายการได้เปิดคลิปของบอยที่พูดบนเวที ที่บอกว่า ดิไอคอนกรุ๊ป วางทุกอย่างให้หมดแล้ว ระบบมีพร้อม มีที่ไหนจะส่งสินค้าและสอนด้วย หากมีสินค้าแล้วไม่มีกลยุทธ์ ก็ไปได้ไม่ไกล อย่าลืมหยิบและตักตวงให้ได้มากที่สุด เพราะทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน และอีกคลิปที่บอยบอกว่า สิ่งที่ประทับใจกับ ดิไอคอนกรุ๊ป คือ สินค้าต้องมีคุณภาพ ผู้นำองค์กรต้องดีและมีคุณภาพ และบริษัทต้องมีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือ และคนทำการตลาดออนไลน์ ทำไมไม่มาทำที่ ดิไอคอน สิ่งที่คนอื่นไม่มีคืออาวุธ ที่ดิไอคอนกรุ๊ปจัดมาให้อยู่ตรงนี้ ทุกคนต้องเคยขายของ ส่งของ สต็อกของเอง แต่คุณแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วขาย แล้วรับเงิน

          ซึ่งทางบอยบอกว่า ความจริงหลังจากเกิดเรื่องขึ้นมา พอเห็นคลิปก็รู้สึกโง่ ตอนนั้นมั่นใจว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ อีเวนต์นี้เป็นอีเวนต์ประจำปี และตนก็ไปในฐานะพรีเซ็นเตอร์กาแฟ ก่อนคลิปก็จะได้พูดถึงกาแฟก่อน มันคือสคริปต์ และมีบรีฟจากทีมงาน ให้พูดให้กำลังใจ
         เมื่อถามว่าเฉลียวใจไหม บอยบอกว่า ไม่ได้เฉลียวใจผู้เสียหาย แต่มีบ้างที่บอยตั้งคำถามเรื่องที่ว่า ไม่สต็อกของแปลว่าอะไร ซึ่งทีมงานบอกว่า ถ้าตัวแทนสั่งของแล้วไม่ต้องสต็อกของ บริษัทจะจัดส่งให้เอง

         เมื่อถามว่า พูดแบบนี้คือการ แถ ไหม บอยบอกว่า ถ้าใครเชื่อก็ส่วนหนึ่ง จะด่าว่าแถก็ได้ ตนก็เสียใจกับสิ่งที่พูด และพลาดเอง ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ บอยรู้พร้อมทุกคนว่ามีคนเสียหาย เริ่มเห็นจาก TikTok ก่อนเลย คนนี้สต็อกของเท่านี้ ขาดทุน ทุนจม แจกเพื่อน อย่างที่บอกว่า เราเคยตั้งำถามกับบริษัทว่า ไหนบอกว่าไม่มีการสต็อกของ ตนยอมรับว่าจิตตก ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็โปรโมตสินค้าให้น่าสนใจ จะด้วยความไม่รู้อะไรก็ตาม ก็ทำให้เกิดความเสียหาย และตนยอมรับว่าพลาด ยอมรับว่าผิด

แม่ทีม พูดต่อหน้า บอย ปกรณ์ เพื่อนซื้อดิไอคอนเพราะบอย - บอยพร้อมยกเลิกสัญญา

         จากนั้น หนึ่งในอดีตแม่ทีม ได้พูดกับบอยถึงความเสียหายว่า ตนมีเพื่อนคนหนึ่งที่เขารักพี่บอยมาก ไม่เคยตัดสินใจลงทุนขายของ ถ้าพี่บอยเลือกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเช็กข้อมูลอะไร เพื่อนคนนั้นเปิดบิลมา 2.5 แสน ตนก็รู้สึกผิด เป็นตราบาปกับเพื่อนมาก ๆ

         ด้านบอยก็บอกว่า ก่อนรับงานก็เช็กบ้าง สินค้าได้ อย. ไหม เราเช็กเท่าที่เราเช็กได้ ส่วนกลไกภายในลึก ๆ เราก็เช็กไม่ได้ ตนเป็นดารา เกิดมาจากประชาชน มีคนรักและซัพพอร์ต การมาสร้างความเชื่อมั่นและทำให้เกิดความเสียหาย ตนฟังผู้เสียหายแล้วก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร
         สามสี่วันที่ผ่านมา ตนก็อึดอัดมาก วันนี้ได้มาพูดก็เหมือนยกภูเขาจากอก วันนี้ตนอยากมาขอโทษด้วยสำหรับผู้เสียหายทุกคน ที่เดือดร้อนจากที่มาเชื่อใจในสิ่งที่ตนพูดออกไป (ไหว้ขอโทษ) ถ้าในวันนั้นตนรู้ว่าสิ่งที่พูดมันก่อให้เกิดความเสียหาย ตนไม่พูด อันไหนไม่จริงจะไม่พูด ถ้าเขาจะบังคับ ตนก็กล้าที่จะเดินออกจากงาน ตนไม่ได้เช็กจนเกิดความเสียหาย ตนผิดเอง และตนยินดีที่จะไปให้ข้อมูลกับตำรวจ