บ้านแชร์น้องแครอทล้ม แฉบรรยายหลอกขายฝัน พระตกเป็นเหยื่อเพียบ เสียหายกว่าพันล้าน

         แฉบ้านแชร์น้องแครอทล้ม บริษัทหลอกพระเสียหายเพียบ มูลค่าพันล้าน แฉหลักสูตรขายฝัน ซ้ำนักศึกษา คนสูงวัย ก็ตกเป็นเหยื่อด้วย

          วันที่ 21 ตุลาคม 2567 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว เผยเรื่องราวความเสียหายของวงแชร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคอีสาน พร้อมระบุว่า บ้านแชร์น้องแครอท แชร์ลูกโซ่ของสงฆ์อีสาน ผู้เสียหายส่วนใหญ่คือพระสงฆ์เกือบทั้งหมด หลังหลอกพระสงฆ์ที่อยู่ในภาคอีสานเข้าร่วมลงทุนเทรดกับบริษัทขายฝันอ้างไม่เกิน 5 ปี ได้บ้าน ได้รถ ตอนนี้มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 1,000 ล้านบาท

          ทางเพจยังระบุอีกว่า มีบริษัทหนึ่งเข้าไปหลอกพระ และชาวบ้านให้มาร่วมลงทุน โดยการจัดสัมมนา อบรมต่าง ๆ และชักชวนคนเพื่อหาเครือข่าย สมาชิกบ้านแชร์ดังกล่าว เริ่มต้นลงทุน 10,000 ดอลลาร์ (ราว 3 แสนบาท) อ้างว่าบริษัทนี้มีแม่ทีม 51 คน หากินกับพระ นักศึกษา และผู้สูงอายุ คาดมีผู้เสียหาย 4,000-5,000 ราย


          หนึ่งในผู้เสียหายจาก จ.สุโขทัย เปิดเผยว่า เริ่มต้นเมื่อปี 2563 รู้จักการเทรดจากเพื่อนร่วมงาน ตอนแรกไม่ได้สนใจ แต่เพื่อนย้ำว่าเทรดนี้ดี เพื่อนร่วมงานได้พากันลงเทรดแล้วได้กำไรจริง ๆ จึงมาชวนตนไปร่วมด้วย ต่อมาไปเห็นในกลุ่มนักเทรด จึงได้เข้าไปเป็นสมาชิก ในกลุ่มนักเทรดจะมีแม่ทีมอยู่รายหนึ่ง โพสต์ภาพคู่กับบุคคลหนึ่ง นั่งกินอาหารโต๊ะเดียวกัน พร้อมระบุว่า ได้กำไร ทำให้เริ่มเชื่อใจ ต่อมาบริษัทได้เชิญให้เข้าไปเรียนรู้ โดยจะให้เหรียญเดโม่ 1 เหรียญเพื่อทดลองเล่น พร้อมเรียนการเทรด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และย้ำว่าไม่ใช่ Forex 3D

          จากนั้นแม่ทีมตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมาเพื่อสอนเรื่องการเทรด ต่อมาวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2565 ตนได้ไปเข้าร่วมอบรมสัมมนาที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรังสิต มีคนเข้าอบรมกว่า 1,000 คน มีทั้งผู้สูงอายุ นักธุรกิจ ชาวบ้านทั่วไป แต่ไม่มีพระสงฆ์ คาดว่าน่าจะมีการแยกไปอบรมอีกรุ่นหนึ่ง ในวันนั้นตนได้เจอกับเจ้าของโบรกเกอร์ดังกล่าว ได้บอกว่า ที่ทำโครงการนี้ เพื่อต้องการช่วยเหลือคนที่ใจไม่เย็นพอ เทรดไม่เป็น เทรดไม่ได้


          หลังจากนั้นเมื่อเดือน ธันวาคม 2565 ตนตรวจพบมีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งปากมดลูก ต้องรักษาตัวผ่าตัด ไม่ได้ทำงาน จึงขาดรายได้ ตัดสินใจนำโฉนดที่ดินสมบัติชิ้นสุดท้ายไปขายฝากนายทุน เพื่อนำเงินมาลงทุนเทรด เปิด 1 พอร์ต 316,000 บาท มีการอ้างอิงว่าจะได้กำไรอย่างน้อยเดือนละ 10,000-20,000 บาท ผ่านไป 3 เดือน บริษัทแจ้งว่ายังถอนไม่ได้ พอร์ตเสีย ต้องเอาเงินกองทุนมาเติม

          เวลาผ่านมาถึงเดือน มิถุนายน 2566 ก็ยังไม่ได้เงิน เริ่มมีคนออกมาเรียกร้องว่าเทรดแล้วถอนเงินไม่ได้ จึงเริ่มระแคะระคายว่าอาจโดนหลอก โดยมีผู้เสียหายเริ่มไปร้องเรียนกับ ดีเอสไอ แต่ไม่มีความคืบหน้า หลังมีปัญหาจึงยุติการเทรดไปเพราะไม่มีเงินแล้ว ปัจจุบันก็ติดต่อกับแม่ทีมและโบรกเกอร์ดังกล่าวไม่ได้


          จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของบริษัทดังกล่าวมีภาพถ่ายและรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับอดีตรัฐมนตรีคนหนึ่ง ปัจจุบันยังเป็น สส. รวมทั้งเคยถ่ายร่วมเฟรมกับนายตำรวจยศใหญ่


          ประเด็นเรื่องพระสงฆ์ที่ถูกหลอกลวงให้ลงทุน เริ่มจากมีแม่ทีมไปชักชวนเมื่อปี 2561 โดยเจ้าของเคยไปบรรยายที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งมีพระสงฆ์จำนวนมากเข้าฟังการบรรยาย นอกจากนี้เจ้าของบริษัทยังเคยไปบรรยายกฎหมายและธรรมวินัยให้กับพระสงฆ์เมื่อปี 2565 ที่หลายจังหวัดในภาคอีสาน ซึ่งหลังจบการบรรยายก็มักจะได้ลูกค้าติดมือไปด้วย

          จากการตรวจสอบพบว่า เอกสารที่บริษัทดังกล่าวนำไปบรรยายให้พระสงฆ์มีการระบุว่า BFI (Buddhist Financial Intelligence) การบริหารการเงินตามแทนวทางพุทธวิธีสำคัญอย่างมากในจิตวิทยาการเทรด บริการอารมณ์และจิตใจไม่ให้โลภ หรืออยากได้อยากมีจนเกินไป รู้จักการรอคอย ใช้แนวพุทธวิธีในการนำทาง


          ส่วนหัวข้อการบรรยายในสถานศึกษาจะใช้ชื่อว่า แพลตฟอร์มเปลี่ยนโลกการเงิน ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมจำนวนมาก และอาจจะมีคนเป็นเหยื่อในการหลอกลงทุน นอกจากนี้ยังพบว่ามีการไปเปิดบริษัทลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

          ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะเข้าเป็นเจ้าภาพในการดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, ThaiPBS
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
บ้านแชร์น้องแครอทล้ม แฉบรรยายหลอกขายฝัน พระตกเป็นเหยื่อเพียบ เสียหายกว่าพันล้าน อัปเดตล่าสุด 21 ตุลาคม 2567 เวลา 15:43:33 14,345 อ่าน
TOP
x close