เปิดการบ้านเรียงความเด็กประถม หัวข้อเรื่องเศร้า ไม่เขียนมาสักตัว แต่ครูเถียงไม่ออก ต้องให้คะแนนเต็มทันที
ภาพจาก Weibo
ความคิดของเด็กนั้นเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน จึงมีคำกล่าวที่มักได้ยินว่าเด็กจะไม่โกหก แต่บางครั้งความไร้เดียงสาของพวกเขานั้น ก็ทำให้ผู้ใหญ่ต้องตกตะลึงอย่างที่คาดไม่ถึง และเรื่องราวนี้ก็เช่นเดียวกัน
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ Soha เผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ บนโซเชียลมีเดียของจีนได้แชร์รูปภาพการบ้านของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งคุณครูของเขาได้มอบหมายให้เขียนเรียงความ ความยาวหนึ่งหน้ากระดาษ ในหัวข้อว่า "เรื่องเศร้าที่ทำให้เสียใจ" โดยกำหนดหัวข้อคำสั่งเอาไว้ 2 ข้อ ได้แก่ เขียนความรู้สึกที่แท้จริงลงไป และเขียนอย่างตั้งใจให้เรียบร้อย
หลังจากได้รับมอบหมายการบ้าน เด็กนักเรียนในชั้นเรียนเดียวกันต่างพากันเขียนบรรยายความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเผชิญมา อาทิ โดนผู้ปกครองดุ ตอนที่ป่วย ไม่สบาย หรือทะเลาะกับเพื่อน และเรื่องราวอื่น ๆ มากมาย แต่ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนรายหนึ่งปฏิบัติแตกต่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อคุณครูเปิดการบ้านเรียงความของเขาเพื่อจะตรวจ กลับพบว่าหน้ากระดาษว่างเปล่า เขาไม่ได้เขียนอะไรมาเลย
ในตอนแรกคุณครูรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย และคิดว่าเด็กนักเรียนคนนี้ไม่ได้ทำการบ้านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อสังเกตดูที่หน้ากระดาษดี ๆ ก็พบว่า มีร่องรอยของน้ำตา 3 หยด ที่เคยเปียกและแห้งเหลือเป็นคราบทิ้งไว้ ตอนนั้นทางคุณครูจึงเข้าใจได้ทันทีว่า คราบน้ำตาเหล่านี้คือเรื่องเศร้าของเขานั่นเอง
ภาพจาก Weibo
"เขาใส่ความรู้สึกที่แท้จริงลงมา โดยไม่ต้องเขียนข้อความหรือตัวอักษรแม้แต่ตัวเดียว" โดยท้ายที่สุด ทางคุณครูได้ตรวจให้การบ้านของเด็กนักเรียนคนนี้ผ่าน พร้อมกับให้คะแนนเต็ม 50 คะแนน
หลังจากภาพเรียงความสุดเศร้าดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นวงกว้าง หลายคนพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็น กล่าวกันว่า นี่น่าจะเป็นการบ้านเรียงความที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เนื่องจากเป็นเรียงความที่ไม่ได้เขียนอะไรเลย แต่ถูกต้องตามคำสั่งแถมยังได้คะแนนเต็มอีก และในขณะเดียวกัน ก็ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
"ให้คะแนนเต็ม โดยไม่มีการโต้แย้งใด ๆ"
"เจ๋งมาก เรียงความที่ไม่ได้เขียนมาสักตัว แต่ตรงตามโจทย์เป๊ะ บรรยายอารมณ์ได้อย่างแท้จริง"
"อยู่แค่ชั้นประถมแต่ความคิดสร้างสรรค์มาก อนาคตสดใสแน่นอน"
"เมื่อคุณขี้เกียจ แต่ฉลาด เต็มสิบไม่หัก"
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha
ภาพจาก Weibo
ความคิดของเด็กนั้นเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน จึงมีคำกล่าวที่มักได้ยินว่าเด็กจะไม่โกหก แต่บางครั้งความไร้เดียงสาของพวกเขานั้น ก็ทำให้ผู้ใหญ่ต้องตกตะลึงอย่างที่คาดไม่ถึง และเรื่องราวนี้ก็เช่นเดียวกัน
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ Soha เผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ บนโซเชียลมีเดียของจีนได้แชร์รูปภาพการบ้านของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาคนหนึ่ง ซึ่งคุณครูของเขาได้มอบหมายให้เขียนเรียงความ ความยาวหนึ่งหน้ากระดาษ ในหัวข้อว่า "เรื่องเศร้าที่ทำให้เสียใจ" โดยกำหนดหัวข้อคำสั่งเอาไว้ 2 ข้อ ได้แก่ เขียนความรู้สึกที่แท้จริงลงไป และเขียนอย่างตั้งใจให้เรียบร้อย
หลังจากได้รับมอบหมายการบ้าน เด็กนักเรียนในชั้นเรียนเดียวกันต่างพากันเขียนบรรยายความรู้สึกของตัวเอง รวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเผชิญมา อาทิ โดนผู้ปกครองดุ ตอนที่ป่วย ไม่สบาย หรือทะเลาะกับเพื่อน และเรื่องราวอื่น ๆ มากมาย แต่ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนรายหนึ่งปฏิบัติแตกต่างจากเพื่อนคนอื่น ๆ อย่างสิ้นเชิง เพราะเมื่อคุณครูเปิดการบ้านเรียงความของเขาเพื่อจะตรวจ กลับพบว่าหน้ากระดาษว่างเปล่า เขาไม่ได้เขียนอะไรมาเลย
ในตอนแรกคุณครูรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย และคิดว่าเด็กนักเรียนคนนี้ไม่ได้ทำการบ้านมา แต่ปรากฏว่าเมื่อสังเกตดูที่หน้ากระดาษดี ๆ ก็พบว่า มีร่องรอยของน้ำตา 3 หยด ที่เคยเปียกและแห้งเหลือเป็นคราบทิ้งไว้ ตอนนั้นทางคุณครูจึงเข้าใจได้ทันทีว่า คราบน้ำตาเหล่านี้คือเรื่องเศร้าของเขานั่นเอง
ภาพจาก Weibo
"เขาใส่ความรู้สึกที่แท้จริงลงมา โดยไม่ต้องเขียนข้อความหรือตัวอักษรแม้แต่ตัวเดียว" โดยท้ายที่สุด ทางคุณครูได้ตรวจให้การบ้านของเด็กนักเรียนคนนี้ผ่าน พร้อมกับให้คะแนนเต็ม 50 คะแนน
หลังจากภาพเรียงความสุดเศร้าดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นวงกว้าง หลายคนพากันเข้าไปแสดงความคิดเห็น กล่าวกันว่า นี่น่าจะเป็นการบ้านเรียงความที่แปลกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เนื่องจากเป็นเรียงความที่ไม่ได้เขียนอะไรเลย แต่ถูกต้องตามคำสั่งแถมยังได้คะแนนเต็มอีก และในขณะเดียวกัน ก็ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก
"ให้คะแนนเต็ม โดยไม่มีการโต้แย้งใด ๆ"
"เจ๋งมาก เรียงความที่ไม่ได้เขียนมาสักตัว แต่ตรงตามโจทย์เป๊ะ บรรยายอารมณ์ได้อย่างแท้จริง"
"อยู่แค่ชั้นประถมแต่ความคิดสร้างสรรค์มาก อนาคตสดใสแน่นอน"
"เมื่อคุณขี้เกียจ แต่ฉลาด เต็มสิบไม่หัก"
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha