ดาหน้าเปิดแผล ทนายตั้ม ปอ-แซน ลั่นถ้าเลือกเป็นที่ปรึกษาคดี แตงโม นิดา ชีวิตคงวิบัติ คือสาเหตุที่ตอนนั้นไปหาตำรวจช้า แนะให้เบี่ยงเบนข้อเท็จจริง... ได้เหรอ !?
ปอ : ผมถามว่าจะให้ทำยังไง เขาบอกว่าถ้าจะให้ผมทำคดี เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ผมมีวิธี คุณแค่พูดมา ผมเหล่ ๆ เหมือนอาจจะเห็นเหล่ ๆ พูดมาทิศทางที่คุณแซน ที่เหลือเขาจัดการให้ สิ่งที่ผมกำลังเล่า เราให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน มีการไต่สวนในศาล ให้ไปหมดแล้ว พยานหลายปาก ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีแค่ผมกับคุณแซนสองคน วันนั้นอยู่ 5 คนในห้องอาหาร
- ทำไมถึงเพิ่งออกมาพูดตอนนี้ ?
ปอ : ชัด ๆ เลยนะพี่ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมหายใจยังผิดเลย พูดไปก็ไม่มีคนฟัง ไม่มีทาง
- ตอนนี้ไม่คิดว่าหายใจแล้วเราจะไม่ผิดเหรอ ?
ปอ : เราก็พูดความจริงเหมือนเดิม แต่วันนั้นเราพูดแล้วไม่มีคนฟัง แต่วันนี้มีอีกหลายมุมที่เราไม่เคยพูด เราโดนกระแสโซเชียลกระหน่ำ และเหตุการณ์อะไรทำไมเราไม่ได้พูด วันนี้อยากพูด
- พูดไปเดี๋ยวคนกลับมาด่า ไม่กังวลใจ ไม่คิดมากนะ ?
ปอ : รวมทนายตั้มก็ 5 คน
แซน : แซนมาถึงทีหลัง ไม่ได้เจอเขา
ปอ : ที่อุ้ยกว่านั้น ปกติเราให้ข้อมูลไปแล้ว ปกติทนายเขาจะรู้ว่ามารยาทควรทำยังไง ทีนี้เขากลับกลายเป็นพยายามเดินไปติดต่อพี่คุณแตงโม แล้วไปติดต่อหลาย ๆ คน บอกว่าขอเป็นทนายคดีนี้
แซน : คู่กรณีของพวกเรา
ปอ : เราก็เลยช็อก คุณมารับข้อมูลหมดแล้ว แต่คุณไปขอทำคดีกับคู่กรณีเราได้ยังไง ต้องพูดคำนี้ จากนั้นเขาก็มารายการพี่หนุ่ม ถ้าจำไม่ผิด โต๊ะนี้เขาบอกว่าผมจะไปทำคดีเขาได้ไง แตงโมก็น้องผม ถ้าดูเทปย้อน โอ้ย ไอ้พวกนี้ เอ๊ะ ไอ้พวกนี้ คุณเป็นคนบอกให้ผมรอ แล้วที่ผมไปหา ตร. ช้าก็เพราะคุณนี่แหละ ถ้าจะเอาข้อมูลในการโทรศัพท์เราก็มีนะ
- คุณเก็บไว้หมด ?
แซน : ช่วงนั้น ตร. เขาขอเป็นหลักฐานในสำนวนค่ะ
ปอ : เราดูดโทรศัพท์เก็บข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์เรา คอนเวอร์เซชั่นคุยในไลน์เป็นยังไง โทรศัพท์เป็นยังไง คุยกี่โมง มันเป็นความบังเอิญที่เลยมีข้อมูล แต่ผมว่าทนายความที่ให้คำปรึกษาสองฝั่ง เราไม่เคยเจอ รับข้อมูลฝั่งนี้เขาไม่โอเค ก็ไปรับทำคดีอีกฝั่งนึง เราคิดว่าไม่ใช่ทนายปกตินะครับ
ปอ : อันนั้นก็เบื้องลึกเนอะ ระหว่างเขามาออกรายการ ออกไปก็ด่าไป ด่าเราหลาย ๆ ครั้ง แต่จริง ผมมองว่าหนึ่งเราได้ให้ความจริงใจ ให้ข้อมูลทั้งหมด เราเชื่อใจคุณถึงเล่า แต่เวลาออกรายการพี่หนุ่ม หรือหลาย ๆ รายการเขาก็ด่าเรา
แซน : พูดด้อยค่าให้พวกเราเหมือนเป็นคนผิด
ปอ : ผมว่าอันนี้ใจร้ายเกินไป ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่พี่หนุ่มถาม ถ้าถึงเวลาที่สมควร อาจมาคุยกันต่อ
แซน : ตอนเขาแนะนำพี่ปอว่าให้ทำไปแนวทางไหน มีคลิปสิคะ (หัวเราะ)
ปอ : ผมไม่เคยพูดนะ
แซน : แซนมือสั่นจะช่วยพี่ปอส่งให้ทีมงานแล้วค่ะ หรือเอ๊ะ ถ้าไม่อยากให้เปิด ก็โอนผ่านพี่ตุ๋ยมาได้นะคะ (หัวเราะ)
ปอ : ผมว่าเขารู้ว่าผมมีอะไรอยู่ แต่ผมบอกพี่หนุ่มแล้วกัน ผมมีคลิปทนายตั้ม แต่วันนี้ผมไม่เปิด
- เอาเรื่องทนายตั้มดีกว่า คุณอึดอัดอะไร?
แซน : การที่เขาออกมาแสดง แล้วทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเรา ก็แย่แล้ว แล้วไม่หยุด เป็นระยะเวลาประมาณเกือบปีได้มั้งที่เขาออกมาแขวะโน่น แซะนี่ พูดโน่นนี่ พูดชี้นำให้สังคมมารุมด่า นั่นก็เป็นอีกเหตุผลค่ะ
- คุณรู้สึกยังไง เขาบอกว่าขอให้คนสุดท้ายที่อยู่กับแตงโมเป็นคนรับไปเลย เพราะคนสุดท้ายคือคุณ ?
แซน : แซนคิดว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ เขาเป็นทนายเนอะ เอาตรง ๆ ทำไมไม่มีศีลธรรมเลย มันเป็นแบบนี้ได้เหรอคะ ตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจริงหรือเปล่า จนกระทั่งคุยกับพี่ปอ ก็เลยไม่ชอบทนายคนนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ
ปอ : ที่อยากมาวันนี้ อย่างแรกอยากพูดถึงทนายตั้ม และอยากพูดอีกมุมของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ของคนบนเรือ ได้รับผลกระทบจากคนใช้กระแส คนที่ดูอยู่ตอนนี้อาจไม่เคยรับรู้ แต่ขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดสั้น ๆ ผมแชร์ประสบการณ์วันนั้นเลย ผมเรียกว่าการตัดสินใจ วันที่เราพบคุณตั้มวันแรก มันมีเรื่องประหลาด เช้าวันนั้นผมได้พูดกับคนชื่อษิทรา 2 คน ษิทราคนที่หนึ่งบอกว่าคุณต้องเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมด ห้ามบิดเบือนแม้แต่ 1 เปอร์เซ็นต์ ข้อเท็จจริงที่คุณเล่าจะเป็นเกราะป้องกันตัวคุณเอง ส่วนษิทราคนที่สอง ที่เจอตอน 5 โมง บอกว่าเราต้องบิดเบือน แล้วเรื่องนี้จะจบง่าย เดี๋ยวผมจัดการให้ ผมก็กลับมาพิจารณาแล้วอยากให้คนดูรายการพี่หนุ่ม ถ้าวันนั้นเราเลือกที่ปรึกษาผิด ผมมั่นใจว่าชีวิตผมวิบัติ ถ้าวันนั้นผมบิดเบือนข้อเท็จจริงตามที่ปรึกษาทนายคนนี้ ผมมั่นใจว่าวันนี้ผมจะมานั่งตรงนี้ไม่ได้ เท่ากับเราให้การเท็จ หลอกคนทั้งประเทศ โยนให้กับเพื่อนซึ่งตกอยู่ในวิบากกรรมเดียวกัน การที่คุณเลือกที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือชีวิตคุณมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ คุณต้องเลือกให้ถูกคน เพราะเขาจะนำแนวทางชีวิตที่ถูกต้อง ตอนเช้า พี่ปุ่น ษิทรา ทิวารี เป็นคนให้แนวผม โทร. มาย้ำเลย แต่ตอนเย็น ษิทรานึง ให้คำปรึกษาเหมือนกัน ถ้าผมทำตามเขา ผมไม่รู้จะพูดยังไง คงมหาวิบัติ คงไม่ได้มานั่งตรงนี้ มากกว่านั้นสิ่งที่เราอยากแชร์ให้เพื่อน ๆ ทำ และคนที่รักแตงโม หลายคนบอกว่าเฮ้ย มีฆาตกรรมโน่นนี่ ผมมีคำถามนึง คุณเคยเห็นรูปในโซเชียล ไม่ต่ำกว่า 500-1,000 ภาพ มีภาพไหนที่มีรอยหน้าบึ้ง ไม่สบายใจ เชื่อว่าทุกรูปมีรอยยิ้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นเราไปกินข้าวกันด้วยความสุข เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นสิบ ๆ ปี แซน แตงโม กระติก เป็นเพื่อนผม เราไปกินข้าวกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันคือการสูญเสีย พวกเราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น สิ่งที่เราเจอหลังจากนั้นต่อมา ไม่มีใครบิดเบือนได้เลย เพราะเราเจอ ตร. ที่สอบสวนผมน่าจะ 2-3 เดือน เจอตั้งแต่ สภ. ผู้การภาค จนใหญ่สุด ๆ บางทีเรียกมา 5 ทุ่ม บางทีก็ไม่ให้กลับบ้าน
แซน : เอามือถือพวกเราไปบางที 2 วัน เอาไปเลย
ปอ : ขอเส้นผม เส้นขน
แซน : ให้ถอดเสื้อผ้าหมดเลย แล้วถ่ายรูปไปด้วยเพื่อเป็นหลักฐาน ถึงขั้นนั้น
ปอ : มากกว่านั้น พวกเราเดินทางไปไหน ถ้าไปย้อนกล้อง รถทุกคันจะมีภาพหมด รถปอไปไหน รถแซนไปไหน รถโรเบิร์ตไปไหน กล้องทั้งประเทศไทยเป็นพันตัว มากกว่านั้นเรือเดินทางไปไหน กล้องตามตึก กล้องตามสะพานก็มีหมด จากหลักฐานที่เขาเก็บ มันยังหนาไม่พอเหรอ พอเขาได้ภาพมาแล้ว ภาพมีความชัดและละเอียดไม่พอ ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะครับ เขาไปจ้างเหมือนกันตนา จ้างปรับภาพให้ชัดเพื่อเห็นพฤติกรรมโดยละเอียด แสงสะท้อนทั้งหมด จนเรื่องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เราให้การทั้งหมด ทำให้เรื่องนี้ปิดคดีได้ แต่กว่าจะปิดได้ ต้องบอกว่าชั้นพนักงานสอบสวนเขาสอบละเอียดมาก อัยการกว่าจะได้ฟ้อง ของผมถึงชั้นศาลเรื่องถึงได้เสร็จสิ้น ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มีที่มาที่ไป ผ่านการตรวจสอบและคัดกรองอย่างละเอียด แต่ที่ประชาชนที่รักแตงโม เขาเข้าใจผิด เพราะเข้าใจว่าเป็นมุมที่เราไม่เคยเล่า ไม่ได้แชร์ มากกว่านั้นผมเชื่อว่ามีสื่ออีกด้านที่เขาได้ประโยชน์ สังเกตดูดี ๆ นะครับ คุณตั้มมารับคำปรึกษา ฟอลโลเวอร์สัก 5 แสน หลังจากนั้นบอกไม่รับทำ ออกมาถือกระเป๋าเดินวนไปวนมาอยู่รอบเรือ เดือนเดียวฟอลโลเวอร์ขึ้น 2 ล้าน ฟอลโลเวอร์ขึ้น 1.5 ล้าน ถามว่าคนได้ประโยชน์คือใคร คือคนที่ออกมาเกาะตรงนี้มากกว่า คนที่เสียคือประชาชน ประชาชนนั่งดูนั่งติดตาม เดี๋ยวจะมีข่าวนั้น เดี๋ยวจะเปิดอันนี้ แล้วมีอะไรครับ ผมเชื่อว่ามีผู้เสียหายแบบเรา คนดังกล่าวเขามีครอบครัว มีธุรกิจ มีสิ่งที่เขารับผิดชอบ อยากให้เห็นใจและกรองด้วย ตรงนี้ต้องออกมายืนยันว่าเราคือเพื่อนแตงโม เรารักแตงโม เรากับคุณเหมือนกัน ตรงนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุ มาถึงกระบวนการที่ศาลพิพากษาเสร็จสิ้น ก็อยากมาแชร์มุมนี้ที่เพื่อน ๆ ไม่เคยฟัง
แซน : ก็เข้าใจสังคมที่เขามีมุมมองความคิดแบบนั้น เขาเสพสื่อจากแค่ที่เขาต้องการนำเสนอ หลายคนที่ออกมาช่วงนั้น ก็ไม่แปลกที่เขาจะเข้าใจผิดพวกเรา
ปอ : ใช้คำว่าเข้าใจได้ดีกว่า แต่อย่างน้อยเราสะท้อนว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น เพราะเขารับสารข้างเดียว แต่อย่างเรา ที่ถูกสอบ ถูกรื้อทุกอย่าง ผ่านกระบวนการเป็นปี ๆ เราเจอเหตุการณ์เขาไม่เคยรู้
- วันนี้คดีแตงโม ไปถึงไหนแล้ว ?
ปอ : ของผมจบแล้ว ศาลชั้นต้นตัดสินเสร็จเด็ดขาดคดีถือว่าสิ้นสุด ไม่มีคนอุทธรณ์
- แม่แตงโมอุทธรณ์ไหม ?
ปอ : ไม่ได้อุทธรณ์ครับ จบแค่นี้เลย ปกติเขามีเกณฑ์การอุทธรณ์ โจทก์ต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่เรากับแม่ก็มีการดูแลกันเป็นอย่างดี แม่ก็บอกว่าจบที่ศาลชั้นต้นตรงนี้ แม่จะไม่มีอุทธรณ์ใด ๆ แม่ก็ไม่อุทธรณ์ ทุกวันนี้ผมกับแม่ก็ดูแลและรักกัน เหมือนตั้งแต่ต้นทุกอย่าง วันแรกได้เจอแม่ยังไง วันนี้ผมกับแม่ก็ยังเหมือนเดิม ที่เขาพูดเรื่องฆาตกรรมเราคุยในศาลว่ามีมูลไหม มีข้อเท็จจริงไหม
- สภาพแตงโมที่บอกว่าโดนใบพัดหรือโดนมีด เขาพิสูจน์มายังไง ?
ปอ : ตรงนี้เป็นเรื่องนิติเวช รายละเอียดเบื้องลึกผมไม่ทราบ ของผมไม่ได้อยู่ในขั้นสู้คดี ของผมจบก่อน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หลัก ๆ ดูมูลเหตุของการฟ้อง เขาฟ้องประมาท โทษคือประมาท ไม่ใช่ฟ้องฆาตกรรม เพราะฟ้องฆาตกรรมมันไม่มี ที่มีอย่างเดียวเลยคือคนออกมาสร้างกระแส ว่ามีขวดตีกัน มีเลือด มีรอยทั้งหลาย สรุปมีอะไรบ้าง
- ตร. ทำสำนวนส่งอัยการ อัยการสั่งฟ้องคือเรื่องประมาท ไม่ใช่ฆาตกรรมตั้งแต่ชั้น ตร. ?
ปอ : ถูกต้องครับ
- อัยการก็ส่งฟ้องศาลว่าเป็นประมาทเหมือนกัน ?
ปอ : ครับ ขึ้นอยู่กับอัยการต่อ อย่าง ตร. ส่งมาว่าเป็นประมาท แต่อัยการไม่เชื่อขอสอบเพิ่มว่าเข้าฆาตกรรมไหมอัยการก็ทำได้ แต่วันนั้น ตร. ส่งฟ้องมาเป็นประมาท อัยการก็ตรวจละเอียดหลายเดือน อัยการดาวท่านก็ทำละเอียดมาก สุดท้ายท่านดูละเอียดแล้วว่ามันคือประมาท ไม่มีเหตุใดเป็นอื่น
- แม่ก็ไม่อุทธรณ์ ก็เลยจบ คุณแซนล่ะ ?
แซน : ต้นเดือนหน้านะ ถ้าจำไม่ผิด
- คุณไม่ยอมรับว่าคุณประมาท ?
แซน : แซนไม่ประมาทสิคะ เพราะแซนนอนเฉย ๆ ก็ต้นเดือนหน้า ศาลจะสืบจากจำเลยก่อน เรื่องยังไม่จบค่ะ
- กับแม่ล่ะ ?
แซน : ไม่ได้คุยค่ะ แซนก็ยังรักและเป็นห่วงคุณแม่เหมือนเดิม เคยมีปัญหากันนิดหน่อย แต่ก็คุยดีตลอดนะคะ
ปอ : อันหนึ่งที่อยากฝากกับคนที่ดู พี่ปุ่นบอกว่าความจริงจะเป็นเกราะป้องกันเรา บางทีเราพูดวันนี้คนอาจยังไม่เชื่อ แต่ความจริงมันบิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ สุดท้ายพอผ่านกระบวนการวิเคราะห์ สุดท้ายถ้าจริงมันก็คือจริง จะเป็นอื่นไม่ได้ ความจริงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
- ทางนี้จะเคลียร์ไหม ?
แซน : ถ้าคุณตั้มอยากเคลียร์ไม่ให้เปิดคลิป (หัวเราะ) พูดเล่นค่ะ
- คลิปอะไร ?
ปอ : คุณตั้มเขารู้ดี พูดตรง ๆ เวลาที่เกิดขึ้น จะสะท้อนพฤติกรรม เราไม่ได้อยากออกมาซ้ำเติม ไม่อยากทำให้เขาแย่ไปมากกว่านี้ แต่ขอออกมาแชร์มุมหนึ่ง ประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก็พอ ผมขอแค่นี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ภาพจาก โหนกระแส
จากกรณีดราม่า ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูก "เจ๊อ้อย" เศรษฐีแฉอมเงิน 71 ล้าน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับทนายดัง ต่อมาเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ได้ออกมาลากไส้เป็นอีพีติดต่อกัน ซึ่งภายหลังตกเป็นข่าวดัง ทั้ง ปอ ตนุภัทร และ แซน วิศาพัช ได้ออกมาเล่าประสบการณ์เมื่อครั้งเคยติดต่อกับทนายตั้มเรื่องคดี "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" รวมไปถึง "เจ๊หนึ่ง บางปู" ที่เคยปรึกษาทนายตั้มเรื่องเลิกกับสามี ต้องเสียเงินสูงถึง 10 ล้าน
ปอ : หลังจากที่เจอเขา คุณเฟิร์นเป็นคนแนะนำ เรารู้สึกว่าจากตั้งป้อมจากคนไม่รู้จัก ก็รู้สึกคลายความกังวลไปส่วนหนึ่ง เราก็กล้าคุย บวกกับเรากังวลขั้นสูง เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาบอกว่าคุณปอเล่าข้อเท็จจริงให้ผมฟัง เราก็เล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้น ระหว่างเกิดเหตุการณ์ยังไง ข้อมูลที่รับรู้กันมา เชื่อว่าคุณตั้มน่าจะเป็นชุดแรก ๆ ที่ได้รับชุดข้อมูลและข้อเท็จจริงจากเรา หลังจากเขาได้ฟังข้อมูลทั้งหมดแล้ว เขาก็ให้แนวทางมา 2 แนวทาง บอกว่าถ้าคุณจะให้ผมเป็นทนายทำคดีนี้ คุณเดินได้อยู่ 2 ทาง แนวทางที่เขาให้เรา เรารู้สึกว่ามันฟังไม่ได้ เพราะเป็นแนวทางที่เบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ผมก็บอกว่าเฮ้ย คุณจะให้ผมทำแบบนี้ได้เหรอ
- เขาให้เบี่ยงเบนยังไง ?
ปอ : เขาจะให้พูดลักษณะว่าคนที่อยู่กับแตงโมเป็นคนสุดท้าย ให้เป็นคนรับไป ซึ่งในข้อเท็จจริงเรายืนอยู่หัวเรือ เรามองไม่เห็น ผมไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เขาจะให้พูดเหล่ ๆ ลักษณะเหมือนว่าค่อนข้างชัดให้มาที่เพื่อนเราคนนี้เป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์หรือซัมติง ความหมายคือประมาณนี้ ซึ่งผมบอกว่ามันไม่ใช่ข้อเท็จจริง เราไม่เอา เพราะถ้าแค่ข้อเท็จจริง เราก็โอ้โห เจอมหากาพย์แล้ว แต่คุณให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผมทำไม่ได้
ล่าสุดในรายการโหนกระแส วันที่ 30 ตุลาคม 2567 ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ แซน วิศาพัช, ปอ ตนุภัทร และ หนึ่ง บางปู ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีรายละเอียดการพูดคุยกับ แซน-ปอ เกี่ยวกับคดี แตงโม นิดา ดังนี้
ปอ : ไม่เคยรู้จักมาก่อน รู้จักหลังจากเกิดเหตุ เป็นช่วงที่พวกเราช็อก กำลังตัดสินใจเดินทางไปพบ ตร. ระหว่างทางที่กำลังตัดสินใจ ช่วงเช้าวันนั้น มีเพื่อนเราคนหนึ่ง คือคุณเฟิร์น เพื่อนสนิทคุณเบิร์ต เขาสนิทกับทนายตั้ม เขาประสานมาว่าเรื่องนี้ทนายที่มีความเชี่ยวชาญและอยู่กับกระแสพวกนี้ ต้องคนนี้ หลังจากนั้นก็ได้คุยกับคุณตั้ม ได้โทรศัพท์กับเขา เขาบอกผมว่าคุณต้องปรึกษาทนายก่อนคือผม แล้วผมตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดกำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จะมาได้เร็วที่สุดคือ 5 โมงเย็น ผมก็บอกว่าไม่ได้ว่ะ ตอนนี้ ตร. รออยู่ นักข่าวรออยู่เพียบเลย เราเลี่ยงมาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว เขาบอกคุณกำลังไปหาผู้ใช้กฎหมายคือ ตร. คุณจะไม่มีที่ปรึกษาทางกฎหมายมาก่อนได้ยังไง คุณต้องรอผมก่อนเท่านั้น คุณห้ามไป เขาระบุเลยว่าห้ามไป เราก็เลยไปคุยกับเพื่อนในกลุ่มว่าเราจะได้รับการคอนเซาท์กับเขาก่อนไหม เพราะเราก็กังวล เรากลัว เรากำลังช็อก เราก็ตัดสินใจรอเจอเขา 5 โมงเย็น ที่ร้านอาหาร
- ย้อนหลังไปเกือบ 3 ปี รู้จักทนายตั้มมาก่อนไหม ?
ปอ : ไม่เคยรู้จักมาก่อน รู้จักหลังจากเกิดเหตุ เป็นช่วงที่พวกเราช็อก กำลังตัดสินใจเดินทางไปพบ ตร. ระหว่างทางที่กำลังตัดสินใจ ช่วงเช้าวันนั้น มีเพื่อนเราคนหนึ่ง คือคุณเฟิร์น เพื่อนสนิทคุณเบิร์ต เขาสนิทกับทนายตั้ม เขาประสานมาว่าเรื่องนี้ทนายที่มีความเชี่ยวชาญและอยู่กับกระแสพวกนี้ ต้องคนนี้ หลังจากนั้นก็ได้คุยกับคุณตั้ม ได้โทรศัพท์กับเขา เขาบอกผมว่าคุณต้องปรึกษาทนายก่อนคือผม แล้วผมตอนนี้อยู่ต่างจังหวัดกำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จะมาได้เร็วที่สุดคือ 5 โมงเย็น ผมก็บอกว่าไม่ได้ว่ะ ตอนนี้ ตร. รออยู่ นักข่าวรออยู่เพียบเลย เราเลี่ยงมาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว เขาบอกคุณกำลังไปหาผู้ใช้กฎหมายคือ ตร. คุณจะไม่มีที่ปรึกษาทางกฎหมายมาก่อนได้ยังไง คุณต้องรอผมก่อนเท่านั้น คุณห้ามไป เขาระบุเลยว่าห้ามไป เราก็เลยไปคุยกับเพื่อนในกลุ่มว่าเราจะได้รับการคอนเซาท์กับเขาก่อนไหม เพราะเราก็กังวล เรากลัว เรากำลังช็อก เราก็ตัดสินใจรอเจอเขา 5 โมงเย็น ที่ร้านอาหาร
ภาพจาก โหนกระแส
- ไปเจอกันครั้งแรกเป็นยังไง ?ปอ : หลังจากที่เจอเขา คุณเฟิร์นเป็นคนแนะนำ เรารู้สึกว่าจากตั้งป้อมจากคนไม่รู้จัก ก็รู้สึกคลายความกังวลไปส่วนหนึ่ง เราก็กล้าคุย บวกกับเรากังวลขั้นสูง เราไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาบอกว่าคุณปอเล่าข้อเท็จจริงให้ผมฟัง เราก็เล่าทุกอย่างตั้งแต่ต้น ระหว่างเกิดเหตุการณ์ยังไง ข้อมูลที่รับรู้กันมา เชื่อว่าคุณตั้มน่าจะเป็นชุดแรก ๆ ที่ได้รับชุดข้อมูลและข้อเท็จจริงจากเรา หลังจากเขาได้ฟังข้อมูลทั้งหมดแล้ว เขาก็ให้แนวทางมา 2 แนวทาง บอกว่าถ้าคุณจะให้ผมเป็นทนายทำคดีนี้ คุณเดินได้อยู่ 2 ทาง แนวทางที่เขาให้เรา เรารู้สึกว่ามันฟังไม่ได้ เพราะเป็นแนวทางที่เบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ผมก็บอกว่าเฮ้ย คุณจะให้ผมทำแบบนี้ได้เหรอ
- เขาให้เบี่ยงเบนยังไง ?
ปอ : เขาจะให้พูดลักษณะว่าคนที่อยู่กับแตงโมเป็นคนสุดท้าย ให้เป็นคนรับไป ซึ่งในข้อเท็จจริงเรายืนอยู่หัวเรือ เรามองไม่เห็น ผมไม่เห็นเหตุการณ์ แต่เขาจะให้พูดเหล่ ๆ ลักษณะเหมือนว่าค่อนข้างชัดให้มาที่เพื่อนเราคนนี้เป็นคนทำให้เกิดเหตุการณ์หรือซัมติง ความหมายคือประมาณนี้ ซึ่งผมบอกว่ามันไม่ใช่ข้อเท็จจริง เราไม่เอา เพราะถ้าแค่ข้อเท็จจริง เราก็โอ้โห เจอมหากาพย์แล้ว แต่คุณให้ผมทำในสิ่งที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ผมทำไม่ได้
ภาพจาก โหนกระแส
- พูดง่าย ๆ คือเขาแนะนำให้เอาคนสุดท้ายที่อยู่กับแตงโม ให้บอกว่าเป็นคนนั้นที่ทำ เขาให้ทำอะไร ?
ปอ : ผมถามว่าจะให้ทำยังไง เขาบอกว่าถ้าจะให้ผมทำคดี เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ผมมีวิธี คุณแค่พูดมา ผมเหล่ ๆ เหมือนอาจจะเห็นเหล่ ๆ พูดมาทิศทางที่คุณแซน ที่เหลือเขาจัดการให้ สิ่งที่ผมกำลังเล่า เราให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน มีการไต่สวนในศาล ให้ไปหมดแล้ว พยานหลายปาก ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีแค่ผมกับคุณแซนสองคน วันนั้นอยู่ 5 คนในห้องอาหาร
- ทำไมถึงเพิ่งออกมาพูดตอนนี้ ?
ปอ : ชัด ๆ เลยนะพี่ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมหายใจยังผิดเลย พูดไปก็ไม่มีคนฟัง ไม่มีทาง
- ตอนนี้ไม่คิดว่าหายใจแล้วเราจะไม่ผิดเหรอ ?
ปอ : เราก็พูดความจริงเหมือนเดิม แต่วันนั้นเราพูดแล้วไม่มีคนฟัง แต่วันนี้มีอีกหลายมุมที่เราไม่เคยพูด เราโดนกระแสโซเชียลกระหน่ำ และเหตุการณ์อะไรทำไมเราไม่ได้พูด วันนี้อยากพูด
- พูดไปเดี๋ยวคนกลับมาด่า ไม่กังวลใจ ไม่คิดมากนะ ?
ปอ : ผมเลยจุดนั้นมาแล้วพี่ ผมว่าชีวิตคนคนนึงก็เจอมา 6 เดือน ที่อยู่หน้าหนึ่งตลอด ผมมีผู้ติดตาม ไปไหนก็ติดตาม พอหลังจากเราให้ข้อมูลเขาแล้ว สิ่งที่เราเซอร์ไพรส์เขาถามเราว่าไอเดียตรงนี้ ที่เขาเสนอ เราเอาไหม เราก็บอกว่าถ้าไอเดียแบบนี้ผมไม่เอา เพราะเรารับไม่ได้ เพราะข้อแรกไม่ใช่ข้อเท็จจริง สองพูดให้เราไปทำร้ายเพื่อนเราอีก มันไปกันใหญ่ เขาบอกงั้นคุณไม่เอาก็ไม่เป็นไร เขาเดินออกมานอกห้อง สิ่งที่เราเซอร์ไพรส์คือเขาเดินออกมาจากห้องไม่กี่นาที เขาโพสต์ลงเฟซบุ๊กเลยว่าเขาขอไม่รับทำคดีนี้ คนบนเรือมาขอคำปรึกษาเขา และเขาขอไม่รับทำคดีนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงมันไม่ใช่ ผมเป็นคนปฏิเสธว่าไอเดียแบบนี้ วิธีการทำแบบนี้เราไม่เอา
ภาพจาก โหนกระแส
- คุณปฏิเสธเองว่าไม่เอา แต่เขาไปโพสต์ว่าเขาขอไม่รับทำคดีนี้ วันนั้นอยู่กี่คน ?ปอ : รวมทนายตั้มก็ 5 คน
แซน : แซนมาถึงทีหลัง ไม่ได้เจอเขา
ปอ : ที่อุ้ยกว่านั้น ปกติเราให้ข้อมูลไปแล้ว ปกติทนายเขาจะรู้ว่ามารยาทควรทำยังไง ทีนี้เขากลับกลายเป็นพยายามเดินไปติดต่อพี่คุณแตงโม แล้วไปติดต่อหลาย ๆ คน บอกว่าขอเป็นทนายคดีนี้
แซน : คู่กรณีของพวกเรา
ปอ : เราก็เลยช็อก คุณมารับข้อมูลหมดแล้ว แต่คุณไปขอทำคดีกับคู่กรณีเราได้ยังไง ต้องพูดคำนี้ จากนั้นเขาก็มารายการพี่หนุ่ม ถ้าจำไม่ผิด โต๊ะนี้เขาบอกว่าผมจะไปทำคดีเขาได้ไง แตงโมก็น้องผม ถ้าดูเทปย้อน โอ้ย ไอ้พวกนี้ เอ๊ะ ไอ้พวกนี้ คุณเป็นคนบอกให้ผมรอ แล้วที่ผมไปหา ตร. ช้าก็เพราะคุณนี่แหละ ถ้าจะเอาข้อมูลในการโทรศัพท์เราก็มีนะ
- คุณเก็บไว้หมด ?
แซน : ช่วงนั้น ตร. เขาขอเป็นหลักฐานในสำนวนค่ะ
ปอ : เราดูดโทรศัพท์เก็บข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์เรา คอนเวอร์เซชั่นคุยในไลน์เป็นยังไง โทรศัพท์เป็นยังไง คุยกี่โมง มันเป็นความบังเอิญที่เลยมีข้อมูล แต่ผมว่าทนายความที่ให้คำปรึกษาสองฝั่ง เราไม่เคยเจอ รับข้อมูลฝั่งนี้เขาไม่โอเค ก็ไปรับทำคดีอีกฝั่งนึง เราคิดว่าไม่ใช่ทนายปกตินะครับ
ภาพจาก โหนกระแส
- คุณจะพูดว่าด้วยมารยาททนาย มันไม่ควร เหมือนเราเล่าข้อมูลให้ฟังหมดแล้ว มีอะไรอีกไหม ความน้อยเนื้อต่ำใจ ?ปอ : อันนั้นก็เบื้องลึกเนอะ ระหว่างเขามาออกรายการ ออกไปก็ด่าไป ด่าเราหลาย ๆ ครั้ง แต่จริง ผมมองว่าหนึ่งเราได้ให้ความจริงใจ ให้ข้อมูลทั้งหมด เราเชื่อใจคุณถึงเล่า แต่เวลาออกรายการพี่หนุ่ม หรือหลาย ๆ รายการเขาก็ด่าเรา
แซน : พูดด้อยค่าให้พวกเราเหมือนเป็นคนผิด
ปอ : ผมว่าอันนี้ใจร้ายเกินไป ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่พี่หนุ่มถาม ถ้าถึงเวลาที่สมควร อาจมาคุยกันต่อ
แซน : ตอนเขาแนะนำพี่ปอว่าให้ทำไปแนวทางไหน มีคลิปสิคะ (หัวเราะ)
ปอ : ผมไม่เคยพูดนะ
แซน : แซนมือสั่นจะช่วยพี่ปอส่งให้ทีมงานแล้วค่ะ หรือเอ๊ะ ถ้าไม่อยากให้เปิด ก็โอนผ่านพี่ตุ๋ยมาได้นะคะ (หัวเราะ)
ปอ : ผมว่าเขารู้ว่าผมมีอะไรอยู่ แต่ผมบอกพี่หนุ่มแล้วกัน ผมมีคลิปทนายตั้ม แต่วันนี้ผมไม่เปิด
- เอาเรื่องทนายตั้มดีกว่า คุณอึดอัดอะไร?
แซน : การที่เขาออกมาแสดง แล้วทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพวกเรา ก็แย่แล้ว แล้วไม่หยุด เป็นระยะเวลาประมาณเกือบปีได้มั้งที่เขาออกมาแขวะโน่น แซะนี่ พูดโน่นนี่ พูดชี้นำให้สังคมมารุมด่า นั่นก็เป็นอีกเหตุผลค่ะ
- คุณรู้สึกยังไง เขาบอกว่าขอให้คนสุดท้ายที่อยู่กับแตงโมเป็นคนรับไปเลย เพราะคนสุดท้ายคือคุณ ?
แซน : แซนคิดว่าแบบนี้ก็ได้เหรอ เขาเป็นทนายเนอะ เอาตรง ๆ ทำไมไม่มีศีลธรรมเลย มันเป็นแบบนี้ได้เหรอคะ ตอนแรกก็ไม่ค่อยมั่นใจว่าจริงหรือเปล่า จนกระทั่งคุยกับพี่ปอ ก็เลยไม่ชอบทนายคนนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยค่ะ
ภาพจาก โหนกระแส
- คุณปอมีอะไรจะพูด ?ปอ : ที่อยากมาวันนี้ อย่างแรกอยากพูดถึงทนายตั้ม และอยากพูดอีกมุมของคนที่อยู่ในเหตุการณ์ของคนบนเรือ ได้รับผลกระทบจากคนใช้กระแส คนที่ดูอยู่ตอนนี้อาจไม่เคยรับรู้ แต่ขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดสั้น ๆ ผมแชร์ประสบการณ์วันนั้นเลย ผมเรียกว่าการตัดสินใจ วันที่เราพบคุณตั้มวันแรก มันมีเรื่องประหลาด เช้าวันนั้นผมได้พูดกับคนชื่อษิทรา 2 คน ษิทราคนที่หนึ่งบอกว่าคุณต้องเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมด ห้ามบิดเบือนแม้แต่ 1 เปอร์เซ็นต์ ข้อเท็จจริงที่คุณเล่าจะเป็นเกราะป้องกันตัวคุณเอง ส่วนษิทราคนที่สอง ที่เจอตอน 5 โมง บอกว่าเราต้องบิดเบือน แล้วเรื่องนี้จะจบง่าย เดี๋ยวผมจัดการให้ ผมก็กลับมาพิจารณาแล้วอยากให้คนดูรายการพี่หนุ่ม ถ้าวันนั้นเราเลือกที่ปรึกษาผิด ผมมั่นใจว่าชีวิตผมวิบัติ ถ้าวันนั้นผมบิดเบือนข้อเท็จจริงตามที่ปรึกษาทนายคนนี้ ผมมั่นใจว่าวันนี้ผมจะมานั่งตรงนี้ไม่ได้ เท่ากับเราให้การเท็จ หลอกคนทั้งประเทศ โยนให้กับเพื่อนซึ่งตกอยู่ในวิบากกรรมเดียวกัน การที่คุณเลือกที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือชีวิตคุณมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ คุณต้องเลือกให้ถูกคน เพราะเขาจะนำแนวทางชีวิตที่ถูกต้อง ตอนเช้า พี่ปุ่น ษิทรา ทิวารี เป็นคนให้แนวผม โทร. มาย้ำเลย แต่ตอนเย็น ษิทรานึง ให้คำปรึกษาเหมือนกัน ถ้าผมทำตามเขา ผมไม่รู้จะพูดยังไง คงมหาวิบัติ คงไม่ได้มานั่งตรงนี้ มากกว่านั้นสิ่งที่เราอยากแชร์ให้เพื่อน ๆ ทำ และคนที่รักแตงโม หลายคนบอกว่าเฮ้ย มีฆาตกรรมโน่นนี่ ผมมีคำถามนึง คุณเคยเห็นรูปในโซเชียล ไม่ต่ำกว่า 500-1,000 ภาพ มีภาพไหนที่มีรอยหน้าบึ้ง ไม่สบายใจ เชื่อว่าทุกรูปมีรอยยิ้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นเราไปกินข้าวกันด้วยความสุข เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเป็นสิบ ๆ ปี แซน แตงโม กระติก เป็นเพื่อนผม เราไปกินข้าวกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันคือการสูญเสีย พวกเราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น สิ่งที่เราเจอหลังจากนั้นต่อมา ไม่มีใครบิดเบือนได้เลย เพราะเราเจอ ตร. ที่สอบสวนผมน่าจะ 2-3 เดือน เจอตั้งแต่ สภ. ผู้การภาค จนใหญ่สุด ๆ บางทีเรียกมา 5 ทุ่ม บางทีก็ไม่ให้กลับบ้าน
แซน : เอามือถือพวกเราไปบางที 2 วัน เอาไปเลย
ปอ : ขอเส้นผม เส้นขน
แซน : ให้ถอดเสื้อผ้าหมดเลย แล้วถ่ายรูปไปด้วยเพื่อเป็นหลักฐาน ถึงขั้นนั้น
ปอ : มากกว่านั้น พวกเราเดินทางไปไหน ถ้าไปย้อนกล้อง รถทุกคันจะมีภาพหมด รถปอไปไหน รถแซนไปไหน รถโรเบิร์ตไปไหน กล้องทั้งประเทศไทยเป็นพันตัว มากกว่านั้นเรือเดินทางไปไหน กล้องตามตึก กล้องตามสะพานก็มีหมด จากหลักฐานที่เขาเก็บ มันยังหนาไม่พอเหรอ พอเขาได้ภาพมาแล้ว ภาพมีความชัดและละเอียดไม่พอ ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะครับ เขาไปจ้างเหมือนกันตนา จ้างปรับภาพให้ชัดเพื่อเห็นพฤติกรรมโดยละเอียด แสงสะท้อนทั้งหมด จนเรื่องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เราให้การทั้งหมด ทำให้เรื่องนี้ปิดคดีได้ แต่กว่าจะปิดได้ ต้องบอกว่าชั้นพนักงานสอบสวนเขาสอบละเอียดมาก อัยการกว่าจะได้ฟ้อง ของผมถึงชั้นศาลเรื่องถึงได้เสร็จสิ้น ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มีที่มาที่ไป ผ่านการตรวจสอบและคัดกรองอย่างละเอียด แต่ที่ประชาชนที่รักแตงโม เขาเข้าใจผิด เพราะเข้าใจว่าเป็นมุมที่เราไม่เคยเล่า ไม่ได้แชร์ มากกว่านั้นผมเชื่อว่ามีสื่ออีกด้านที่เขาได้ประโยชน์ สังเกตดูดี ๆ นะครับ คุณตั้มมารับคำปรึกษา ฟอลโลเวอร์สัก 5 แสน หลังจากนั้นบอกไม่รับทำ ออกมาถือกระเป๋าเดินวนไปวนมาอยู่รอบเรือ เดือนเดียวฟอลโลเวอร์ขึ้น 2 ล้าน ฟอลโลเวอร์ขึ้น 1.5 ล้าน ถามว่าคนได้ประโยชน์คือใคร คือคนที่ออกมาเกาะตรงนี้มากกว่า คนที่เสียคือประชาชน ประชาชนนั่งดูนั่งติดตาม เดี๋ยวจะมีข่าวนั้น เดี๋ยวจะเปิดอันนี้ แล้วมีอะไรครับ ผมเชื่อว่ามีผู้เสียหายแบบเรา คนดังกล่าวเขามีครอบครัว มีธุรกิจ มีสิ่งที่เขารับผิดชอบ อยากให้เห็นใจและกรองด้วย ตรงนี้ต้องออกมายืนยันว่าเราคือเพื่อนแตงโม เรารักแตงโม เรากับคุณเหมือนกัน ตรงนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุ มาถึงกระบวนการที่ศาลพิพากษาเสร็จสิ้น ก็อยากมาแชร์มุมนี้ที่เพื่อน ๆ ไม่เคยฟัง
ภาพจาก โหนกระแส
- วันนี้คนก็บอกว่าคุณมาพูดฟอกตัวเอง รู้สึกยังไง ?แซน : ก็เข้าใจสังคมที่เขามีมุมมองความคิดแบบนั้น เขาเสพสื่อจากแค่ที่เขาต้องการนำเสนอ หลายคนที่ออกมาช่วงนั้น ก็ไม่แปลกที่เขาจะเข้าใจผิดพวกเรา
ปอ : ใช้คำว่าเข้าใจได้ดีกว่า แต่อย่างน้อยเราสะท้อนว่าทำไมเขาคิดแบบนั้น เพราะเขารับสารข้างเดียว แต่อย่างเรา ที่ถูกสอบ ถูกรื้อทุกอย่าง ผ่านกระบวนการเป็นปี ๆ เราเจอเหตุการณ์เขาไม่เคยรู้
- วันนี้คดีแตงโม ไปถึงไหนแล้ว ?
ปอ : ของผมจบแล้ว ศาลชั้นต้นตัดสินเสร็จเด็ดขาดคดีถือว่าสิ้นสุด ไม่มีคนอุทธรณ์
- แม่แตงโมอุทธรณ์ไหม ?
ปอ : ไม่ได้อุทธรณ์ครับ จบแค่นี้เลย ปกติเขามีเกณฑ์การอุทธรณ์ โจทก์ต้องอุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่เรากับแม่ก็มีการดูแลกันเป็นอย่างดี แม่ก็บอกว่าจบที่ศาลชั้นต้นตรงนี้ แม่จะไม่มีอุทธรณ์ใด ๆ แม่ก็ไม่อุทธรณ์ ทุกวันนี้ผมกับแม่ก็ดูแลและรักกัน เหมือนตั้งแต่ต้นทุกอย่าง วันแรกได้เจอแม่ยังไง วันนี้ผมกับแม่ก็ยังเหมือนเดิม ที่เขาพูดเรื่องฆาตกรรมเราคุยในศาลว่ามีมูลไหม มีข้อเท็จจริงไหม
- สภาพแตงโมที่บอกว่าโดนใบพัดหรือโดนมีด เขาพิสูจน์มายังไง ?
ปอ : ตรงนี้เป็นเรื่องนิติเวช รายละเอียดเบื้องลึกผมไม่ทราบ ของผมไม่ได้อยู่ในขั้นสู้คดี ของผมจบก่อน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หลัก ๆ ดูมูลเหตุของการฟ้อง เขาฟ้องประมาท โทษคือประมาท ไม่ใช่ฟ้องฆาตกรรม เพราะฟ้องฆาตกรรมมันไม่มี ที่มีอย่างเดียวเลยคือคนออกมาสร้างกระแส ว่ามีขวดตีกัน มีเลือด มีรอยทั้งหลาย สรุปมีอะไรบ้าง
- ตร. ทำสำนวนส่งอัยการ อัยการสั่งฟ้องคือเรื่องประมาท ไม่ใช่ฆาตกรรมตั้งแต่ชั้น ตร. ?
ปอ : ถูกต้องครับ
- อัยการก็ส่งฟ้องศาลว่าเป็นประมาทเหมือนกัน ?
ปอ : ครับ ขึ้นอยู่กับอัยการต่อ อย่าง ตร. ส่งมาว่าเป็นประมาท แต่อัยการไม่เชื่อขอสอบเพิ่มว่าเข้าฆาตกรรมไหมอัยการก็ทำได้ แต่วันนั้น ตร. ส่งฟ้องมาเป็นประมาท อัยการก็ตรวจละเอียดหลายเดือน อัยการดาวท่านก็ทำละเอียดมาก สุดท้ายท่านดูละเอียดแล้วว่ามันคือประมาท ไม่มีเหตุใดเป็นอื่น
- แม่ก็ไม่อุทธรณ์ ก็เลยจบ คุณแซนล่ะ ?
แซน : ต้นเดือนหน้านะ ถ้าจำไม่ผิด
- คุณไม่ยอมรับว่าคุณประมาท ?
แซน : แซนไม่ประมาทสิคะ เพราะแซนนอนเฉย ๆ ก็ต้นเดือนหน้า ศาลจะสืบจากจำเลยก่อน เรื่องยังไม่จบค่ะ
- กับแม่ล่ะ ?
แซน : ไม่ได้คุยค่ะ แซนก็ยังรักและเป็นห่วงคุณแม่เหมือนเดิม เคยมีปัญหากันนิดหน่อย แต่ก็คุยดีตลอดนะคะ
ปอ : อันหนึ่งที่อยากฝากกับคนที่ดู พี่ปุ่นบอกว่าความจริงจะเป็นเกราะป้องกันเรา บางทีเราพูดวันนี้คนอาจยังไม่เชื่อ แต่ความจริงมันบิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ สุดท้ายพอผ่านกระบวนการวิเคราะห์ สุดท้ายถ้าจริงมันก็คือจริง จะเป็นอื่นไม่ได้ ความจริงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
- ทางนี้จะเคลียร์ไหม ?
แซน : ถ้าคุณตั้มอยากเคลียร์ไม่ให้เปิดคลิป (หัวเราะ) พูดเล่นค่ะ
- คลิปอะไร ?
ปอ : คุณตั้มเขารู้ดี พูดตรง ๆ เวลาที่เกิดขึ้น จะสะท้อนพฤติกรรม เราไม่ได้อยากออกมาซ้ำเติม ไม่อยากทำให้เขาแย่ไปมากกว่านี้ แต่ขอออกมาแชร์มุมหนึ่ง ประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นก็พอ ผมขอแค่นี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ