เก๋งแช่ขวาไม่หลบรถกู้ชีพ ช่วยคนป่วยไม่ทันจนตาย คนขับรับได้ยินเสียงหวอ แต่ที่นิ่งเพราะ...

            ตนยืนยันว่า ตนเองเป็นคนขับรถคันที่เกิดเหตุเอง เพราะตอนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รถกู้ชีพ เข้าใจว่าเป็นผู้ชาย แต่ภายหลังก็ยอมรับว่า อาจจะเห็นไม่ชัด เพราะมืด

            ผู้หญิงที่ขับรถเก๋ง ชี้แจงอีกว่า ตอนขับรถก็ได้ยินเสียง ก็ยังว่าเลนข้าง ๆ (เลนซ้าย) ก็มีเนอะ ขณะที่คนใกล้ชิดหญิงคนขับ กล่าวเสริมว่า น้องเขาคิดว่ารถอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พอมาเห็นอีกทีก็ถึงตัวแล้ว
            ด้าน นายนครินทร์ รัตนประภาสชลา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ บอกว่า ช่วงแรกรถกู้ชีพเบี่ยงซ้ายออกไม่ได้ เพราะมีรถจักรยานยนต์ขวางอยู่และรถใหญ่ขวางอยู่ ถ้าหักซ้าย ก็จะมีอุบัติเหตุ จึงต้องบีบแตรไล่ แต่รถคันดังกล่าวไม่ยอมหลบ บีบแตรก็แล้ว และเบี่ยงซ้ายไม่ได้ เพราะถ้าเบี่ยงซ้าย เพื่อชะลอตัว ก็จะโดนชนเหมือนกัน จนเมื่อรถกู้ชีพไปถึงจุดหมาย พบว่าผู้ป่วยเสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นแล้ว และอาจจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เสียชีวิตจากความล่าช้าของรถกู้ชีพหรือไม่ ซึ่งญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ติดใจเอาความ

            ตามหลักการ เมื่อมีรถพยาบาล รถกู้ชีพ หรือรถฉุกเฉิน เปิดสัญญาณขอทาง ให้ผู้ใช้รถตั้งสติ มองกระจกหลัง เพื่อเช็กระยะ จากนั้นให้ลดความเร็วและหลีกทางให้รถพยาบาล กรณีรถติด ให้ชะลอรถ เพื่อให้รถพยาบาลหาทางวิ่งผ่านไป และเมื่อรถพยาบาลผ่านไปแล้ว ห้ามขับตาม

            ทั้งนี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 76 ระบุว่า เมื่อเห็นรถฉุกเฉินในขณะปฏิบัติหน้าที่ ใช้ไฟสัญญาณแสงวับวาบ หรือได้ยินเสียงสัญญาณไซเรน จะต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน หากฝ่าฝืน มีโทษเปรียบเทียบปรับ ไม่เกิน 500 บาท