ทิศทางของ โดนัลด์ ทรัมป์ กับนโยบายที่น่าจับตา หลังจ่อคืนตำแหน่งประธานาธิบดี กลับคืนสู่ทำเนียบขาว หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม สำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาปราศรัยประกาศชัยชนะ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุนกันไปแล้ว แม้ผลการนับคะแนนจะยังไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการก็ตาม
แน่นอนว่าผลการเลือกตั้งผู้นำย่อมเป็นตัวชี้วัดทิศทางบริหารประเทศนับจากนี้ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่ารัฐบาลภายใต้ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ในช่วงเวลาอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หากเขาหวนกลับคืนสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง ในฐานะประธานาธิบดีสมัยที่ 2
ภาพจาก CHIP SOMODEVILLA /AFP
โดยเมื่อย้อนดูนโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ พบว่ายังคงเน้นส่งเสริมผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ความมั่นคง แก้ปัญหาผู้อพยพ รวมถึงมีนโยบายด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์กับจีนที่ต้องจับตา เช่น
- ภายใต้การมุ่งเน้นนโยบายส่งเสริมผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ทรัมป์มีแผนการที่เด็ดขาดในการปราบปรามกลุ่มผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมาย โดยประกาศว่าจะมีโครงการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยจะมีการหาช่องทางเพิ่มปริมาณการเนรเทศผู้อพยพ เป็นมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปี
- ทีมงานของทรัมป์ยังมีแผนใช้เงินของกองทัพเพื่อสร้างค่ายกักกันผู้อพยพขนาดใหญ่ เพื่อกักกันกลุ่มผู้อพยพระหว่างดำเนินการเนรเทศ
- นโยบายยุติสิทธิพลเมืองโดยกำเนิดของลูกผู้อพยพ โดยตัดสิทธิเด็กที่เกิดมาจากผู้อพยพผิดกฎหมาย ไม่ให้รับสัญชาติสหรัฐฯ รวมถึงจะไม่มีการออกเอกสารที่สำคัญอย่างบัตรประกันสังคม และหนังสือเดินทางแก่เด็กเหล่านี้
- มีแผนนำกำลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและกองกำลังป้องกันแห่งชาติ มาควบคุมเรื่องตรวจคนเข้าเมือง และจับกุมผู้อพยพ
- มองหาช่องทางส่งผู้ที่ต้องการขอลี้ภัยในสหรัฐฯ ไปยังประเทศอื่น
- จ่อฟื้นคำสั่งห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมเข้าสหรัฐฯ หลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปในปี 2564
ภาพจาก MANDEL NGAN / AFP
- การกลับมาของทรัมป์อาจทำให้สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ นาโต (NATO) ต้องปั่นป่วนอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกนาโต เมื่อเขามองว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายถูกสูบทรัพยากร
- ทรัมป์ เคยลั่นวาจาว่าสามารถยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานได้ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเสนอจะมีการทำข้อตกลงกับทางรัสเซีย
- ทรัมป์ เสนอให้เรียกเก็บภาษีใหม่ในอัตรา 10-20% สำหรับสินค้าที่นำเข้าและผลิตจากต่างประเทศ แม้อาจส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้น และเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าระดับโลก และกระทบต่อผู้ส่งออกของสหรัฐฯ เอง
- ใช้นโยบายที่เข้มงวดขึ้นกับสินค้านำเข้าจากจีน โดยอาจยุติการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจากจีน และหากฎเกณฑ์ใหม่มาบังคับใช้ เพื่อหยุดบริษัทอเมริกันจากการลงทุนในจีน
ภาพจาก JIM WATSON / AFP
ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม สำหรับ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาปราศรัยประกาศชัยชนะ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุนกันไปแล้ว แม้ผลการนับคะแนนจะยังไม่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการก็ตาม
แน่นอนว่าผลการเลือกตั้งผู้นำย่อมเป็นตัวชี้วัดทิศทางบริหารประเทศนับจากนี้ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่ารัฐบาลภายใต้ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ในช่วงเวลาอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร หากเขาหวนกลับคืนสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง ในฐานะประธานาธิบดีสมัยที่ 2
ภาพจาก CHIP SOMODEVILLA /AFP
โดยเมื่อย้อนดูนโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ พบว่ายังคงเน้นส่งเสริมผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน เสริมสร้างความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ ความมั่นคง แก้ปัญหาผู้อพยพ รวมถึงมีนโยบายด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์กับจีนที่ต้องจับตา เช่น
ด้านผู้อพยพ
- ภายใต้การมุ่งเน้นนโยบายส่งเสริมผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ทรัมป์มีแผนการที่เด็ดขาดในการปราบปรามกลุ่มผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมาย โดยประกาศว่าจะมีโครงการเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ โดยจะมีการหาช่องทางเพิ่มปริมาณการเนรเทศผู้อพยพ เป็นมากกว่า 1 ล้านคนในแต่ละปี
- ทีมงานของทรัมป์ยังมีแผนใช้เงินของกองทัพเพื่อสร้างค่ายกักกันผู้อพยพขนาดใหญ่ เพื่อกักกันกลุ่มผู้อพยพระหว่างดำเนินการเนรเทศ
- นโยบายยุติสิทธิพลเมืองโดยกำเนิดของลูกผู้อพยพ โดยตัดสิทธิเด็กที่เกิดมาจากผู้อพยพผิดกฎหมาย ไม่ให้รับสัญชาติสหรัฐฯ รวมถึงจะไม่มีการออกเอกสารที่สำคัญอย่างบัตรประกันสังคม และหนังสือเดินทางแก่เด็กเหล่านี้
- มีแผนนำกำลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและกองกำลังป้องกันแห่งชาติ มาควบคุมเรื่องตรวจคนเข้าเมือง และจับกุมผู้อพยพ
- มองหาช่องทางส่งผู้ที่ต้องการขอลี้ภัยในสหรัฐฯ ไปยังประเทศอื่น
- จ่อฟื้นคำสั่งห้ามพลเมืองจากชาติมุสลิมเข้าสหรัฐฯ หลังจากที่ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวไปในปี 2564
ภาพจาก MANDEL NGAN / AFP
ท่าทีต่อยูเครนและ NATO
- การกลับมาของทรัมป์อาจทำให้สัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับ นาโต (NATO) ต้องปั่นป่วนอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะให้สหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกนาโต เมื่อเขามองว่าสหรัฐฯ เป็นฝ่ายถูกสูบทรัพยากร
- ทรัมป์ เคยลั่นวาจาว่าสามารถยุติสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานได้ภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น หากเขาได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเสนอจะมีการทำข้อตกลงกับทางรัสเซีย
ด้านการค้า
- ทรัมป์ เสนอให้เรียกเก็บภาษีใหม่ในอัตรา 10-20% สำหรับสินค้าที่นำเข้าและผลิตจากต่างประเทศ แม้อาจส่งผลให้ราคาสินค้าในประเทศเพิ่มขึ้น และเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้าระดับโลก และกระทบต่อผู้ส่งออกของสหรัฐฯ เอง
- ใช้นโยบายที่เข้มงวดขึ้นกับสินค้านำเข้าจากจีน โดยอาจยุติการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจากจีน และหากฎเกณฑ์ใหม่มาบังคับใช้ เพื่อหยุดบริษัทอเมริกันจากการลงทุนในจีน
ขอบคุณข้อมูลจาก The New York Times