โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หรือ โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (Donald John Trump) ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทสำคัญทั้งในวงการธุรกิจและการเมืองของสหรัฐฯ จากนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผู้มีชื่อเสียง ก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองและได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ ในปี 2016 (พ.ศ. 2559) แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปี 2020 (พ.ศ. 2563) แต่ในปี 2024 (พ.ศ. 2567) เขาในนามพรรครีพับลิกันสามารถกลับมาคว้าชัยชนะเหนือ กมลา แฮร์ริส หรือ คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) จากพรรคเดโมแครต กลายเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ และวันนี้เราจะพาไปย้อนดูประวัติและเส้นทางชีวิตของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงการกลับมาสู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง
ประวัติ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สำสหรัฐฯ
ชีวิตวัยเด็กและชีวิตครอบครัวของ โดนัลด์ ทรัมป์
"โดนัลด์ ทรัมป์" เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946 (พ.ศ. 2489) ที่เขตควีนส์ เมืองนิวยอร์ก เป็นบุตรคนที่สี่จากพี่น้องทั้งหมดห้าคนในครอบครัวทรัมป์ ซึ่งบิดาของเขา เฟร็ด ทรัมป์ (Fred Trump) เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในนิวยอร์ก ส่วนมารดา คือ แมรี แอนน์ แมคลีโอด ทรัมป์ (Mary Anne MacLeod Trump) เป็นผู้อพยพจากสกอตแลนด์ ครอบครัวทรัมป์มีฐานะมั่งคั่งจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เฟร็ดสร้างขึ้น โดยเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับชนชั้นกลางในเขตควีนส์และบรูคลิน แม้ครอบครัวจะมีความมั่งคั่ง แต่ทรัมป์ถูกเลี้ยงดูอย่างเคร่งครัด ให้เป็นคนมีวินัยและขยันขันแข็งตั้งแต่วัยเยาว์
ประวัติการศึกษาของ โดนัลด์ ทรัมป์
ในวัยเด็ก โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเด็กที่มีพลังและแสดงออกถึงความมั่นใจ แต่ก็มีปัญหาด้านพฤติกรรมอยู่บ้าง เมื่อเขาอายุ 13 ปี บิดาและมารดาจึงตัดสินใจส่งเขาไปเรียนที่โรงเรียนนายร้อยทหารนิวยอร์ก (New York Military Academy) เพื่อเสริมสร้างวินัยและควบคุมพฤติกรรม การเรียนที่โรงเรียนทหารนี้ช่วยให้ทรัมป์ปรับตัวได้ดีขึ้น เขากลายเป็นนักกีฬาที่โดดเด่นและผู้นำในหมู่นักเรียน จนสำเร็จการศึกษาในปี 1964 (พ.ศ. 2507)
หลังจากนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่ฟอร์ดแฮม (Fordham University) ก่อนย้ายไปที่วิทยาลัยวอร์ตัน (Wharton School) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania) ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ในปี 1968 (พ.ศ. 2511) ระหว่างช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ทรัมป์ได้ทำงานกับธุรกิจครอบครัว สั่งสมประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งช่วยปูทางให้เขาสามารถรับช่วงต่อธุรกิจของบิดาในเวลาต่อมา
เส้นทางธุรกิจของ โดนัลด์ ทรัมป์ จากครอบครัวอสังหาริมทรัพย์สู่การสร้างอาณาจักรระดับโลก
หลังจากสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยวอร์ตันในปี 1968 (พ.ศ. 2511) "โดนัลด์ ทรัมป์" เข้าร่วมธุรกิจครอบครัวที่ชื่อ Trump Management ซึ่งก่อตั้งโดยเฟร็ด ทรัมป์ ผู้เป็นบิดา ช่วงแรกของการทำงาน เขาได้เรียนรู้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านบรูคลินและควีนส์ ซึ่งเป็นตลาดที่ครอบครัวทรัมป์เชี่ยวชาญ ต่อมาในปี 1971 (พ.ศ. 2514) เขาเข้ามาบริหารงานเต็มตัวและเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Trump Organization พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างชื่อเสียงในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก
หนึ่งในโครงการที่สร้างชื่อให้ "โดนัลด์ ทรัมป์" คือการพัฒนา Grand Hyatt Hotel ในปี 1976 (พ.ศ. 2519) โดยเขาได้ซื้อโรงแรม Commodore ที่ทรุดโทรมใกล้สถานี Grand Central Terminal ในนิวยอร์ก และร่วมมือกับ Hyatt Corporation ปรับปรุงโรงแรมนี้ให้กลายเป็นโรงแรมหรูระดับโลก โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเมืองนิวยอร์กผ่านการลดหย่อนภาษีเป็นเวลา 40 ปี ช่วยลดความเสี่ยงและดึงดูดนักลงทุน นอกจากนี้ ในปี 1983 เขายังสร้าง Trump Tower บนถนน Fifth Avenue ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จในวงการอสังหาริมทรัพย์ของเขา
นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว "โดนัลด์ ทรัมป์" ยังขยายอาณาจักรธุรกิจไปยังหลายอุตสาหกรรม เช่น คาสิโน สนามกอล์ฟ โรงแรม เวทีประกวดนางงามจักรวาล และรายการโทรทัศน์ โดยเฉพาะรายการ The Apprentice ที่ออกอากาศครั้งแรกในปี 2004 (พ.ศ. 2547) ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลก แม้ว่าเขาจะเผชิญความล้มเหลวทางธุรกิจหลายครั้ง รวมถึงการประกาศล้มละลายในธุรกิจคาสิโน แต่ทรัมป์ยังคงรักษาภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จและขยายแบรนด์ Trump ไปสู่โครงการต่าง ๆ ทั่วโลก
การเข้าสู่เวทีการเมืองของ โดนัลด์ ทรัมป์ จากนักธุรกิจสู่ประธานาธิบดี
"โดนัลด์ ทรัมป์" เริ่มต้นเส้นทางการเมืองอย่างจริงจังในปี 2015 (พ.ศ. 2558) เมื่อเขาประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามของพรรครีพับลิกัน การประกาศครั้งนี้สร้างความฮือฮาในวงการการเมือง เนื่องจากทรัมป์ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน แต่ด้วยสโลแกน "Make America Great Again" หรือ "ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" โดยมีความหมายในการเรียกร้องให้สหรัฐฯ กลับสู่ยุคที่มีความรุ่งเรืองและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองเหมือนในอดีต และวิธีการหาเสียงที่ตรงไปตรงมา จึงทำให้เขาสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานชนชั้นกลางและกลุ่มคนที่รู้สึกว่าถูกละเลยจากรัฐบาล
ในการเลือกตั้งปี 2016 (พ.ศ. 2559) โดนัลด์ ทรัมป์ เอาชนะคู่แข่งอย่าง ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) จากพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์และได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง แม้ว่าคลินตันจะได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมากกว่าทรัมป์ แต่ทรัมป์กลับชนะคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ทำให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของประเทศ
ช่วงเวลาที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเต็มไปด้วยความขัดแย้งและนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นโยบายสำคัญของเขารวมถึงการลดภาษี การสร้างกำแพงชายแดนเม็กซิโก และการถอนตัวจากข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ เช่น ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งของเขายังเผชิญกับข้อกล่าวหาและคดีความหลายเรื่อง รวมถึงการถูกฟ้องร้องถอดถอนจากตำแหน่งถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายก็รอดพ้นจากการถูกถอดถอนทั้งสองครั้ง
ความพ่ายแพ้และการกลับมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่ธรรมดา
ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 (พ.ศ. 2563) "โดนัลด์ ทรัมป์" พ่ายแพ้ให้กับ โจ ไบเดน (Joe Biden) แต่เขาก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่ามีการทุจริตอย่างกว้างขวาง แม้จะไม่มีหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาเหล่านั้น เหตุการณ์นี้นำไปสู่การบุกเข้ารัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 6 มกราคม 2021 (พ.ศ. 2564) โดยผู้สนับสนุนของทรัมป์ ซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวาย เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทรัมป์ถูกฟ้องร้องถอดถอนเป็นครั้งที่สอง แต่เขายังคงได้รับการยกเว้นโทษจากวุฒิสภา อย่างไรก็ตาม การพ่ายแพ้ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดสิ้นสุดทางการเมืองของเขาในสายตาหลายคน ...
แม้จะเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมถึงข้อกล่าวหาทางอาญาและคดีความหลายคดี แต่ "โดนัลด์ ทรัมป์" ไม่ได้หายไปจากเวทีการเมือง เขายังคงมีอิทธิพลในพรรครีพับลิกันและได้รับการสนับสนุนจากฐานเสียงที่ภักดี ในปี 2024 (พ.ศ. 2567) ทรัมป์ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง โดยเน้นนโยบายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การสร้างงาน และการควบคุมผู้อพยพผิดกฎหมาย แคมเปญของเขาเต็มไปด้วยความขัดแย้งเช่นเดิม แต่เขาก็สามารถเอาชนะคู่แข่งสำคัญอย่าง กมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ ทำให้เขากลับเข้าสู่ทำเนียบขาวอีกครั้งในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ
ชัยชนะครั้งนี้ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็น "การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง" ตามที่เคยได้กล่าวไว้ เขากลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกในรอบกว่า 130 ปี ที่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกครั้ง หลังจากเคยแพ้ในการเลือกตั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาฐานเสียงของเขา แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นในการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาประชาชน
ภาพจาก SPENCER PLATT / AFP
ชีวิตส่วนตัวและครอบครัวของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในบทบาทสามีและพ่อของลูกห้าคน
"โดนัลด์ ทรัมป์" มีชีวิตครอบครัวที่ถูกจับตามองอย่างมากจากสื่อมวลชนมาตลอด เขาแต่งงานทั้งหมดสามครั้ง ภรรยาคนแรกคือ อิวานา เซลนิคโควา (Ivana Zelnickova) นางแบบและนักกีฬาชาวเช็ก ทั้งคู่แต่งงานในปี 1977 (พ.ศ. 2520) และมีลูกด้วยกันสามคน ได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ (Donald Trump Jr.), อิวานกา ทรัมป์ (Ivanka Trump) และ เอริค ทรัมป์ (Eric Trump) ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นที่สนใจของสังคมในยุคนั้น แต่จบลงด้วยการหย่าร้างในปี 1992 (พ.ศ. 2535) หลังจากมีข่าวเรื่องการนอกใจของทรัมป์กับ มาร์ลา เมเปิลส์ (Marla Maples) ซึ่งต่อมาเขาได้แต่งงานกับเธอในปี 1993 (พ.ศ. 2536) และมีลูกสาวหนึ่งคนชื่อ ทิฟฟานี ทรัมป์ (Tiffany Trump) อย่างไรก็ตาม การแต่งงานครั้งที่สองก็สิ้นสุดลงในปี 1999 (พ.ศ. 2542)
ภรรยาคนปัจจุบันของ "โดนัลด์ ทรัมป์" คือ เมลาเนีย คเนาส์ (Melania Knauss) อดีตนางแบบชาวสโลวีเนีย ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 2005 (พ.ศ. 2548) และมีลูกชายหนึ่งคนชื่อ บาร์รอน ทรัมป์ (Barron Trump) ซึ่งเกิดในปี 2006 (พ.ศ. 2549) เมลาเนียมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทรัมป์ตลอดช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยเฉพาะในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งครั้งแรกและครั้งที่สอง บาร์รอน ลูกชายคนเล็กของทรัมป์ก็ได้รับความสนใจจากสื่อเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเขาเติบโตขึ้นและเริ่มมีบทบาททางการเมืองในช่วงการเลือกตั้งปี 2024 (พ.ศ. 2567)
แม้ว่าชีวิตสมรสของ "โดนัลด์ ทรัมป์" จะเต็มไปด้วยความขัดแย้งและข่าวลือเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบทางเพศ แต่เขายังคงเป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวเสมอ ลูก ๆ ของทรัมป์ทุกคนมีบทบาทสำคัญทั้งในธุรกิจและการเมือง โดยเฉพาะ โดนัลด์ จูเนียร์ อิวานกา และอีริค ที่เข้ามารับช่วงดูแลธุรกิจของครอบครัวหลังจากทรัมป์เข้าสู่เวทีการเมือง ขณะที่ ทิฟฟานี และ บาร์รอน ยังคงใช้ชีวิตส่วนตัวมากกว่า
ประเด็นอื่น ๆ เกี่ยวกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่น่าสนใจ
โดนัลด์ ทรัมป์ บิทคอยน์
- โดนัลด์ ทรัมป์เคยวิจารณ์บิทคอยน์ว่าเป็น "กลลวง" และไม่เชื่อมั่นในคริปโตเคอร์เรนซี โดยเขามองว่าควรมุ่งสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์มากกว่า อย่างไรก็ตาม ความเห็นนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความนิยมของบิทคอยน์ในตลาดโลก
โดนัลด์ ทรัมป์ ผลงานที่ถูกกล่าวถึง
- หนึ่งในผลงานสำคัญของเขาคือการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาถึงสามคน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวทางคำตัดสินหลายเรื่องสำคัญ เช่น สิทธิในการทำแท้ง
- นอกจากนี้ เขายังผลักดันให้อเมริกาออกจากข้อตกลงปารีสว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ
- หากทรัมป์ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง เราอาจเห็นการเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวขึ้น โดยเฉพาะกับจีนและอิหร่าน
- นโยบายเศรษฐกิจจะยังคงเน้นไปที่การลดภาษีและส่งเสริมอุตสาหกรรมภายในประเทศ รวมถึงการควบคุมผู้อพยพอย่างเข้มงวด
ข่าว โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่น่าสนใจ
- จับตาผลเลือกตั้งสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปราศรัยประกาศชัยชนะ หลังคะแนนนำโด่ง 267
- คลิปสำคัญ สไนเปอร์คุ้มกันเล็งมือปืน ก่อนยิงโดนัลด์ ทรัมป์ ทุกอย่างเกิดในเสี้ยววินาที
- นาทีช็อกโลก ! โดนัลด์ ทรัมป์ โดนลอบสังหาร ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง เผยอาการล่าสุด
- ทรัมป์ ฟ้องศาล ทวงคืนทวิตเตอร์ หลังโดนแบนตลอดชาติ ลั่น ตอลิบานยังโพสต์ได้ !
- เอาฮาปะ ! เว็บไซต์จีนขายหลวงพ่อทรัมป์ บูชาได้เป็นองค์ พุทธานุภาพช่วยเรื่องดัง