เปิดเส้นทางหนี หมอบุญ วนาสิน จ่อประสานตำรวจสากล ออกหมายแดง ส่วน ลูก-เมีย เข้าพบตำรวจแล้ว แจงพฤติการณ์ หลอกลงทุน 5 โครงการ โกง 7,500 ล้าน
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า รองผบช.น. แถลงข่าวความคืบหน้าทลายเครือข่าย นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ พร้อมผู้ร่วมขบวนการ รวม 9 คน ซึ่งกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2537
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 1 ราย จากนั้นตลอดทั้งปี 2567 ถึงเดือนพฤศจิกายน พบผู้เสียหายเพิ่มเติมรวม 247 ราย ตาม พ.ร.บ.เช็ค ทาง สน.ห้วยขวาง จึงส่งเรื่องมายังตำรวจนครบางว่ามีความสลับซับซ้อน จึงแต่งตั้งคณะ บกน.1 เป็นพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน
หลอกลงทุน-จ่ายเช็คเด้ง เสียหาย 7,500 ล้าน
โดยพบพฤติกรรมของ นพ.บุญ และพวก มีการระดมทุน ชักชวนจากตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุนให้ นพ.บุญ และครอบครัว แจ้งว่านำไปลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งเมื่อระดมทุนเรียบร้อยก็จะให้ผู้เชี่ยวชาญบริษัท ไทยเมดิคิลกรุ๊ป จำกัด หรือ TMG ดูแลโครงการทั้งหมด และมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
แต่พฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนของ นพ.บุญ และพวก มีลักษณะไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้ โดยมีภรรยากับลูกสาว เซ็นสลักหลังค้ำประกันในเช็คทุกฉบับ มอบแก่ผู้เสียหาย เพื่อให้รู้ว่าหากถูกฟ้องภรรยากับลูกจะเป็นลูกหนี้ด้วย ในช่วงแรกจ่ายดอกเบี้ยอัตราสูงให้กับบางส่วน บางคน ต่อมาไม่มีการจ่ายเลย
เจ้าหน้าที่ยังพบว่า หลังได้เงินทุน 7,500 ล้านบาท มีการให้โบรกเกอร์ทยอยไปถอนเงิน ครั้งละเป็นร้อยล้าน โดยโบรกเกอร์จะได้รับดอกเบี้ยและเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ซึ่งการกระทำทั้ง นพ.บุญ และโบรกเกอร์ จะไปชักชวนผู้ร่วมลงทุนที่เป็นนักเล่นหุ้นกระเป๋าหนัก โดยพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง มีผู้ร่วมลงทุนมากที่สุดถึง 600-700 ล้าน เพราะหลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนจริง โดยมีนักธุรกิจและบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับความเสียหายรวม 247 คน ความเสียหาย 7,564 ล้านบาท
สำหรับเงินดังกล่าว
อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการนำไปใช้จ่ายในธุรกิจโรงพยาบาลที่มีอยู่จริง 4-5
โรงพยาบาลหรือไม่ รวมถึงต้องตรวจสอบช่วงที่มีการนำเข้าวัคซีนโควิด 19
ว่าเงินดังกล่าวไปอยู่ที่ไหน
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
นอกจากนี้ ตรวจสอบพบว่า นพ.บุญ มีรถยนต์ 19 คัน ที่หายไป ส่วนอสังหาริมทรัพย์รวมถึงโฉนดที่ดิน พบมี 21 แปลง มีการยักย้ายถ่ายเทไปยังคนในครอบครัว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงปี 2567 หรือไม่
จากการสืบสวนสรุปได้ว่า นพ.บุญ เป็นคนกลาง ออกโครงการและคิดเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน รวมถึงเป็นผู้ร่างสัญญา และลงมือจ่ายเช็คทั้งหมด เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ฝ่ายภรรยากับลูกเป็นผู้ร่วมทำสัญญา เซ็นสลักด้านหลังเช็คค้ำประกัน เลขา 2 คนเป็นคนทำเรื่องสัญญา เชื่อว่าได้รับผลประโยชน์อย่างแน่นอน ส่วนโบรกเกอร์มีหน้าที่ไปชักชวนคนมาลงทุน ได้เปอร์เซ็นต์จากที่มีคนมาลงทุน
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ล่าตัวหมอบุญ เปิดเส้นทางหนี
สำหรับผู้ที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับ 9 ราย ขณะนี้ตำรวจจับได้แล้ว 6 ราย และได้มีการนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ นพ.บุญ ประสาน ตม. พบว่าเดินทางออกจากไทยตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เวลา 14.25 น. เส้นทางกรุงเทพฯ - ฮ่องกง และล่าสุดทราบว่าเดินทางต่อไปจีนแล้ว อยู่ระหว่างประสานตำรวจสากล สำหรับลูกเมียคาดว่ายังอยู่ในประเทศไทย อยู่ระหว่างติดตามตัว
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ชุดสืบสวนยังพบพฤติการณ์ของ นพ.บุญ ว่าพยายามจ่ายเช็คให้เจ้าหนี้ โดยเช็คนั้นไม่สามารถนำไปขึ้นเงินได้ เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องความผิดการฟอกเงินที่มีอัตราโทษสูง และอาจต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ อีกทั้งพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหา ยังมีการทำการตลาด ซื้อโฆษณา สื่อออนไลน์ สำนักพิมพ์หลายแห่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ จะพยายามตามหาตัวให้ถึงที่สุด และตามทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้ พร้อมกันนั้น บช.น. ยังฝากถึงผู้ที่จะลงทุน ก่อนร่วมลงทุนให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าโครงการต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ภรรยาพร้อมลูกสาวของ นพ.บุญ เจ้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมลายเซ็น และไม่ยอมตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่าสามารถติดต่อ นพ.บุญ ได้หรือไม่
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3, เรื่องเล่าเช้านี้
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า รองผบช.น. แถลงข่าวความคืบหน้าทลายเครือข่าย นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ พร้อมผู้ร่วมขบวนการ รวม 9 คน ซึ่งกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2537
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 1 ราย จากนั้นตลอดทั้งปี 2567 ถึงเดือนพฤศจิกายน พบผู้เสียหายเพิ่มเติมรวม 247 ราย ตาม พ.ร.บ.เช็ค ทาง สน.ห้วยขวาง จึงส่งเรื่องมายังตำรวจนครบางว่ามีความสลับซับซ้อน จึงแต่งตั้งคณะ บกน.1 เป็นพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน
หลอกลงทุน-จ่ายเช็คเด้ง เสียหาย 7,500 ล้าน
โดยพบพฤติกรรมของ นพ.บุญ และพวก มีการระดมทุน ชักชวนจากตัวแทน บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ว่าตนเป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุนให้ นพ.บุญ และครอบครัว แจ้งว่านำไปลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งเมื่อระดมทุนเรียบร้อยก็จะให้ผู้เชี่ยวชาญบริษัท ไทยเมดิคิลกรุ๊ป จำกัด หรือ TMG ดูแลโครงการทั้งหมด และมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2567
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
แต่พฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนของ นพ.บุญ และพวก มีลักษณะไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้ โดยมีภรรยากับลูกสาว เซ็นสลักหลังค้ำประกันในเช็คทุกฉบับ มอบแก่ผู้เสียหาย เพื่อให้รู้ว่าหากถูกฟ้องภรรยากับลูกจะเป็นลูกหนี้ด้วย ในช่วงแรกจ่ายดอกเบี้ยอัตราสูงให้กับบางส่วน บางคน ต่อมาไม่มีการจ่ายเลย
เจ้าหน้าที่ยังพบว่า หลังได้เงินทุน 7,500 ล้านบาท มีการให้โบรกเกอร์ทยอยไปถอนเงิน ครั้งละเป็นร้อยล้าน โดยโบรกเกอร์จะได้รับดอกเบี้ยและเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ซึ่งการกระทำทั้ง นพ.บุญ และโบรกเกอร์ จะไปชักชวนผู้ร่วมลงทุนที่เป็นนักเล่นหุ้นกระเป๋าหนัก โดยพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง มีผู้ร่วมลงทุนมากที่สุดถึง 600-700 ล้าน เพราะหลงเชื่อว่าจะมีการลงทุนจริง โดยมีนักธุรกิจและบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับความเสียหายรวม 247 คน ความเสียหาย 7,564 ล้านบาท
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
นอกจากนี้ ตรวจสอบพบว่า นพ.บุญ มีรถยนต์ 19 คัน ที่หายไป ส่วนอสังหาริมทรัพย์รวมถึงโฉนดที่ดิน พบมี 21 แปลง มีการยักย้ายถ่ายเทไปยังคนในครอบครัว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวได้มาในช่วงปี 2567 หรือไม่
จากการสืบสวนสรุปได้ว่า นพ.บุญ เป็นคนกลาง ออกโครงการและคิดเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน รวมถึงเป็นผู้ร่างสัญญา และลงมือจ่ายเช็คทั้งหมด เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ฝ่ายภรรยากับลูกเป็นผู้ร่วมทำสัญญา เซ็นสลักด้านหลังเช็คค้ำประกัน เลขา 2 คนเป็นคนทำเรื่องสัญญา เชื่อว่าได้รับผลประโยชน์อย่างแน่นอน ส่วนโบรกเกอร์มีหน้าที่ไปชักชวนคนมาลงทุน ได้เปอร์เซ็นต์จากที่มีคนมาลงทุน
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ล่าตัวหมอบุญ เปิดเส้นทางหนี
สำหรับผู้ที่ถูกศาลอาญาออกหมายจับ 9 ราย ขณะนี้ตำรวจจับได้แล้ว 6 ราย และได้มีการนำตัวส่งศาลอาญาฝากขังเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ นพ.บุญ ประสาน ตม. พบว่าเดินทางออกจากไทยตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เวลา 14.25 น. เส้นทางกรุงเทพฯ - ฮ่องกง และล่าสุดทราบว่าเดินทางต่อไปจีนแล้ว อยู่ระหว่างประสานตำรวจสากล สำหรับลูกเมียคาดว่ายังอยู่ในประเทศไทย อยู่ระหว่างติดตามตัว
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
ชุดสืบสวนยังพบพฤติการณ์ของ นพ.บุญ ว่าพยายามจ่ายเช็คให้เจ้าหนี้ โดยเช็คนั้นไม่สามารถนำไปขึ้นเงินได้ เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องความผิดการฟอกเงินที่มีอัตราโทษสูง และอาจต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ อีกทั้งพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหา ยังมีการทำการตลาด ซื้อโฆษณา สื่อออนไลน์ สำนักพิมพ์หลายแห่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ จะพยายามตามหาตัวให้ถึงที่สุด และตามทรัพย์สินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้ พร้อมกันนั้น บช.น. ยังฝากถึงผู้ที่จะลงทุน ก่อนร่วมลงทุนให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าโครงการต่าง ๆ จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ภรรยาพร้อมลูกสาวของ นพ.บุญ เจ้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมลายเซ็น และไม่ยอมตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่าสามารถติดต่อ นพ.บุญ ได้หรือไม่
ภาพจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์