ประวัติ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช เขาคือใคร นักการเมืองฝีปากกล้า องครักษ์พิทักษ์ ลุงป้อม ดีกรีประธานต้านแชร์ลูกโซ่ สู่วันถูกรวบปมพัวพันเงิน ดิไอคอน ถูกกล่าวหารับโอนเงิน 100 ล้านบาท
ภาพจาก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจของสังคม จากข่าวใหญ่กรณี สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ถูกตำรวจตามจับกุมตัว ในความผิดฐานฟอกเงิน-สมคบกันฟอกเงิน ทำให้นับวันคดี ดิไอคอน ยิ่งสร้างผลกระทบที่ลุกลามไปทุกวงการ จนแม้แต่นักการเมืองซึ่งมีบทบาทมากมายตามหน้าสื่อ ยังโดนคดีไปด้วย
ประวัติ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช หรือ จ๊อบ เกิดวันที่ 30 เมษายน 2526 สร้างชื่อเสียงจากการ ช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่หลายคดีจนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ปี 2557 โดยมีบทบาทในการผลักดันให้แก้กฎหมายแชร์ลูกโซ่ เพิ่มโทษกับผู้กระทำความผิด จนทำให้กลายเป็นวาระชาติ
ภาพจาก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
เข้าสู่เส้นทางการเมือง
ในปี 2562 สามารถ เข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และทำหน้าที่เป็นกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ, อนุกรรมการติดตามการหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ และผู้อำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร ที่นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ครั้งที่ทั้งคู่ยังอยู่กับพรรค
หลังการเลือกตั้งปี 2562 นายสามารถ ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ จนมักปรากฏชื่อตามแวดวงการเมือง ทั้งการออกมาให้ข่าว และแสดงความคิดเห็นในหลายประเด็น
เมื่อปี 2566 ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ ถูกแยกออกจากขั้วรัฐบาล สามารถ ก็กลายเป็นผู้มีบทบาทเบอร์ต้น ๆ ของพรรค หลังได้รับตำแหน่งรองโฆษก โดยทำงานชี้แจงและปกป้องประเด็นที่พาดพิงถึง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมทั้งยังเป็นคนชักชวน วัน อยู่บำรุง อดีต สส.บางบอน ซึ่งกำลังมีรอยร้าวกับพรรคเพื่อไทย ย้ายมาซบ พปชร. อีกด้วย
ฝ่าฟันหลายมรสุมทางการเมือง
ชื่อของ สามารถ กลายเป็นที่รู้จักอย่างมากกรณีการออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในช่วงปี 2563 ซึ่งจำนวนมากนั้นเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ โดยเขาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ทุกคนล้วนอยากช่วยประเทศ แต่ไม่มีใครอยากช่วยแม่ล้างจาน.." ส่งผลให้เกิดกระแสวิจารณ์ต่อนักการเมืองรายนี้จำนวนมาก
ช่วงปี 2564 สามารถ เกือบต้องถึงคราวปิดฉากทางการเมืองหลังถูกกล่าวหาว่า ส่งคนสนิทไปเรียนและสอบแทนในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้พรรคพลังประชารัฐปลดเขาออกจากทุกตำแหน่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สามารถก็กลับมาสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหงยุติเรื่องขั้นตอนการตรวจสอบไปแล้ว ซึ่งผลออกมาว่าเจ้าตัวนั้นไม่มีความผิด
ช่วง ตุลาคม 2567 ชื่อของ สามารถ กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง จากกรณี บอสพอล ดิไอคอน เปิดคลิปเสียง นักการเมือง ส. เรียกรับเงิน ซึ่งแม้จะไม่เคยได้รับการยืนยันจาก สามารถ ว่าคนในคลิปเสียงนั้นคือตัวเองหรือไม่ แต่ด้วยกระแสวิจารณ์ก็ส่งผลให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในพรรค พปชร. อีกรอบ
ภาพจาก เทียงวันทันเหตุการณ์
สาเหตุ สามารถ ถูกจับกุม พบเส้นทางการเงินโยง ดิไอคอน
จากการสืบเส้นทางการเงิน ดิไอคอน พบว่า ผู้เสียหายได้โอนเงินชำระเพื่อซื้อสินค้าหรือเปิดบิลเป็นผู้ตัวแทนจำหน่ายกับบัญชีธนาคารของ ดิไอคอน จากนั้นบริษัทได้โอนเงินต่อมาให้กับ บอสพอล วรัตน์พล และ บอสปีเตอร์ จากนั้นบอสมีการโอนเงินมาให้ แม่สามารถ และแม่จึงโอนเงินให้กับ สามารถ
ภาพจากเรื่องเล่าเช้านี้
เส้นทางการโอนเงินระหว่าง ดิไอคอน กับ แม่สามารถ เริ่มตั้งแต่ปี 2564 โดยในธนาคารของแม่สามารถ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ในส่วนที่รับโอนโดยตรง บอสพอล มีประมาณ 2.5 ล้านบาท อีกทั้งยังรับโอนจาก บอสปีเตอร์ หลายแสนบาท เป็นการรับเงินไปตามวงรอบทุกเดือน เจ้าหน้าที่จึงมองว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจใช่เงินทำบุญตามที่ผู้ต้องหาอ้าง
ภาพจากเรื่องเล่าเช้านี้
ส่วนสาเหตุที่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงินทางอาญานั้น
เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือมีลักษณะปกปิดอำพราง
อีกทั้งนักการเมืองคนนี้ยังใช้เงินผ่านบัญชีแม่ของตัวเอง
เพราะเมื่อบอสพอลหรือ บอสปีเตอร์ โอนเงินมายังบัญชีแม่ของนักการเมือง
จากนั้นแม่ของนักการเมืองก็จะโอนต่อมายังบัญชีนักการเมือง
จึงยืนยันว่าทั้งคู่มีการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน
ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน เบื้องต้นมีรายงานข่าวว่า
นายสามารถ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ภาพจาก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจของสังคม จากข่าวใหญ่กรณี สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ถูกตำรวจตามจับกุมตัว ในความผิดฐานฟอกเงิน-สมคบกันฟอกเงิน ทำให้นับวันคดี ดิไอคอน ยิ่งสร้างผลกระทบที่ลุกลามไปทุกวงการ จนแม้แต่นักการเมืองซึ่งมีบทบาทมากมายตามหน้าสื่อ ยังโดนคดีไปด้วย
ประวัติ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
สามารถ เจนชัยจิตรวนิช หรือ จ๊อบ เกิดวันที่ 30 เมษายน 2526 สร้างชื่อเสียงจากการ ช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่หลายคดีจนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ปี 2557 โดยมีบทบาทในการผลักดันให้แก้กฎหมายแชร์ลูกโซ่ เพิ่มโทษกับผู้กระทำความผิด จนทำให้กลายเป็นวาระชาติ
ภาพจาก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช
เข้าสู่เส้นทางการเมือง
ในปี 2562 สามารถ เข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และทำหน้าที่เป็นกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ, อนุกรรมการติดตามการหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ และผู้อำนวยการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร ที่นำโดยสมศักดิ์ เทพสุทิน และสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ครั้งที่ทั้งคู่ยังอยู่กับพรรค
หลังการเลือกตั้งปี 2562 นายสามารถ ได้รับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ จนมักปรากฏชื่อตามแวดวงการเมือง ทั้งการออกมาให้ข่าว และแสดงความคิดเห็นในหลายประเด็น
เมื่อปี 2566 ภายหลังพรรคพลังประชารัฐ ถูกแยกออกจากขั้วรัฐบาล สามารถ ก็กลายเป็นผู้มีบทบาทเบอร์ต้น ๆ ของพรรค หลังได้รับตำแหน่งรองโฆษก โดยทำงานชี้แจงและปกป้องประเด็นที่พาดพิงถึง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมทั้งยังเป็นคนชักชวน วัน อยู่บำรุง อดีต สส.บางบอน ซึ่งกำลังมีรอยร้าวกับพรรคเพื่อไทย ย้ายมาซบ พปชร. อีกด้วย
ชื่อของ สามารถ กลายเป็นที่รู้จักอย่างมากกรณีการออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องการชุมนุมขับไล่รัฐบาลในช่วงปี 2563 ซึ่งจำนวนมากนั้นเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ โดยเขาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ทุกคนล้วนอยากช่วยประเทศ แต่ไม่มีใครอยากช่วยแม่ล้างจาน.." ส่งผลให้เกิดกระแสวิจารณ์ต่อนักการเมืองรายนี้จำนวนมาก
ช่วงปี 2564 สามารถ เกือบต้องถึงคราวปิดฉากทางการเมืองหลังถูกกล่าวหาว่า ส่งคนสนิทไปเรียนและสอบแทนในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำให้พรรคพลังประชารัฐปลดเขาออกจากทุกตำแหน่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สามารถก็กลับมาสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง หลังมหาวิทยาลัยรามคำแหงยุติเรื่องขั้นตอนการตรวจสอบไปแล้ว ซึ่งผลออกมาว่าเจ้าตัวนั้นไม่มีความผิด
ช่วง ตุลาคม 2567 ชื่อของ สามารถ กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง จากกรณี บอสพอล ดิไอคอน เปิดคลิปเสียง นักการเมือง ส. เรียกรับเงิน ซึ่งแม้จะไม่เคยได้รับการยืนยันจาก สามารถ ว่าคนในคลิปเสียงนั้นคือตัวเองหรือไม่ แต่ด้วยกระแสวิจารณ์ก็ส่งผลให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในพรรค พปชร. อีกรอบ
ภาพจาก เทียงวันทันเหตุการณ์
สาเหตุ สามารถ ถูกจับกุม พบเส้นทางการเงินโยง ดิไอคอน
จากการสืบเส้นทางการเงิน ดิไอคอน พบว่า ผู้เสียหายได้โอนเงินชำระเพื่อซื้อสินค้าหรือเปิดบิลเป็นผู้ตัวแทนจำหน่ายกับบัญชีธนาคารของ ดิไอคอน จากนั้นบริษัทได้โอนเงินต่อมาให้กับ บอสพอล วรัตน์พล และ บอสปีเตอร์ จากนั้นบอสมีการโอนเงินมาให้ แม่สามารถ และแม่จึงโอนเงินให้กับ สามารถ
ภาพจากเรื่องเล่าเช้านี้
เส้นทางการโอนเงินระหว่าง ดิไอคอน กับ แม่สามารถ เริ่มตั้งแต่ปี 2564 โดยในธนาคารของแม่สามารถ มียอดเงินรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับโอนเงินจากทางอื่น แต่ในส่วนที่รับโอนโดยตรง บอสพอล มีประมาณ 2.5 ล้านบาท อีกทั้งยังรับโอนจาก บอสปีเตอร์ หลายแสนบาท เป็นการรับเงินไปตามวงรอบทุกเดือน เจ้าหน้าที่จึงมองว่าพฤติการณ์ลักษณะนี้ไม่อาจใช่เงินทำบุญตามที่ผู้ต้องหาอ้าง
ภาพจากเรื่องเล่าเช้านี้