ช่างซ่อมเครื่องซักผ้า เล่าเคสเครื่องซักผ้า ซักไม่สะอาด ซักไม่จบโปรแกรม เลยรื้อเครื่องออกมาทีละชิ้น เจอสาเหตุซ่อนอยู่ในเครื่อง ปมเพราะความเชื่อผิด ๆ เรื่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม กว่าจะรู้ก็สภาพแย่แล้ว
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไอที โบราณ เดอะรูม ศูนย์ซ่อมด่วนคลองแงะ โพสต์ในกลุ่ม งานบ้านที่รัก โดยที่เขาได้บอกว่า ทุกครั้งที่รับงานซ่อมเครื่องซักผ้า ที่อาการคือเครื่องทำงานไม่จบ ซักผ้าไม่สะอาด ปัญหาตั้งต้นคือ "ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม"
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ปัญหาซักผ้าไม่สะอาด เพราะถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม
โดยเครื่องซักผ้าที่เขารื้อออกมานั้น เป็นเครื่องซักผ้าที่มีอายุการใช้งานแค่ 3 ปี แต่ลูกค้ารู้สึกว่า เครื่องซักผ้าไม่สะอาด และทำงานไม่จบโปรแกรม ลูกค้าเข้าใจว่าเครื่องซักผ้าสายพานเสีย จึงตั้งใจยกมาจะเปลี่ยนสายพาน ซึ่งช่างก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องของสายพานแน่ ๆ เพราะเครื่องซักผ้าอินเวอร์เตอร์ไม่มีสายพาน แต่ลูกค้าจะไม่เชื่อ ช่างจึงเปิดฝาหลังให้ดูคราบสกปรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ว่า ทำไมซักผ้าไม่สะอาด
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
นอกจากนี้ ช่างได้จัดการรื้อถังซักออกดู ก็พบสาเหตุที่แท้จริงที่อาจทำให้คุณแม่บ้านโดนพ่อบ้าน มองค้อนแรงมาก เพราะลูกค้าชอบซักผ้าแล้วโยนถุงน้ำยาปรับผ้านุ่มลงเครื่อง ทำแบบนี้สามปี ลูกค้าคิดว่า หากซื้อน้ำยาปรับถุงเล็กแล้วเทลงเครื่องซักผ้า มันเข้มข้นกว่าและทำให้ผ้าหอมกว่า และที่โยนน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ทั้งถุง เพราะอยากใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหมดจนหยดสุดท้ายมากกว่าที่จะเทเข้าช่องปรับผ้านุ่ม คิดว่าถุงคงจะยังอยู่ในเครื่อง ซักเสร็จแล้วแล้วค่อยหยิบไปทิ้งตอนนำผ้าออกมา แต่ลูกค้าคงไม่รู้ว่า ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม สามารถไปตกค้างใต้ถังและทำให้เครื่องเสีย
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ช่างแนะนำ อย่าใส่สารอย่างอื่นลงในเครื่อง ห้ามล้างเครื่องด้วยน้ำส้มสายชู
อีกอย่างคือ เหตุที่เครื่องซักไม่สะอาดเพราะถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม จะไปดักคราบไคล ตะกอนไว้ในเครื่อง จนทำให้ตัวเครื่องผุเป็นตามด อีกทั้งความเชื่อเรื่องการล้างเครื่องซักผ้าด้วยการใส่น้ำส้มสายชูทำให้ผ้าสะอาดเครื่องสะอาด ก็เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะน้ำส้มสายชูเป็นกรด พอใส่กรดซ้ำ ๆ ลงไป กรดก็ไปกัดกร่อนโลหะ ทางที่ดี หากต้องการล้างเครื่องซักผ้า ให้ลูกค้าส่งเครื่องให้ช่างล้างเครื่อง นาน ๆ ทีก็ดี
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
นอกจากนี้ ในน้ำของแต่ละบ้านมักมีตะกรันบ้าง เป็นด่างบ้าง เป็นน้ำสนิมบ้าง แตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องของน้ำก็จะไปมีผลกับผงซักฟอกแบบผง หากผงซักฟอกละลายไม่หมด ก็จะเป็นฟอสซิลแข็ง บางบ้านซักแล้วทิ้งคราบขาว และยิ่งใส่กรดเกลือลงไป ก็จะยิ่งสร้างปัญหาสะสมไว้มากกว่าเดิม ดังนั้น หากมีสิ่งอื่น ๆ ที่อยากใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า ที่ไม่ใช่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม แนะนำให้แช่ผ้า พร้อมสารต่าง ๆ นอกเครื่องซักผ้าก่อน เพราะเครื่องรับทั้งน้ำทั้งสารซักฟอกแล้ว
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าสร้างความตกใจให้กับชาวเน็ต เพราะต่างเพิ่งเคยเจอเคสที่ใส่ซองน้ำยาปรับผ้านุ่มไปในเครื่องทั้งถุงเช่นนี้ แต่บางส่วนซึ่งทำงานเกี่ยวกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ยืนยันว่า เคยพบเห็นคำทำแบบนี้ค่อนข้างบ่อยจริง ๆ ส่วนเรื่องของน้ำส้มสายชูนั้น หลายคนต่างยืนยันว่ามันไม่เวิร์ก อย่าหาทำ ถ้ายังอยากใช้เครื่องไปนาน ๆ เป็นต้น
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายบ้านขาดไม่ได้สำหรับ น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะนอกจะจะช่วยให้เนื้อผ้านั้นสวมใส่สบาย ยังมีจุดเด่นเรื่องกลิ่นหอมติดทนนาน แต่หากใช้ผิดวิธีนาน ๆ ไป ก็อาจทำให้เครื่องซักผ้า เกิดปัญหาตามมาได้เช่นกันวันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ไอที โบราณ เดอะรูม ศูนย์ซ่อมด่วนคลองแงะ โพสต์ในกลุ่ม งานบ้านที่รัก โดยที่เขาได้บอกว่า ทุกครั้งที่รับงานซ่อมเครื่องซักผ้า ที่อาการคือเครื่องทำงานไม่จบ ซักผ้าไม่สะอาด ปัญหาตั้งต้นคือ "ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม"
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ปัญหาซักผ้าไม่สะอาด เพราะถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม
โดยเครื่องซักผ้าที่เขารื้อออกมานั้น เป็นเครื่องซักผ้าที่มีอายุการใช้งานแค่ 3 ปี แต่ลูกค้ารู้สึกว่า เครื่องซักผ้าไม่สะอาด และทำงานไม่จบโปรแกรม ลูกค้าเข้าใจว่าเครื่องซักผ้าสายพานเสีย จึงตั้งใจยกมาจะเปลี่ยนสายพาน ซึ่งช่างก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องของสายพานแน่ ๆ เพราะเครื่องซักผ้าอินเวอร์เตอร์ไม่มีสายพาน แต่ลูกค้าจะไม่เชื่อ ช่างจึงเปิดฝาหลังให้ดูคราบสกปรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ว่า ทำไมซักผ้าไม่สะอาด
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
นอกจากนี้ ช่างได้จัดการรื้อถังซักออกดู ก็พบสาเหตุที่แท้จริงที่อาจทำให้คุณแม่บ้านโดนพ่อบ้าน มองค้อนแรงมาก เพราะลูกค้าชอบซักผ้าแล้วโยนถุงน้ำยาปรับผ้านุ่มลงเครื่อง ทำแบบนี้สามปี ลูกค้าคิดว่า หากซื้อน้ำยาปรับถุงเล็กแล้วเทลงเครื่องซักผ้า มันเข้มข้นกว่าและทำให้ผ้าหอมกว่า และที่โยนน้ำยาปรับผ้านุ่มใส่ทั้งถุง เพราะอยากใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มหมดจนหยดสุดท้ายมากกว่าที่จะเทเข้าช่องปรับผ้านุ่ม คิดว่าถุงคงจะยังอยู่ในเครื่อง ซักเสร็จแล้วแล้วค่อยหยิบไปทิ้งตอนนำผ้าออกมา แต่ลูกค้าคงไม่รู้ว่า ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม สามารถไปตกค้างใต้ถังและทำให้เครื่องเสีย
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ช่างแนะนำ อย่าใส่สารอย่างอื่นลงในเครื่อง ห้ามล้างเครื่องด้วยน้ำส้มสายชู
อีกอย่างคือ เหตุที่เครื่องซักไม่สะอาดเพราะถุงน้ำยาปรับผ้านุ่ม จะไปดักคราบไคล ตะกอนไว้ในเครื่อง จนทำให้ตัวเครื่องผุเป็นตามด อีกทั้งความเชื่อเรื่องการล้างเครื่องซักผ้าด้วยการใส่น้ำส้มสายชูทำให้ผ้าสะอาดเครื่องสะอาด ก็เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะน้ำส้มสายชูเป็นกรด พอใส่กรดซ้ำ ๆ ลงไป กรดก็ไปกัดกร่อนโลหะ ทางที่ดี หากต้องการล้างเครื่องซักผ้า ให้ลูกค้าส่งเครื่องให้ช่างล้างเครื่อง นาน ๆ ทีก็ดี
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
นอกจากนี้ ในน้ำของแต่ละบ้านมักมีตะกรันบ้าง เป็นด่างบ้าง เป็นน้ำสนิมบ้าง แตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องของน้ำก็จะไปมีผลกับผงซักฟอกแบบผง หากผงซักฟอกละลายไม่หมด ก็จะเป็นฟอสซิลแข็ง บางบ้านซักแล้วทิ้งคราบขาว และยิ่งใส่กรดเกลือลงไป ก็จะยิ่งสร้างปัญหาสะสมไว้มากกว่าเดิม ดังนั้น หากมีสิ่งอื่น ๆ ที่อยากใส่ลงไปในเครื่องซักผ้า ที่ไม่ใช่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม แนะนำให้แช่ผ้า พร้อมสารต่าง ๆ นอกเครื่องซักผ้าก่อน เพราะเครื่องรับทั้งน้ำทั้งสารซักฟอกแล้ว
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
ภาพจาก งานบ้านที่รัก
หลังโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าสร้างความตกใจให้กับชาวเน็ต เพราะต่างเพิ่งเคยเจอเคสที่ใส่ซองน้ำยาปรับผ้านุ่มไปในเครื่องทั้งถุงเช่นนี้ แต่บางส่วนซึ่งทำงานเกี่ยวกับเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ยืนยันว่า เคยพบเห็นคำทำแบบนี้ค่อนข้างบ่อยจริง ๆ ส่วนเรื่องของน้ำส้มสายชูนั้น หลายคนต่างยืนยันว่ามันไม่เวิร์ก อย่าหาทำ ถ้ายังอยากใช้เครื่องไปนาน ๆ เป็นต้น