ภาพที่ดูเหมือนจะปกติ แท้จริงมีสัตว์ที่คาดไม่ถึงซ่อนอยู่เพียบ ผู้เชี่ยวชาญเตือน ถ้าแตะแล้วถึงตาย ถึงจะตายแล้วก็ยังมีพิษ น่ากลัวสุด ๆ
![ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ]( "ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ")
ภาพจาก Fushan Fishery Resources Conservation Area
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้พบเห็น "สัตว์แปลก" จำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมาอยู่ที่บริเวณชายฝั่งเมืองไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน จึงได้บันทึกภาพเอาไว้แล้วนำมาแชร์ทางโซเชียลมีเดีย ก่อนที่จะกลายเป็นภาพลวงตาชวนพิศวงเพราะหลายคนมองไม่เห็นสัตว์แปลกที่ว่านั้น จนกระทั่งมีผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า มันคือสัตว์มีพิษอันตรายที่ห้ามแตะโดยเด็ดขาด
ตามรายงานเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นชายหาดของเขตอนุรักษ์ทรัพยากรประมงฝูซาน ในเขตเป่ยหนาน จากภาพถ่ายที่ถูกนำมาเผยแพร่แสดงให้เห็นว่า มีก้อนหินอยู่จำนวนมาก และดูเหมือนว่าจะมีหินรูปทรงประหลาดสีใส รวมอยู่ในจำนวนนั้นด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อสังเกตดูให้ดี ๆ พวกที่เป็นก้อนสีใสนั้นไม่ใช่หินแต่อย่างใด แต่มันคือ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ Portuguese Man-of-War
![ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ]( "ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ")
ภาพจาก Fushan Fishery Resources Conservation Area
สำหรับแมงกะพรุนชนิดนี้ มักเรียกว่าแมงกะพรุน แต่จริง ๆ แล้วเป็นสัตว์จำพวกไซโฟโนฟอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์ที่มีความใกล้ชิดกับแมงกะพรุน มีลักษณะคล้ายไพลินสีม่วงน้ำเงินลอยน้ำ และมีลักษณะคล้ายเรือรบเก่าโปรตุเกสในศตวรรษที่ 18 จึงมีอีกชื่อเรียกว่า แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส พวกมันมีพิษร้ายแรง หากสัมผัสโดนผิวหนังจะแดง บวม และแสบร้อน ในกรณีที่ได้รับพิษรุนแรง อาจส่งผลต่อระบบประสาทและถึงขั้นเสียชีวิตได้
หยาง ซิ่วเจิ้น หนึ่งในทีมอาสาสมัครของศูนย์อนุรักษ์ฯ เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยเห็นแมงกะพรุนไฟจำนวนมากขนาดนี้ หลังจากได้รับรายงานเรื่อง ทางทีมอาสาสมัคร ได้รีบจัดการพวกมันออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาพบ และไปสัมผัสโดนด้วยความสงสัยหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
![ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ]( "ภาพนี้มีสัตว์อันตรายซ่อนอยู่เพียบ")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หวู่ รุ่ยเซียน ผู้ช่วยนักวิจัยจากศูนย์วิจัยชีววิทยาทางทะเลภาคตะวันออก แห่งสถาบันห้องปฏิบัติการประมงของไต้หวัน ได้เตือนว่า หากพบเห็นแมงกะพรุนไฟชนิดนี้ ไม่ควรจะจับหรือสัมผัสมันโดยเด็ดขาด แม้ว่าพวกมันจะถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งจนตายแล้ว เพราะหากยังมีน้ำอยู่ในร่างกายของมันแม้เพียงเล็กน้อย ความเป็นพิษของเซลล์ก็จะยังคงอยู่ และมีอันตรายเช่นเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT
ภาพจาก Fushan Fishery Resources Conservation Area
วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT เผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้พบเห็น "สัตว์แปลก" จำนวนหนึ่งโผล่ขึ้นมาอยู่ที่บริเวณชายฝั่งเมืองไถตง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน จึงได้บันทึกภาพเอาไว้แล้วนำมาแชร์ทางโซเชียลมีเดีย ก่อนที่จะกลายเป็นภาพลวงตาชวนพิศวงเพราะหลายคนมองไม่เห็นสัตว์แปลกที่ว่านั้น จนกระทั่งมีผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า มันคือสัตว์มีพิษอันตรายที่ห้ามแตะโดยเด็ดขาด
ตามรายงานเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นชายหาดของเขตอนุรักษ์ทรัพยากรประมงฝูซาน ในเขตเป่ยหนาน จากภาพถ่ายที่ถูกนำมาเผยแพร่แสดงให้เห็นว่า มีก้อนหินอยู่จำนวนมาก และดูเหมือนว่าจะมีหินรูปทรงประหลาดสีใส รวมอยู่ในจำนวนนั้นด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อสังเกตดูให้ดี ๆ พวกที่เป็นก้อนสีใสนั้นไม่ใช่หินแต่อย่างใด แต่มันคือ แมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส หรือ Portuguese Man-of-War
ภาพจาก Fushan Fishery Resources Conservation Area
สำหรับแมงกะพรุนชนิดนี้ มักเรียกว่าแมงกะพรุน แต่จริง ๆ แล้วเป็นสัตว์จำพวกไซโฟโนฟอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มสัตว์ที่มีความใกล้ชิดกับแมงกะพรุน มีลักษณะคล้ายไพลินสีม่วงน้ำเงินลอยน้ำ และมีลักษณะคล้ายเรือรบเก่าโปรตุเกสในศตวรรษที่ 18 จึงมีอีกชื่อเรียกว่า แมงกะพรุนไฟเรือรบโปรตุเกส พวกมันมีพิษร้ายแรง หากสัมผัสโดนผิวหนังจะแดง บวม และแสบร้อน ในกรณีที่ได้รับพิษรุนแรง อาจส่งผลต่อระบบประสาทและถึงขั้นเสียชีวิตได้
หยาง ซิ่วเจิ้น หนึ่งในทีมอาสาสมัครของศูนย์อนุรักษ์ฯ เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยเห็นแมงกะพรุนไฟจำนวนมากขนาดนี้ หลังจากได้รับรายงานเรื่อง ทางทีมอาสาสมัคร ได้รีบจัดการพวกมันออกไปจากพื้นที่ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาพบ และไปสัมผัสโดนด้วยความสงสัยหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
หวู่ รุ่ยเซียน ผู้ช่วยนักวิจัยจากศูนย์วิจัยชีววิทยาทางทะเลภาคตะวันออก แห่งสถาบันห้องปฏิบัติการประมงของไต้หวัน ได้เตือนว่า หากพบเห็นแมงกะพรุนไฟชนิดนี้ ไม่ควรจะจับหรือสัมผัสมันโดยเด็ดขาด แม้ว่าพวกมันจะถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งจนตายแล้ว เพราะหากยังมีน้ำอยู่ในร่างกายของมันแม้เพียงเล็กน้อย ความเป็นพิษของเซลล์ก็จะยังคงอยู่ และมีอันตรายเช่นเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT
