ผู้เชี่ยวชาญเผยคำอธิบายชัด แอลกอฮอล์ทำอะไรกับร่างกายบ้างหลังดื่ม ตั้งแต่ชั่วโมงแรก จนถึงตอนเมา ทำไมถึง 4 ชั่วโมง ควรกลับบ้าน ไม่ควรดื่มต่ออีก
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย แต่ละคนจะรู้สึกเมาช้าหรือเร็วแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะแค่ครึ่งแก้ว บางคน 2-3 แก้ว ไม่ในขณะที่บางคนสามารถนั่งได้ทั้งคืน แต่จะรู้หรือไม่ว่า นับตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เริ่มดื่มเข้าไป แอลกอฮอล์ได้เริ่มทำอะไรกับร่างกายแล้ว
วันที่ 10 ธันวคม 2567 เว็บไซต์ Unilad เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เผยคำอธิบายแบบเห็นภาพชัดเจนว่า แอลกอฮอล์จะเข้าไปทำอะไรกับร่างกายบ้าง ตั้งแต่ที่เริ่มยกแก้วดื่มเข้าไป และจนถึงชั่วโมงที่ 4 พวกเขามีคำแนะนำให้เหล่านักดื่มว่า ควรจะแยกย้ายกลับบ้านได้แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น ในสหราชอาณาจักร เผยว่า "แอลกอฮอล์จะส่งผลต่อร่างกายของคุณอย่างรวดเร็ว แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุกระเพาะอาหาร เข้าสู่กระแสเลือด หลังจากนั้นแอลกอฮอล์จะแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และไปถึงสมองภายในเวลาแค่ 5 นาที และจะเริ่มแสดงผลในเวลา 10 นาที"
หลังจาก 20 นาที รายงานชี้ว่า แอลกอฮอล์ 90 เปอร์เซ็นต์จะไปถึงลำไส้เล็ก ตับอ่อน และตับ จากนั้นร่างกายจะเริ่มกระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์เฉลี่ย 1 ออนซ์ (ราว 28 กรัม) ทุก ๆ ชั่วโมง
เดบบี ชอว์ครอส ศาสตราจารย์ด้านโรคตับและที่ปรึกษาทางการแพทย์ขององค์กร British Liver Trust อธิบายว่า ตับจะทำหน้าที่ย่อยสลายแอลกอฮอล์ โดยอาศัยเอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส (Alcohol Dehydrogenase หรือ ADH) ทำให้ผิวหนังแดง คลื่นไส้ และใจสั่น และแอลกอฮอล์อีกส่วนจะถูกขับออกมาทางลมหายใจ เหงื่อ หรือปัสสาวะ
อย่างไรก็ตาม ตับไม่สามารถเร่งกระบวนการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ ดังนั้นแม้ว่าคุณจะหยุดดื่มแล้ว แต่แอลกอฮอล์สามารถคงอยู่ในเลือดได้นานถึง 6 ชั่วโมง และอยู่ในลมหายใจได้นานถึง 12-24 ชั่วโมง
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ครบ 2 ชั่วโมง สติการรับรู้จะค่อย ๆ ลดลง คำพูดอาจจะเริ่มไม่ชัด การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง และการทรงตัวเริ่มจะไม่ดี เหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากสมองจะหยุดผลิตสารเคมีที่ชื่อว่า กาบา (GABA หรือ Gamma-Aminobutyric Acid) ซึ่งคือสารที่สมองใช้ในการสื่อสารกับระบบประสาท หรือที่มักเรียกกันว่า สารสื่อประสาท
แอลกอฮอล์มีผลโดยตรงต่อระบบประสาท โดยกดการทำงานของระบบประสาท การได้รับแอลกอฮอล์ปริมาณสูงจึงมีฤทธิ์คล้ายกับยาสลบ ดังนั้นคุณจึงอาจเริ่มรู้สึกง่วงนอน นี่จึงเป็นเวลาที่สมควรจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เพื่อเข้านอนอย่างสบายใจในที่ปลอดภัย ดีกว่าหมดสติไปในห้องน้ำที่ผับ บาร์ หรือแม้กระทั่งข้างถนน
หากดื่มเกินต่อไปหลังจากนั้นหลายชั่วโมง อาการที่เกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปจะเริ่มสำแดงฤทธิ์เดชมากขึ้น มีทั้งอาเจียน ปวดหัว หงุดหงิด ปวดเมื่อยร่างกาย อ่อนล้า หรืออยากกินพวกอาหารขยะ รวมทั้งอาจมีปัญหาในการนอนหลับ
ดังนั้น เหล่านักดื่มหรือสายตี้ทั้งหลายควรจะดื่มอย่างมีความรับผิดชอบทั้งต่อร่างกายตัวเองและคนรอบข้าง ควรหยุดเมื่อถึงเวลาที่สมควร เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ รวมถึงอาชญากรรมที่อาจจะเกิดได้และไม่ลืมที่จะดื่มน้ำเปล่าก่อนเข้านอนด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย แต่ละคนจะรู้สึกเมาช้าหรือเร็วแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะแค่ครึ่งแก้ว บางคน 2-3 แก้ว ไม่ในขณะที่บางคนสามารถนั่งได้ทั้งคืน แต่จะรู้หรือไม่ว่า นับตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เริ่มดื่มเข้าไป แอลกอฮอล์ได้เริ่มทำอะไรกับร่างกายแล้ว
วันที่ 10 ธันวคม 2567 เว็บไซต์ Unilad เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เผยคำอธิบายแบบเห็นภาพชัดเจนว่า แอลกอฮอล์จะเข้าไปทำอะไรกับร่างกายบ้าง ตั้งแต่ที่เริ่มยกแก้วดื่มเข้าไป และจนถึงชั่วโมงที่ 4 พวกเขามีคำแนะนำให้เหล่านักดื่มว่า ควรจะแยกย้ายกลับบ้านได้แล้ว
ภายในชั่วโมงแรก
ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การแพทย์นอร์ธเวสเทิร์น ในสหราชอาณาจักร เผยว่า "แอลกอฮอล์จะส่งผลต่อร่างกายของคุณอย่างรวดเร็ว แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมผ่านเยื่อบุกระเพาะอาหาร เข้าสู่กระแสเลือด หลังจากนั้นแอลกอฮอล์จะแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย และไปถึงสมองภายในเวลาแค่ 5 นาที และจะเริ่มแสดงผลในเวลา 10 นาที"
หลังจาก 20 นาที รายงานชี้ว่า แอลกอฮอล์ 90 เปอร์เซ็นต์จะไปถึงลำไส้เล็ก ตับอ่อน และตับ จากนั้นร่างกายจะเริ่มกระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์เฉลี่ย 1 ออนซ์ (ราว 28 กรัม) ทุก ๆ ชั่วโมง
1 ชั่วโมงขึ้นไป
เดบบี ชอว์ครอส ศาสตราจารย์ด้านโรคตับและที่ปรึกษาทางการแพทย์ขององค์กร British Liver Trust อธิบายว่า ตับจะทำหน้าที่ย่อยสลายแอลกอฮอล์ โดยอาศัยเอนไซม์แอลกอฮอล์ดีไฮโดรจีเนส (Alcohol Dehydrogenase หรือ ADH) ทำให้ผิวหนังแดง คลื่นไส้ และใจสั่น และแอลกอฮอล์อีกส่วนจะถูกขับออกมาทางลมหายใจ เหงื่อ หรือปัสสาวะ
อย่างไรก็ตาม ตับไม่สามารถเร่งกระบวนการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ ดังนั้นแม้ว่าคุณจะหยุดดื่มแล้ว แต่แอลกอฮอล์สามารถคงอยู่ในเลือดได้นานถึง 6 ชั่วโมง และอยู่ในลมหายใจได้นานถึง 12-24 ชั่วโมง
2 ชั่วโมงขึ้นไป
เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ครบ 2 ชั่วโมง สติการรับรู้จะค่อย ๆ ลดลง คำพูดอาจจะเริ่มไม่ชัด การเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง และการทรงตัวเริ่มจะไม่ดี เหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากสมองจะหยุดผลิตสารเคมีที่ชื่อว่า กาบา (GABA หรือ Gamma-Aminobutyric Acid) ซึ่งคือสารที่สมองใช้ในการสื่อสารกับระบบประสาท หรือที่มักเรียกกันว่า สารสื่อประสาท
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
4 ชั่วโมงขึ้นไป
แอลกอฮอล์มีผลโดยตรงต่อระบบประสาท โดยกดการทำงานของระบบประสาท การได้รับแอลกอฮอล์ปริมาณสูงจึงมีฤทธิ์คล้ายกับยาสลบ ดังนั้นคุณจึงอาจเริ่มรู้สึกง่วงนอน นี่จึงเป็นเวลาที่สมควรจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เพื่อเข้านอนอย่างสบายใจในที่ปลอดภัย ดีกว่าหมดสติไปในห้องน้ำที่ผับ บาร์ หรือแม้กระทั่งข้างถนน
หากดื่มเกินต่อไปหลังจากนั้นหลายชั่วโมง อาการที่เกิดจากการบริโภคแอลกอฮอล์มากเกินไปจะเริ่มสำแดงฤทธิ์เดชมากขึ้น มีทั้งอาเจียน ปวดหัว หงุดหงิด ปวดเมื่อยร่างกาย อ่อนล้า หรืออยากกินพวกอาหารขยะ รวมทั้งอาจมีปัญหาในการนอนหลับ
ดังนั้น เหล่านักดื่มหรือสายตี้ทั้งหลายควรจะดื่มอย่างมีความรับผิดชอบทั้งต่อร่างกายตัวเองและคนรอบข้าง ควรหยุดเมื่อถึงเวลาที่สมควร เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายต่าง ๆ รวมถึงอาชญากรรมที่อาจจะเกิดได้และไม่ลืมที่จะดื่มน้ำเปล่าก่อนเข้านอนด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Unilad