เตือนโนโรไวรัสระบาดในไทยจนมีนักเรียนป่วยรวดเดียว 1,400 ราย ความจริงเป็นข่าวเดือนที่แล้ว ไม่ใช่เรื่องสดใหม่ พร้อมให้ประชาชนระวังตัวช่วงเทศกาล มีความเสี่ยงสูงเพราะการรวมตัวสังสรรค์และการเดินทาง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ สวพ.91 รายงานว่า นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย ออกมาเตือนประชาชนในท่วงเทศกาลปีใหม่ว่า มีความเสี่ยงต่อโรคโนโรไวรัส เนื่องจาก ประชาชนจัดเลี้ยงสังสรรค์ เดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก ขอให้ประชาชนล้างมือให้สะอาด ตรวจประเมินคุณภาพน้ำดื่มน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนั้นยังมีการเทียบเหตุการณ์ที่คล้าย ๆ กัน คือ เหตุการณ์อุจจาระร่วงใน 2 โรงเรียนใน อ.แกลง จ.ระยอง มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 1,436 ราย แบ่งเป็นนักเรียน 1,418 ราย และครู 18 ราย ส่วนสาเหตุที่คนท้องเสีย มาจากน้ำกับน้ำแข็งที่บริโภคกันในช่วงจัดงานกีฬาสี
โนโรไวรัส มักแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูหนาว เป็นโรคติดต่อคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม เป็นต้น ซึ่งไวรัสมีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมงหลังการรับเชื้อ
อาการคนติดเชื้อโนโรไวรัส มักคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
วิธีป้องกันตัวเองจากโนโรไวรัส
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง
2. ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด
3. ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
4. หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด
หน่วยงานและสถานประกอบกิจการควรมีมาตรการควบคุมป้องกัน ดังนี้
1. การเติมคลอรีนในถังพักน้ำดื่มและน้ำใช้
2. การตรวจประเมินคุณภาพน้ำใช้ น้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง
3. จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ
4. การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการป้องกันโรค
ข้อเท็จจริงเรื่องท้องเสีย 1,400 ราย
จากการตรวจสอบของกระปุกดอทคอม พบว่า ข่าวนักเรียนท้องเสียในงานกีฬาสีโรงเรียนใน อ.แกลง จ.ระยอง 2 โรงเรียน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 และสถานการณ์ปัจจุบันกลับมาปกติแล้ว ดังนั้นอย่าเพิ่งตระหนกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
อ่านข่าว : ความจริงเกี่ยวกับโนโรไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในจีน จะซ้ำรอยโควิดไหม อ.เจษฎาตอบแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.91
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
พร้อมกันนั้นยังมีการเทียบเหตุการณ์ที่คล้าย ๆ กัน คือ เหตุการณ์อุจจาระร่วงใน 2 โรงเรียนใน อ.แกลง จ.ระยอง มีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 1,436 ราย แบ่งเป็นนักเรียน 1,418 ราย และครู 18 ราย ส่วนสาเหตุที่คนท้องเสีย มาจากน้ำกับน้ำแข็งที่บริโภคกันในช่วงจัดงานกีฬาสี
โนโรไวรัส มักแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูหนาว เป็นโรคติดต่อคนสู่คน สามารถติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม เป็นต้น ซึ่งไวรัสมีระยะฟักตัว 12-48 ชั่วโมงหลังการรับเชื้อ
อาการคนติดเชื้อโนโรไวรัส มักคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย
วิธีป้องกันตัวเองจากโนโรไวรัส
1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง
2. ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด
3. ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
4. หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด
1. การเติมคลอรีนในถังพักน้ำดื่มและน้ำใช้
2. การตรวจประเมินคุณภาพน้ำใช้ น้ำดื่มอย่างต่อเนื่อง
3. จัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ที่เพียงพอ
4. การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพและส่งเสริมพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีสำหรับการป้องกันโรค
ข้อเท็จจริงเรื่องท้องเสีย 1,400 ราย
จากการตรวจสอบของกระปุกดอทคอม พบว่า ข่าวนักเรียนท้องเสียในงานกีฬาสีโรงเรียนใน อ.แกลง จ.ระยอง 2 โรงเรียน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 และสถานการณ์ปัจจุบันกลับมาปกติแล้ว ดังนั้นอย่าเพิ่งตระหนกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ
อ่านข่าว : ความจริงเกี่ยวกับโนโรไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในจีน จะซ้ำรอยโควิดไหม อ.เจษฎาตอบแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.91