เปิดหมู่บ้านบัญชีม้า ข้ามตะลุยป่าไปปอยเปต ไม่มีใครโดนหลอก แต่โดนโกงเงินแทน

          เปิดหมู่บ้านบัญชีม้า หลายคนไปทำโดยสมัครใจ โดยมีนายหน้าชวน สูงสุดเป็นหญิงวัย 70 นั่งรถไปถึงอรัญประเทศ ถ้าสแกนหน้าผ่านได้เดินป่า อยู่ปอยเปตเป็นเดือน


          วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า ในชุมชนแห่งหนึ่งมีการชักชวนชาวบ้านเปิดบัญชีม้านับสิบราย โดยมีนายหน้าที่ชื่อ "หมวย" มาเช่าอาศัยในหมู่บ้าน ชักชวนคนมาเปิดบัญชีม้าที่ปอยเปต และชาวบ้านก็ยินยอม

          ป้าแล่ม หนึ่งในคนเปิดบัญชีม้า เล่าว่า คนชื่อหมวยจะทำหน้าที่มาบิ๊วให้ไปเปิดบัญชีที่ปอยเปต โดยให้เงิน 2,500 บาทในการเปิดบัญชี ส่วนเงินที่เข้า อ้างว่าเป็นเงินเข้าจากเว็บเกมและการพนันจากประเทศเพื่อนบ้าน

          เมื่อป้าแล่มตอบตกลง หมวยก็จะนำตัวป้าส่งให้ส้ม นายหน้าอีกทอดหนึ่ง ซึ่งส้มก็พาป้าแล่มไปเปิดบัญชีอีก 7 บัญชี แล้วให้ป้าย้ายมาอยู่ย่านรามอินทรา อีกวันหนึ่งค่อยพาไปที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเปิดบัญชีออนไลน์อีก 2 บัญชี รวมทั้งหมด 9 บัญชี สุดท้ายใช้ได้แค่ 5 บัญชี

ข้ามแดนไปอรัญประเทศ และกัมพูชา

          ส่วนการไปชายแดนอรัญประเทศ ป้าแล่มต้องเดินบุกป่าประมาณ 10 นาที ตามช่องทางธรรมชาติ แล้วจะมีคนฝั่งปอยเปตขับรถมารับ พาป้าไปพักที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนั้นมีคนพักอยู่เพียบ มีคนมาเช็กชื่อทุกวัน ถ้าวันไหนมีชื่อป้าแล่มก็ต้องไปอีกตึกหนึ่งเพื่อไปสแกนหน้า

          เรื่องนี้ ป้าแล่มให้ความเห็นว่า มันเหมือนขั้นตอนการโอนเงิน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเงินในบัญชีมีอยู่เท่าไร เงินมาจากไหนบ้าง ทำงานตั้งแต่ 8 โมง ถึง 2 ทุ่ม สแกนใบหน้าหลายรอบ บางวันถึงตี 2 ก็มี คนอื่นที่ไปทำก็ล้วนเต็มใจ ไม่มีใครถูกบังคับ

          ป้าแล่มทำงานแบบนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน ก็ถูกส่งกลับไทย เพราะบัญชีถูกอายัด ไม่รู้เลยว่า สิ่งที่ทำอยู่นั้นเรียกว่าคอลเซ็นเตอร์ ได้เงินมา 5 พันบาท ถูกทางฝั่งนั้นโกง ได้เงินไม่ครบ แถมเสียค่าข้ามแดนกลับบ้าน 2,500 บาท สิ่งที่ทำนั้นไม่คุ้ม เสี่ยงถูกจับมาก ไม่เหมือนอย่างที่พูดไว้

แม่วัย 70 นั่งรถไปเปิดบัญชีถึงริมชายแดน ทรมานสังขาร

          ส่วนคุณแอ๋ว เล่าว่า คุณแม่วัย 70 ปี ก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกชวนเปิดบัญชีเช่นกัน แต่ด้วยความที่สแกนหน้าไม่ผ่าน ทำให้คุณแม่ไม่ได้ข้ามแดน ต้องติดอยู่ที่อรัญประเทศ 7 วัน ได้เงินมาเพียง 3-5 พันบาท ต้องรอกลุ่มทำบัญชีม้ากลุ่มใหม่มาแทนที่ถึงจะเดินทางกลับได้ ซึ่งคุณแม่ก็ลำบากมาก เพราะถูกยึดโทรศัพท์ ติดต่อใครไม่ได้

          อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นกรณีที่สแกนใบหน้าผ่าน ก็จะมีรถมารับหรือเดินเข้าป่าผ่านช่องทางธรรมชาติต่อ แล้วถ้าใครกลับมาแล้วอยากไปทำอีก ก็ต้องรออีก 6 เดือนถึงจะข้ามฝั่งกลับไปปอยเปตได้

          ส่วนการเดินทางไป ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกหลอก แม่เสนอตัวไปเอง เพราะคนในชุมชนนี้ค่อนข้างยากจน

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้