คดีฆาตกรรมปริศนา ถูกไขได้เพราะ Google Maps หลังแผนที่บันทึกภาพชอตสำคัญ ร่างผู้เสียชีวิตถูกยัดใส่ท้ายรถ
![ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps]( "ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps")
ภาพจาก Google Street View
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวน่าตกตะลึง เกี่ยวกับคดีความคดีหนึ่งในประเทศสเปน เมื่อทางตำรวจสามารถไขคดีปริศนาการฆาตกรรม "รักสามเส้า" ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยหลักฐานจากภาพถ่ายบนฟังก์ชัน Street View ใน Google Maps แสดงให้เห็นชอตสำคัญพอดิบพอดี ในขณะที่คนร้ายกำลังนำศพยัดใส่ท้ายรถ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ญาติของชายชาวคิวบารายหนึ่ง ชื่อย่อว่า JLPO อายุ 33 ปี ซึ่งอาศัยในเมืองซาราโกซา ตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ได้แจ้งความว่า JLPO หายตัวไป โดยลูกพี่ลูกน้องของ JLPO เผยว่า ได้รับข้อความสุดท้ายจากเขาส่งมาว่า กำลังไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง และตั้งใจจะทำลายโทรศัพท์ของเขาทิ้ง ซึ่งทางญาติคิดว่ามันดูน่าสงสัยผิดปกติ ลักษณะไม่เหมือนเขาพิมพ์เอง จึงได้แจ้งความกับตำรวจ
ทางตำรวจหน่วยสืบสวนได้ติดตามค้นหาตัว JLPO เป็นเวลาหลายเดือน รวมทั้งค้นหาทรัพย์สินต่าง ๆ ในเมืองโซเรีย รวมถึงการขุดค้นใกล้บ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง แต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ กระทั่งได้พบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจาก Google Street View
![ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps]( "ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps")
ภาพจาก Google Street View
ภาพที่ถูกบันทึกโดยกล้องของรถ Google Street View แสดงให้เห็นว่า มีชายรายหนึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตานำผ้าสีขาวที่ห่อมัด "อะไรบางอย่าง" ไว้ด้านในอย่างแน่นนหนา ยัดใส่ท้ายรถเก๋งสีแดงคันหนึ่ง ซึ่งกำลังจอดอยู่ที่ริมถนนในหมู่บ้านคาลลี เดล นอร์เต เขตตาฆูเอโก ของจังหวัดโซเรีย ประเทศสเปน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ภาพถ่ายดังกล่าวถูกบันทึกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ และผู้ที่ถูกบันทึกภาพก็ไม่รู้ตัว ซึ่งขณะนี้ภาพดังกล่าวก็ยังคงปรากฏอยู่ใน Google Street View อย่างไรก็ดี ภาพนี้ได้กลายมาเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญจนนำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม JLPO ผู้สูญหายและกลายเป็นผู้เสียชีวิตในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่พบศพของเขาในสภาพสยดสยอง ถูกชำแหละเป็นชิ้น ๆ
ศพของเหยื่อถูกพบในสุสานในเมืองอันดาลูซ เมื่อไม่นานมานี้ ในสภาพถูกตัดแยกชิ้นส่วน ซึ่งยังพบไม่ครบทั้งหมด มีช่วงแขนขาบางส่วนที่ยังหาไม่พบ โดยทางผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชได้ส่งไปที่สถาบันการแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งต้องใช้กระบวนที่มีความซับซ้อน เนื่องจากมีการเน่าเปื่อยมาก
![ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps]( "ฆาตกรรม ถูกไขปริศนาเพราะ Google Maps")
ภาพจาก Google Street View
จากการสืบสวนพบว่า JLPO ได้เดินทางไปที่จังหวัดโซเรีย เพื่อตามหาภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวคิวบาเช่นเดียวกัน เมื่อไปถึงเขาได้เห็นภรรยาของเขาคบชู้กับเพื่อนบ้านวัย 48 ปี ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่าชื่อ มานูเอล อิสลา กัลลาร์โด ซึ่งมีฉายาที่คนพื้นที่เรียกกันว่า หมาป่าแห่งตาฆูเอโก และเปิดบาร์ในพื้นที่ใกล้เคียง
จากการดักฟังเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า ทั้งภรรยาของ JLPO และกัลลาร์โด ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเขา โดยภายหลังจากการสืบสวนทำให้เชื่อได้ว่า ภรรยาของเขาและชายชู้ของเธอร่วมกันวางแผนฆาตกรรมดังกล่าว โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องรักสามเส้า
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทั้งสองตัวถูกจับกุมและอยู่ระหว่างควบคุมตัวชั่วคราวในระหว่างที่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป
หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยออกมา ชาวบ้านในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงต่างตกใจมาก กล่าวกันว่า "ไม่มีใครคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นที่นี่ได้ มันเป็นเมืองที่เงียบสงบมาก", "ที่เรียกกันว่า หมาป่าแห่ง ตาฆูเอโก เพราะเขาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวและมีปัญหาส่วนตัว ไม่คาดคิดว่าเขาจะก่อเหตุ", "ในรูปคิดว่าเป็นคนแบกฟืน ไม่คิดว่าจะมีศพอยู่ในท้ายรถด้วย"
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail
ภาพจาก Google Street View
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยเรื่องราวน่าตกตะลึง เกี่ยวกับคดีความคดีหนึ่งในประเทศสเปน เมื่อทางตำรวจสามารถไขคดีปริศนาการฆาตกรรม "รักสามเส้า" ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยหลักฐานจากภาพถ่ายบนฟังก์ชัน Street View ใน Google Maps แสดงให้เห็นชอตสำคัญพอดิบพอดี ในขณะที่คนร้ายกำลังนำศพยัดใส่ท้ายรถ
การสืบสวนหลงทาง
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ญาติของชายชาวคิวบารายหนึ่ง ชื่อย่อว่า JLPO อายุ 33 ปี ซึ่งอาศัยในเมืองซาราโกซา ตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ได้แจ้งความว่า JLPO หายตัวไป โดยลูกพี่ลูกน้องของ JLPO เผยว่า ได้รับข้อความสุดท้ายจากเขาส่งมาว่า กำลังไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง และตั้งใจจะทำลายโทรศัพท์ของเขาทิ้ง ซึ่งทางญาติคิดว่ามันดูน่าสงสัยผิดปกติ ลักษณะไม่เหมือนเขาพิมพ์เอง จึงได้แจ้งความกับตำรวจ
ทางตำรวจหน่วยสืบสวนได้ติดตามค้นหาตัว JLPO เป็นเวลาหลายเดือน รวมทั้งค้นหาทรัพย์สินต่าง ๆ ในเมืองโซเรีย รวมถึงการขุดค้นใกล้บ้านของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง แต่ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ กระทั่งได้พบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจาก Google Street View
ภาพจาก Google Street View
หลักฐานสำคัญ
ภาพที่ถูกบันทึกโดยกล้องของรถ Google Street View แสดงให้เห็นว่า มีชายรายหนึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตานำผ้าสีขาวที่ห่อมัด "อะไรบางอย่าง" ไว้ด้านในอย่างแน่นนหนา ยัดใส่ท้ายรถเก๋งสีแดงคันหนึ่ง ซึ่งกำลังจอดอยู่ที่ริมถนนในหมู่บ้านคาลลี เดล นอร์เต เขตตาฆูเอโก ของจังหวัดโซเรีย ประเทศสเปน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ภาพถ่ายดังกล่าวถูกบันทึกไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ และผู้ที่ถูกบันทึกภาพก็ไม่รู้ตัว ซึ่งขณะนี้ภาพดังกล่าวก็ยังคงปรากฏอยู่ใน Google Street View อย่างไรก็ดี ภาพนี้ได้กลายมาเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญจนนำไปสู่การไขคดีฆาตกรรม JLPO ผู้สูญหายและกลายเป็นผู้เสียชีวิตในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่พบศพของเขาในสภาพสยดสยอง ถูกชำแหละเป็นชิ้น ๆ
ศพของเหยื่อถูกพบในสุสานในเมืองอันดาลูซ เมื่อไม่นานมานี้ ในสภาพถูกตัดแยกชิ้นส่วน ซึ่งยังพบไม่ครบทั้งหมด มีช่วงแขนขาบางส่วนที่ยังหาไม่พบ โดยทางผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชได้ส่งไปที่สถาบันการแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งต้องใช้กระบวนที่มีความซับซ้อน เนื่องจากมีการเน่าเปื่อยมาก
ภาพจาก Google Street View
ไขคดี
จากการสืบสวนพบว่า JLPO ได้เดินทางไปที่จังหวัดโซเรีย เพื่อตามหาภรรยาของเขาซึ่งเป็นชาวคิวบาเช่นเดียวกัน เมื่อไปถึงเขาได้เห็นภรรยาของเขาคบชู้กับเพื่อนบ้านวัย 48 ปี ซึ่งสื่อท้องถิ่นระบุว่าชื่อ มานูเอล อิสลา กัลลาร์โด ซึ่งมีฉายาที่คนพื้นที่เรียกกันว่า หมาป่าแห่งตาฆูเอโก และเปิดบาร์ในพื้นที่ใกล้เคียง
จากการดักฟังเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลว่า ทั้งภรรยาของ JLPO และกัลลาร์โด ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเขา โดยภายหลังจากการสืบสวนทำให้เชื่อได้ว่า ภรรยาของเขาและชายชู้ของเธอร่วมกันวางแผนฆาตกรรมดังกล่าว โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องรักสามเส้า
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทั้งสองตัวถูกจับกุมและอยู่ระหว่างควบคุมตัวชั่วคราวในระหว่างที่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป
คดีสะเทือนขวัญ
หลังจากเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยออกมา ชาวบ้านในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียงต่างตกใจมาก กล่าวกันว่า "ไม่มีใครคิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นที่นี่ได้ มันเป็นเมืองที่เงียบสงบมาก", "ที่เรียกกันว่า หมาป่าแห่ง ตาฆูเอโก เพราะเขาใช้ชีวิตโดดเดี่ยวและมีปัญหาส่วนตัว ไม่คาดคิดว่าเขาจะก่อเหตุ", "ในรูปคิดว่าเป็นคนแบกฟืน ไม่คิดว่าจะมีศพอยู่ในท้ายรถด้วย"
ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail
