อส. ยิงในร้านข้าวต้ม สารภาพสาเหตุลั่นไกถล่มไม่เลือกหน้า เผยโมโหถูกต่อว่าทั้งที่ไม่ผิด พยานเล่านาทีจ่อยิงแม่ต่อหน้าลูก
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากข่าวสะเทือนขวัญ กรณี นายอัครพณธ์ เป็น อส.อ.หาดใหญ่ ก่อเหตุยิงในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังมีอาการมึนเมาและโมโหเด็กเสิร์ฟ ส่งผลให้ สามีภรรยา ซึ่งพาลูกมาฉลองวันเกิด เสียชีวิต 2 ราย นอกจากนี้เจ้าของร้านถูกยิงสาหัสด้วยนั้น
อ่านข่าว : เปิดโพสต์สุดท้าย พ่อ - ลูกชาย ถูก อส. บุกยิงดับในงานเลี้ยงวันเกิด ทั้งที่ไม่ได้บาดหมางอะไร
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การสารภาพ ระบุว่า เวลา 20.00 น. ก่อนเกิดเหตุ มานั่งกินข้าวที่ร้านดังกล่าวและพกเหล้าติดตัวมาด้วย จากนั้นมีเพื่อนผ่านมาจึงแวะไปทักทาย แต่พอกลับเข้ามาพนักงานได้เก็บโต๊ะอาหารไปแล้วทั้งที่ยังไม่ได้สั่งคิดเงิน จึงตัดสินใจไม่กินต่อและเช็กบิลกลับบ้าน
แต่ต่อมามีเพื่อนชวนออกไปข้างนอกจึงกลับไปนั่งกินข้าวรอที่ร้านเดิม ต่อมาเจ้าของร้านเข้ามาถามว่าทำไมต้องชักปืน ตนอธิบายไปว่าไม่ได้ชักปืน ให้ไปเช็กวงจรปิดได้เลย พอดูกล้องแล้วก็ไม่พบว่าตนชักปืนออกมา ตนก็ยังยกมือไหว้ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เจ้าของร้านก็ยังมาด่าทอ
ส่วนสามีภรรยาซึ่งเสียชีวิต นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เขาอ้างว่าเห็นตนชักปืนออกมา และจะไปเป็นพยานให้ จึงมีการด่าทอกัน ส่วนคนเจ็บอีกคนก็พยายามจะเข้ามาแล้วโทร. หาตำรวจ ตนมองว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร ทำไมต้องมาถูกด่าด้วย จึงโมโหแล้วใช้ปืนที่พกติดตัวมาไล่ยิงคนในร้าน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
หลังเกิดเหตุร่างของผู้เสียชีวิตสองรายถูกนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าบอนต่ำ จ.พัทลุง ซึ่งญาติ ๆ ต่างไม่คาดคิดว่าการที่ผู้ตายพาลูกชายไปฉลองวันเกิดที่ร้านข้าวต้มจะกลับกลายเป็นมือสุดท้าย
คนในที่เกิดเหตุเล่านาทีเดือด เผยประโยคสุดท้ายก่อจ่อยิงแม่ต่อหน้าลูก
ขณะที่มีรายงานจากผู้ที่คุยกับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุครอบครัวของผู้ตายเพิ่งกลับจากงานศพที่ จ.นครศรีธรรมราช มานอนพักที่บ้าน จากนั้นจึงพาลูกชายวัย 12 ปี ไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่ร้านข้าวต้ม โดย อส. พกปืนมาตั้งแต่รอบแรก พ่อเด็กสังเกตเห็นว่าพกปืนไว้ที่เอว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ก่อนที่คนก่อเหตุจะกลับมาพยายามสั่งเบียร์อีกรอบ แต่เจ้าของร้านไม่ขายให้ เห็นว่าคนก่อเหตุเมามาก จังหวะนั้นพ่อเด็กถามภรรยาว่าใช่คนที่พกปืนมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แม่เด็กก็ยืนยันว่าใช่ โดยคนก่อเหตุได้หันมาคุยกับพ่อเด็กว่าไม่ต้องหันมาดูหรอก กินข้าวกับครอบครัวของคุณไป พ่อเด็กก็ยังตอบว่า ครับ ๆ จังหวะนั้นฝนตกจึงย้ายเข้ามากินในร้าน
เจ้าของร้านกับเด็กเสิร์ฟจึงออกมาเคลียร์กับผู้ก่อเหตุ ถามว่าพกปืนมาหรือเปล่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่าที่หยิบออกมาคือมือถือ ไม่ใช่ปืน แต่เด็กเสิร์ฟยืนยันว่าเห็นปืน เช่นเดียวกับแม่เด็กที่เป็นพยานช่วยยืนยัน พร้อมบอกว่าเขาก็ด่าเธอด้วย คนก่อเหตุจึงพูดอีกครั้งว่าไม่ต้องมายุ่ง คุณกินข้าวกับครอบครัวไปเลย ขณะที่แม่เด็กมีปากเสียงเล็กน้อย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขอโทษตามโต๊ะ แล้วจึงมาที่โต๊ะครอบครัวนี้ แล้วพูดว่า พี่สาวพูดหรอยจังนะ แม่เด็กจึงตอบว่า ใช่ เป็นคนหรอย แล้วจากนั้นผู้ก่อเหตุก็คว้าปืนมาจ่อยิงแม่เด็กทันที
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากข่าวสะเทือนขวัญ กรณี นายอัครพณธ์ เป็น อส.อ.หาดใหญ่ ก่อเหตุยิงในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนนวลแก้วอุทิศ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา หลังมีอาการมึนเมาและโมโหเด็กเสิร์ฟ ส่งผลให้ สามีภรรยา ซึ่งพาลูกมาฉลองวันเกิด เสียชีวิต 2 ราย นอกจากนี้เจ้าของร้านถูกยิงสาหัสด้วยนั้น
อ่านข่าว : เปิดโพสต์สุดท้าย พ่อ - ลูกชาย ถูก อส. บุกยิงดับในงานเลี้ยงวันเกิด ทั้งที่ไม่ได้บาดหมางอะไร
วันที่ 24 ธันวาคม 2567 รายการเรื่องเช่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (23 ธันวาคม) ตำรวจตัดสินใจยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุมีชาวบ้านมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก หวั่นว่าผู้ก่อเหตุจะถูกรุมประชาทัณฑ์
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การสารภาพ ระบุว่า เวลา 20.00 น. ก่อนเกิดเหตุ มานั่งกินข้าวที่ร้านดังกล่าวและพกเหล้าติดตัวมาด้วย จากนั้นมีเพื่อนผ่านมาจึงแวะไปทักทาย แต่พอกลับเข้ามาพนักงานได้เก็บโต๊ะอาหารไปแล้วทั้งที่ยังไม่ได้สั่งคิดเงิน จึงตัดสินใจไม่กินต่อและเช็กบิลกลับบ้าน
แต่ต่อมามีเพื่อนชวนออกไปข้างนอกจึงกลับไปนั่งกินข้าวรอที่ร้านเดิม ต่อมาเจ้าของร้านเข้ามาถามว่าทำไมต้องชักปืน ตนอธิบายไปว่าไม่ได้ชักปืน ให้ไปเช็กวงจรปิดได้เลย พอดูกล้องแล้วก็ไม่พบว่าตนชักปืนออกมา ตนก็ยังยกมือไหว้ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่เจ้าของร้านก็ยังมาด่าทอ
ส่วนสามีภรรยาซึ่งเสียชีวิต นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ เขาอ้างว่าเห็นตนชักปืนออกมา และจะไปเป็นพยานให้ จึงมีการด่าทอกัน ส่วนคนเจ็บอีกคนก็พยายามจะเข้ามาแล้วโทร. หาตำรวจ ตนมองว่าตัวเองไม่ได้ผิดอะไร ทำไมต้องมาถูกด่าด้วย จึงโมโหแล้วใช้ปืนที่พกติดตัวมาไล่ยิงคนในร้าน
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
หลังเกิดเหตุร่างของผู้เสียชีวิตสองรายถูกนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าบอนต่ำ จ.พัทลุง ซึ่งญาติ ๆ ต่างไม่คาดคิดว่าการที่ผู้ตายพาลูกชายไปฉลองวันเกิดที่ร้านข้าวต้มจะกลับกลายเป็นมือสุดท้าย
ขณะที่มีรายงานจากผู้ที่คุยกับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุครอบครัวของผู้ตายเพิ่งกลับจากงานศพที่ จ.นครศรีธรรมราช มานอนพักที่บ้าน จากนั้นจึงพาลูกชายวัย 12 ปี ไปเลี้ยงฉลองวันเกิดที่ร้านข้าวต้ม โดย อส. พกปืนมาตั้งแต่รอบแรก พ่อเด็กสังเกตเห็นว่าพกปืนไว้ที่เอว
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ก่อนที่คนก่อเหตุจะกลับมาพยายามสั่งเบียร์อีกรอบ แต่เจ้าของร้านไม่ขายให้ เห็นว่าคนก่อเหตุเมามาก จังหวะนั้นพ่อเด็กถามภรรยาว่าใช่คนที่พกปืนมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แม่เด็กก็ยืนยันว่าใช่ โดยคนก่อเหตุได้หันมาคุยกับพ่อเด็กว่าไม่ต้องหันมาดูหรอก กินข้าวกับครอบครัวของคุณไป พ่อเด็กก็ยังตอบว่า ครับ ๆ จังหวะนั้นฝนตกจึงย้ายเข้ามากินในร้าน
เจ้าของร้านกับเด็กเสิร์ฟจึงออกมาเคลียร์กับผู้ก่อเหตุ ถามว่าพกปืนมาหรือเปล่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่าที่หยิบออกมาคือมือถือ ไม่ใช่ปืน แต่เด็กเสิร์ฟยืนยันว่าเห็นปืน เช่นเดียวกับแม่เด็กที่เป็นพยานช่วยยืนยัน พร้อมบอกว่าเขาก็ด่าเธอด้วย คนก่อเหตุจึงพูดอีกครั้งว่าไม่ต้องมายุ่ง คุณกินข้าวกับครอบครัวไปเลย ขณะที่แม่เด็กมีปากเสียงเล็กน้อย
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ขอโทษตามโต๊ะ แล้วจึงมาที่โต๊ะครอบครัวนี้ แล้วพูดว่า พี่สาวพูดหรอยจังนะ แม่เด็กจึงตอบว่า ใช่ เป็นคนหรอย แล้วจากนั้นผู้ก่อเหตุก็คว้าปืนมาจ่อยิงแม่เด็กทันที
ยายของเด็กทั้งสองคน ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ เป็นห่วงจิตใจของเด็กทั้งสองคน
จากนี้จะดูแลเด็กเอง โดยรอให้หลานคนโตเรียนจบ ม.3 ก่อน จึงให้ย้ายมาที่
จ.พัทลุง ซึ่งจะให้น้าเป็นคนดูแล ส่วนคนเล็กก็จะพากลับมาดูแลที่ จ.พัทลุง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้ ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้