สาวจ่ายเงิน 2 แสน มัดจำซื้อรถ ลืมหายไป 8 ปีเพิ่งกลับมาซื้อ ร้านบอกต้องจ่ายชดเชย กลายเป็นประเด็นถกเดือด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ Kenh14 เผยว่า มีประเด็นที่ถกเถียงร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของจีน ภายหลังจากสื่อนำเสนอรายงานเกี่ยวกับหญิงรายหนึ่งชื่อสกุลเผิง เธออ้างว่าได้จ่ายเงินไปกว่า 2 แสน เป็นค่ามัดจำซื้อรถ BMW แต่ดัน "ลืม" ไปนานถึง 8 ปี ก่อนที่อยู่ ๆ จะจำได้ขึ้นมา จึงจะกลับมาซื้อใหม่ แต่ทางร้านบอกว่า เงินมัดจำกลายเป็นเงินค่าชดเชยที่เธอต้องจ่าย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2567 เผิงตั้งใจไปซื้อรถยนต์ BMW ที่ร้านจำหน่ายในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน โดยเธอได้จ่ายค่ามัดจำไปแล้วเป็นจำนวน 50,000 หยวน (ราว 233,000 บาท) แต่ทางร้านแจ้งว่ารุ่นที่เธอต้องการยังไม่มี ให้เธอกลับมาใหม่ ทว่าจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เธอจำเป็นต้องใช้เงินในธุรกิจของเธอ ทำให้ไม่เหลือเงินซื้อรถ เธอจึงติดต่อไปที่ร้านรถยนต์ ซึ่งในขณะนั้นพนักงานแจ้งว่า เธอสามารถกลับมารับรถและจ่ายเงินส่วนที่เหลือได้ทุกเมื่อ
แต่ปรากฏว่าหลังจากนั้น
เผิงก็มีเรื่องราวมากมายในชีวิตให้ต้องเผชิญ
ทำให้เธอลืมเรื่องเงินค่ามัดจำรถไปเสียสนิท จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานถึง 8 ปี
วันหนึ่งเธอดันจำเรื่องนี้ได้ขึ้นมา
และตอนนั้นเธอก็มีเงินเหลือเพียงพอที่จะซื้อรถยนต์คันนั้น
เธอจึงติดต่อกลับไปที่ร้านจำหน่ายแห่งเดิม แต่คราวนี้ทางพนักงานกลับแจ้งว่า
เธอไม่สามารถใช้เงินมัดจำนั้นได้
เนื่องจากถูกนำไปหักจากค่าชดเชยการผิดสัญญาไปแล้ว
ตามสัญญาการซื้อขายต้นฉบับของทางร้าน ระบุว่า "หลังจากครบกำหนดรับรถแล้ว หากผู้ซื้อชำระเงินค่ารถล่าช้า ในแต่ละวันทางร้านมีสิทธิ์เรียกร้องค่าชดเชย 0.05 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารถ" ดังนั้นในกรณีนี้ เงินมัดจำของเผิงจึงถูกหักไปทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเธอลืมซื้อรถภายในระยะเวลาการชำระเงินตามที่กำหนด
เผิงนำเรื่องราวนี้มาโพสต์แชร์ทางโซเชียลมีเดียเพื่อขอความเห็นจากชาวเน็ต พร้อมทั้งถามว่าควรจะทำอย่างไรดี หลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ มีผู้แสดงความคิดเห็นจากมุมมองทางกฎหมายกล่าวว่า สัญญาการซื้อขายมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทั้งของผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งพวกเขาต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นการกระทำของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวจึงถือว่าสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมองว่าทางร้านไม่ผิด แต่บางส่วนก็ตำหนิที่ทางร้านเฉยเมยต่อลูกค้า ไม่แจ้งเตือนเรื่องกำหนดชำระเงินและการรับสินค้า ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่พนักงานแจ้งว่า "สามารถมารับรถได้ทุกเมื่อ" อาจจะทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดได้ แต่ในขณะเดียวกัน ชาวเน็ตอีกส่วนก็ไม่เชื่อว่า ลูกสาวรายนี้จะลืมเงินมัดจำจำนวนมากเช่นนี้ไปนานถึง 8 ปี
หลังจากเรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างดุเดือด ทางตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้ติดต่อไปหาเผิง และตกลงที่จะขยายสิทธิ์ในการใช้เงินมัดจำของเธอออกไปอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งหมายความว่า เธอสามารถชำระเงินค่าซื้อที่เหลือเพื่อรับรถได้ แต่ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ พร้อมทั้งกล่าวว่าจะปรับปรุงการบริการและการจัดการลูกค้า เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในครั้งต่อไป
ด้วยการแก้ปัญหาเช่นนี้ ทางร้านจึงได้รับคำชมและผลตอบรับทางบวก ส่วนทางด้านเผิง เธอได้ฝากเรื่องราวของเธอเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนให้คนอื่น ๆ ได้พิจารณาอ่านเงื่อนไขของสัญญาอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะเซ็นลงไป และหากเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา ให้ติดต่อทำความเข้าใจกับทางผู้ขายอย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงและแก้ปัญหากันได้ตั้งแต่ต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Kenh14
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2567 เผิงตั้งใจไปซื้อรถยนต์ BMW ที่ร้านจำหน่ายในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน โดยเธอได้จ่ายค่ามัดจำไปแล้วเป็นจำนวน 50,000 หยวน (ราว 233,000 บาท) แต่ทางร้านแจ้งว่ารุ่นที่เธอต้องการยังไม่มี ให้เธอกลับมาใหม่ ทว่าจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ เธอจำเป็นต้องใช้เงินในธุรกิจของเธอ ทำให้ไม่เหลือเงินซื้อรถ เธอจึงติดต่อไปที่ร้านรถยนต์ ซึ่งในขณะนั้นพนักงานแจ้งว่า เธอสามารถกลับมารับรถและจ่ายเงินส่วนที่เหลือได้ทุกเมื่อ
ตามสัญญาการซื้อขายต้นฉบับของทางร้าน ระบุว่า "หลังจากครบกำหนดรับรถแล้ว หากผู้ซื้อชำระเงินค่ารถล่าช้า ในแต่ละวันทางร้านมีสิทธิ์เรียกร้องค่าชดเชย 0.05 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารถ" ดังนั้นในกรณีนี้ เงินมัดจำของเผิงจึงถูกหักไปทั้งหมดแล้ว เนื่องจากเธอลืมซื้อรถภายในระยะเวลาการชำระเงินตามที่กำหนด
เผิงนำเรื่องราวนี้มาโพสต์แชร์ทางโซเชียลมีเดียเพื่อขอความเห็นจากชาวเน็ต พร้อมทั้งถามว่าควรจะทำอย่างไรดี หลังจากนั้นไม่นานก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ มีผู้แสดงความคิดเห็นจากมุมมองทางกฎหมายกล่าวว่า สัญญาการซื้อขายมีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทั้งของผู้ขายและผู้ซื้อ ซึ่งพวกเขาต้องปฏิบัติตาม ดังนั้นการกระทำของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวจึงถือว่าสมเหตุสมผล
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมองว่าทางร้านไม่ผิด แต่บางส่วนก็ตำหนิที่ทางร้านเฉยเมยต่อลูกค้า ไม่แจ้งเตือนเรื่องกำหนดชำระเงินและการรับสินค้า ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่พนักงานแจ้งว่า "สามารถมารับรถได้ทุกเมื่อ" อาจจะทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดได้ แต่ในขณะเดียวกัน ชาวเน็ตอีกส่วนก็ไม่เชื่อว่า ลูกสาวรายนี้จะลืมเงินมัดจำจำนวนมากเช่นนี้ไปนานถึง 8 ปี
หลังจากเรื่องราวนี้กลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงอย่างดุเดือด ทางตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้ติดต่อไปหาเผิง และตกลงที่จะขยายสิทธิ์ในการใช้เงินมัดจำของเธอออกไปอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งหมายความว่า เธอสามารถชำระเงินค่าซื้อที่เหลือเพื่อรับรถได้ แต่ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ พร้อมทั้งกล่าวว่าจะปรับปรุงการบริการและการจัดการลูกค้า เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในครั้งต่อไป
ด้วยการแก้ปัญหาเช่นนี้ ทางร้านจึงได้รับคำชมและผลตอบรับทางบวก ส่วนทางด้านเผิง เธอได้ฝากเรื่องราวของเธอเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนให้คนอื่น ๆ ได้พิจารณาอ่านเงื่อนไขของสัญญาอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะเซ็นลงไป และหากเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นมา ให้ติดต่อทำความเข้าใจกับทางผู้ขายอย่างชัดเจน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงและแก้ปัญหากันได้ตั้งแต่ต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก Kenh14