หมอเปิดเคสเตือนใจ สาวกลืนลำบาก - มีแผลพองในหลอดอาหาร สาเหตุสุดใกล้ตัว หลายคนมองข้าม เป็นนิสัยตอนกินยา เกิดขึ้นได้จากคนทุกวัย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก 張靖醫師 胃腸肝膽。靖心靖力 守護健康
วันที่ 2 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Sinchew รายงานว่า ดร.จาง จิ้ง
แพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ในไต้หวัน
ออกมาเผยเคสอุทาหรณ์เตือนใจภัยใกล้ตัวที่หลายคนคิดไม่ถึงขณะกินยา
ทำให้ผู้ป่วยหญิงวัย 30 ปี เกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบ มีแผลในหลอดอาหาร
โดยสาเหตุนั้นเกิดจากสิ่งที่หลาย ๆ คนมองข้าม
และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย
ดร.จาง จิ้ง เปิดเผยว่า ผู้ป่วยหญิงรายนี้มาพบแพทย์หูคอจมูก ด้วยอาการกลืนลำบาก แต่เมื่อแพทย์ส่องกล้องตรวจกล่องเสียงก็ไม่พบความปิดปกติใด ๆ จึงซักถามประวัติเพิ่มเติม และพบว่าเธอเพิ่งกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการทางผิวหนัง แพทย์จึงสงสัยว่าเธออาจเป็นโรคหลอดอาหารอักเสบจากยาที่กินไป จึงทำการส่องกล้องกระเพาะอาหารทันที และพบว่าผู้ป่วยมีแผลพุพองเป็นวงกว้างภายในหลอดอาหารส่วนกลางและส่วนปลาย
สำหรับสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดแผลพุพองในหลอดอาหารแบบนี้ มักเกิดจากยาไปเกาะติดกับเยื่อบุหลอดอาหาร จนหลอดอาหารเกิดการอักเสบหรือถึงขั้นเป็นแผล ส่วนใหญ่มักเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอตอนกินยา หรือเอนตัวนอนลงทันทีหลังกินยา
ทั้งนี้ หลังจากส่องกล้องและจ่ายยาให้ผู้ป่วยแล้ว แพทย์ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อควรระวังในการกินยา เพื่อลดความเสียหายที่จะตามมาจากแผลในหลอดอาหารด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก 張靖醫師 胃腸肝膽。靖心靖力 守護健康
ในการสัมภาษณ์กับ ETtoday ดร.จาง จิ้ง เปิดเผยว่า อุบัติการณ์ของโรคหลอดอาหารอักเสบจากยาที่กินเข้าไปนี้ เกิดขึ้นกับ 3.9 คน ต่อ 100,000 คน นับเป็นอาการที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่ก็เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ส่วนมากมักพบในผู้หญิง ผู้สูงอายุ และเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย
แม้ว่าการกลืนยาบางชนิดจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เจอโรคดังกล่าวมากกว่ายาทั่ว ๆ ไป แต่ ดร.จาง จิ้ง ย้ำว่า สาเหตุหลัก ๆ ยังเกิดจากนิสัยในการกินยา
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่คนควรทำหลังกินยา คือ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ราว 200 - 250 ซีซี และทำให้ร่างกายตั้งตรงอีกสักระยะหนึ่ง ราว 30 นาที หลังกินยา ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดหลอดอาหารอักเสบจากยาที่กินเข้าไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ