ลูกแชร์คุ้นหน้า แม่กานต์ผัวซ้อมเมีย หลังพาลูกเข้ามอบตัว พบคือเท้าแชร์ที่หนีไปกว่า 2 ปี เสียหายกว่า 2 แสนบาท วอนกลับมาใช้เงินคืน
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากกรณี คุณนิก อดีตภรรยา แฉพฤติกรรม นายกานต์ สามีอายุ 24 ปี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งชกเตะต่อยจนได้รับบาดเจ็บหนัก โดยได้อัดคลิปขณะถูกทำร้ายไว้เป็นหลักฐานพร้อมเข้าแจ้งความ ซึ่งต่อมา น.ส.กาญจนา อายุ 42 ปี ได้พาตัวนายกานต์ ลูกชาย มามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองชุมพร หลังจากที่นายกานต์ หลบหนีไปบ้านแม่ซึ่งเปิดร้านทำเล็บอยู่ที่ จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ คุณนิก ยังได้แจ้งเอาผิด น.ส.กาญจนา ผู้เป็นแม่ ในข้อหาข่มขู่จนให้เกิดความหวาดกลัวด้วย โดยต่อมา คุณนิก เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส พบว่านอกจากจะทนทุกข์กับสามีที่ชอบใช้ความรุนแรง หนึ่งในสิ่งที่สุดทนคือพฤติกรรมของ น.ส.กาญจนา ผู้เป็นอดีตแม่สามี ที่ตามเฝ้าลูกชายไม่ห่าง ซ้ำยังเพิกเฉยต่อความรุนแรงที่ลูกชายกระทำต่อภรรยา จนเมียเก่าแท้งลูกแล้ว 2 คนอีกด้วย
อ่านข่าว : สาวโดนผัวซ้อม แฉต้องใช้ชีวิต 3 คนกับแม่ผัว ดูหนังต้องพาแม่ไป-นอนห้องเดียวกัน !?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (5 มกราคม
2568) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ผู้เสียหายบางส่วนออกมาตีแผ่พฤติกรรมของ
น.ส.กาญจนา ซึ่งเป็นเจ้าแม่วงแชร์ในพื้นที่ จ.ชุมพร
แต่กลับหนีวงแชร์จนเกิดความเสียหายไปนาน 2 ปี โดยไปเปิดร้านทำเล็บที่
จ.ภูเก็ต ก่อนจะมาเจอตัวอีกครั้งเมื่อตกเป็นข่าวพาลูกชายซ้อมเมียเข้ามอบตัว
น.ส.รพีพรรณ อายุ 50 ปี พร้อม น.ส.ชนกานต์ อายุ 47 ปี ผู้เสียหาย นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินและการเจรจาพูดคุยกับ น.ส.กาญจนา มาเปิดเผย พร้อมเล่าว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564 ได้รู้จักกับ น.ส.กาญจนา จากกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ร่วมวงเงินแชร์กัน โดยแนะนำว่า น.ส.กาญจนา เป็นเท้าแชร์ที่มีคนเล่นเยอะ มีทั้งรายเดือน ราย 10 วัน ไปจนถึงรายสัปดาห์ และแต่ละวงจะกำหนดไม่เกิน 30,000 บาท จึงเห็นว่าน่าสนใจ และได้ร่วมลงเล่นแชร์ไปด้วย
ผู้เสียหายเผยว่า แชร์ของ น.ส.กาญจนา งวดแรกเท้าแชร์จะได้ก่อนโดยไม่เสียดอก เมื่อเข้างวดที่สอง น.ส.กาญจนา จะเป็นผู้ที่กำหนดเรตของเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด หากใครต้องการเงิน เช่น วง 30,000 บาท ก็จะต้องส่งเดือนละ 2,800 บาทต่อครั้ง ซึ่งเมื่อบวกลบกันแล้ว เมื่อส่งจนหมดครบถึงปิดมือสุดท้าย มือต้น ๆ ที่ต้องการเงินก็จะเสียดอกไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งก็จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเงินหมุน แต่คนที่อยู่งวดท้ายจะได้ดอกดี ช่วงแรก ๆ เท้าจ่ายตรง จึงตัดสินใจลงทุนลงเงินกับ น.ส.กาญจนา เล่นไว้หลายวง หลายมือ
แต่ระยะหลัง ๆ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2565 น.ส.กาญจนา เริ่มออกอาการไม่ดี จ่ายเงินไม่ครบ ผิดนัดจ่ายลูกแชร์บ่อยครั้ง หลายวง หลายมือ พอทักท้วงไป ทั้งโทร. ทั้งทักในกลุ่มวงแชร์ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนจะไม่สามารถติดได้ทุกช่องทาง เบื้องต้นมีหลักฐานจากผู้เสียหาย 4 คน เป็นเอกสารการโอนเงินในการส่งแชร์แต่ละงวดให้กับ น.ส.กาญจนา และหลักฐานการเจรจาพูดคุยกันระหว่างลูกแชร์กับเท้าแชร์ ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565
หลังจากที่ น.ส.กาญจนา หนีแชร์ไป ไม่สามารถติดต่อทุกช่องทาง ลูกแชร์ต่างเริ่มหมดความหวังที่จะได้เงินคืน เฉพาะของพวกตน 5 คน เกือบ 200,000 บาท แต่เหมือนฟ้ามีตา หลังมีประเด็นผัวทุบตีเมียกลายเป็นข่าวดัง และต่อมา แม่ของผู้ชาย พาตัวลูกชายมามอบตัวกับตำรวจ จึงทราบว่าหญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.กาญจนา ซึ่งมีชื่อตรงกับเท้าแชร์ที่โกงและหนีไปร่วม 2 ปี
หลังปรากฏข่าวดังกล่าว จึงสอบถามไปที่ คุณนิก และได้รับการยืนยันว่า น.ส.กาญจนา คืออดีตแม่สามีในข่าวจริง ตรงกับไทม์ไลน์ที่เท้าแชร์หนีจากชุมพรไปเปิดร้านทำเล็บที่ จ.ภูเก็ต จึงอยากวอนให้ น.ส.กาญจนา กลับมาเจรจารับผิดชอบ ตอนนี้ขอเพียงได้เงินต้นคืน ไม่ต้องการดอกเบี้ย หากได้รับเงินคืนทุกคนก็ยินดีจะถอนฟ้องให้ แม้อีกฝ่ายจะยื่นคำขาดว่าใครฟ้องจะไม่จ่าย อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอา พวกตนมองว่าอยากให้ศาลเป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าเลือกได้ก็ต้องการให้จบด้วยดีกันดีกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
ภาพจาก เที่ยงวันทันเหตุการณ์
จากกรณี คุณนิก อดีตภรรยา แฉพฤติกรรม นายกานต์ สามีอายุ 24 ปี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายทั้งชกเตะต่อยจนได้รับบาดเจ็บหนัก โดยได้อัดคลิปขณะถูกทำร้ายไว้เป็นหลักฐานพร้อมเข้าแจ้งความ ซึ่งต่อมา น.ส.กาญจนา อายุ 42 ปี ได้พาตัวนายกานต์ ลูกชาย มามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองชุมพร หลังจากที่นายกานต์ หลบหนีไปบ้านแม่ซึ่งเปิดร้านทำเล็บอยู่ที่ จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ คุณนิก ยังได้แจ้งเอาผิด น.ส.กาญจนา ผู้เป็นแม่ ในข้อหาข่มขู่จนให้เกิดความหวาดกลัวด้วย โดยต่อมา คุณนิก เปิดใจผ่านรายการโหนกระแส พบว่านอกจากจะทนทุกข์กับสามีที่ชอบใช้ความรุนแรง หนึ่งในสิ่งที่สุดทนคือพฤติกรรมของ น.ส.กาญจนา ผู้เป็นอดีตแม่สามี ที่ตามเฝ้าลูกชายไม่ห่าง ซ้ำยังเพิกเฉยต่อความรุนแรงที่ลูกชายกระทำต่อภรรยา จนเมียเก่าแท้งลูกแล้ว 2 คนอีกด้วย
อ่านข่าว : สาวโดนผัวซ้อม แฉต้องใช้ชีวิต 3 คนกับแม่ผัว ดูหนังต้องพาแม่ไป-นอนห้องเดียวกัน !?
น.ส.รพีพรรณ อายุ 50 ปี พร้อม น.ส.ชนกานต์ อายุ 47 ปี ผู้เสียหาย นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการโอนเงินและการเจรจาพูดคุยกับ น.ส.กาญจนา มาเปิดเผย พร้อมเล่าว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2564 ได้รู้จักกับ น.ส.กาญจนา จากกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ร่วมวงเงินแชร์กัน โดยแนะนำว่า น.ส.กาญจนา เป็นเท้าแชร์ที่มีคนเล่นเยอะ มีทั้งรายเดือน ราย 10 วัน ไปจนถึงรายสัปดาห์ และแต่ละวงจะกำหนดไม่เกิน 30,000 บาท จึงเห็นว่าน่าสนใจ และได้ร่วมลงเล่นแชร์ไปด้วย
ผู้เสียหายเผยว่า แชร์ของ น.ส.กาญจนา งวดแรกเท้าแชร์จะได้ก่อนโดยไม่เสียดอก เมื่อเข้างวดที่สอง น.ส.กาญจนา จะเป็นผู้ที่กำหนดเรตของเงินที่จะต้องจ่ายแต่ละงวด หากใครต้องการเงิน เช่น วง 30,000 บาท ก็จะต้องส่งเดือนละ 2,800 บาทต่อครั้ง ซึ่งเมื่อบวกลบกันแล้ว เมื่อส่งจนหมดครบถึงปิดมือสุดท้าย มือต้น ๆ ที่ต้องการเงินก็จะเสียดอกไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งก็จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการเงินหมุน แต่คนที่อยู่งวดท้ายจะได้ดอกดี ช่วงแรก ๆ เท้าจ่ายตรง จึงตัดสินใจลงทุนลงเงินกับ น.ส.กาญจนา เล่นไว้หลายวง หลายมือ
แต่ระยะหลัง ๆ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2565 น.ส.กาญจนา เริ่มออกอาการไม่ดี จ่ายเงินไม่ครบ ผิดนัดจ่ายลูกแชร์บ่อยครั้ง หลายวง หลายมือ พอทักท้วงไป ทั้งโทร. ทั้งทักในกลุ่มวงแชร์ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ก่อนจะไม่สามารถติดได้ทุกช่องทาง เบื้องต้นมีหลักฐานจากผู้เสียหาย 4 คน เป็นเอกสารการโอนเงินในการส่งแชร์แต่ละงวดให้กับ น.ส.กาญจนา และหลักฐานการเจรจาพูดคุยกันระหว่างลูกแชร์กับเท้าแชร์ ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชุมพร เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565
หลังจากที่ น.ส.กาญจนา หนีแชร์ไป ไม่สามารถติดต่อทุกช่องทาง ลูกแชร์ต่างเริ่มหมดความหวังที่จะได้เงินคืน เฉพาะของพวกตน 5 คน เกือบ 200,000 บาท แต่เหมือนฟ้ามีตา หลังมีประเด็นผัวทุบตีเมียกลายเป็นข่าวดัง และต่อมา แม่ของผู้ชาย พาตัวลูกชายมามอบตัวกับตำรวจ จึงทราบว่าหญิงคนดังกล่าวคือ น.ส.กาญจนา ซึ่งมีชื่อตรงกับเท้าแชร์ที่โกงและหนีไปร่วม 2 ปี
หลังปรากฏข่าวดังกล่าว จึงสอบถามไปที่ คุณนิก และได้รับการยืนยันว่า น.ส.กาญจนา คืออดีตแม่สามีในข่าวจริง ตรงกับไทม์ไลน์ที่เท้าแชร์หนีจากชุมพรไปเปิดร้านทำเล็บที่ จ.ภูเก็ต จึงอยากวอนให้ น.ส.กาญจนา กลับมาเจรจารับผิดชอบ ตอนนี้ขอเพียงได้เงินต้นคืน ไม่ต้องการดอกเบี้ย หากได้รับเงินคืนทุกคนก็ยินดีจะถอนฟ้องให้ แม้อีกฝ่ายจะยื่นคำขาดว่าใครฟ้องจะไม่จ่าย อยากได้ให้ไปฟ้องศาลเอา พวกตนมองว่าอยากให้ศาลเป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าเลือกได้ก็ต้องการให้จบด้วยดีกันดีกว่า