เพื่อนบ้านกั้นทางเข้า-ออก แห่ลังเลใครผิด กรรชัย ได้รู้อีกมุมรีบเบรก ขอรถทัวร์อย่าเพิ่งจอด

           จากกรณีที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ร้องเรียนเรื่องราวความเดือดร้อน หลังมีคุณยายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านนำรั้วสังกะสีและสิ่งก่อสร้างมากีดขวางปิดทางเข้า-ออกบ้านของเธอ หลังจากเธอร้องศาล และศาลก็มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินแล้วว่าให้รื้อถอนสิ่งกีดขวางออก แต่คุณยายเจ้าของที่ดินกลับเมินคำสั่งศาล ไม่ยอมทำตาม ล่าสุด แม่ของผู้ร้องเรียน ความดันตก ต้องหามส่งโรงพยาบาลกลางดึกอย่างทุลักทุเล ต้องใช้วิธีการมุดรูกำแพงหลังบ้านนั้น


           ตลอด 2 ปีที่อยู่มา คุณดา ไม่เคยได้ติดต่อพูดคุยกับป้าสมศรีเลย จนกระทั่งไม่นานนี้ อีกฝ่ายนำสังกะสีมาปิดทางเข้า-ออก ซึ่งบอกว่าจะเอาที่ดินตรงนี้ไปก่อสร้างอาคารสำหรับให้เช่าเป็นที่จอดรถ ทั้งสองฝ่ายจึงเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยกันที่โรงพัก ครั้งนั้นผู้กำกับเสนอว่า ระหว่างรอศาลตัดสิน ให้ทางคุณดาจ่ายค่าเช่าที่ดินเพื่อให้ใช้ทางเข้า-ออกก่อน แต่คุณป้าไม่ยอม เพราะยังไงก็จะใช้ที่ดินตรงนี้ก่อสร้างที่จอดรถ

           เมื่อวันที่ 6 มกราคม ป้าสมศรี นำสังกะสีมาปิดทางเข้า-ออก ทำให้วันที่ 7 มกราคม คุณดาไปร้องต่อศาล ขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งศาลมีคำสั่งในวันเดียวกันนั้นเลย สั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้ทางป้าสมศรี รื้อสังกะสีออกก่อน ระหว่างที่รอมีคำตัดสินในเรื่องสิทธิ์ โดยค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนป้าจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบเอง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเอาออก

           ปรากฏว่า หลังจากคุยเรื่องราวนี้มาได้กว่าครึ่งรายการ พบว่าความเห็นของคนดูแตกออกเป็น 2 ฝ่าย มีทั้งเห็นใจเพื่อนบ้านที่ทำเกินไป แต่ฝ่ายหนึ่งก็มองว่า คุณป้าเพื่อนบ้าน มีสิทธิ์ในที่ดินของตัวเอง การที่คุณดาจะอ้างว่าอยู่มา 2 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยต้องจ่ายเงิน มันอ้างไม่ได้

คนในพื้นที่เล่า ที่แท้ป้าสมศรีแบ่งขายที่ในอดีต แต่กั้นแนวไว้ปิดทางเข้า-ออก ตั้งแต่แรก

           อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามในพื้นที่ซึ่งอยู่บริเวณนี้มาก่อนคุณดา เผยว่า ตลอด 40 ปี มันเริ่มจากทั้งหมดนี้คือที่ดินแปลงใหญ่ที่เคยเป็นของสามีป้าสมศรี ก่อนที่ป้าสมศรีจะตัดแบ่งที่ดินขายคนอื่น ๆ ดังนั้นเจ้าตัวต้องรู้อยู่แล้วว่า ที่ดินทุกแปลงที่ขาย ไม่มีทางเข้า-ออก เนื่องจากคุณป้าจะเหลือที่ดินของตัวเองไว้ขวางทางออกของทุกแปลงเอาไว้

           แม้กระทั่งทางเข้า-ออกของหมู่บ้านหรู ที่เป็นทางหลักเข้าหมู่บ้าน ก็ยังต้องยอมซื้อจากป้าสมศรีในราคา 2 ล้าน ซึ่งไม่ใช่ทางตรง เป็นทางอ้อมลักษณะเป็นตัว L ส่วนที่ดินที่เป็นปัญหาในเคสนี้ มีการพูดกันว่า ป้าเจ้าของที่หวังที่จะขายให้หมู่บ้าน โดยตั้งราคาไว้ถึง 100 ล้านบาท เพื่อให้เป็นทางเข้า-ออก โดยตรงไม่ต้องอ้อม แต่หมู่บ้านมองว่าแพงไป

           เรื่องนี้ทำเอา หนุ่ม กรรชัย หรือ พี่หน่วง ต้องบอกนักเรียนในห้องโหนกระแสว่า รถทัวร์ให้จอดก่อน เนื่องจากเคสนี้คดีพลิกทั้งหมด หลังความจริงปรากฏว่า ป้าเพื่อนบ้านรู้ตั้งแต่ก่อนจะขายแล้วว่า ที่ดินไม่มีทางเข้า-ออก และจงใจเว้นที่ดินของตัวเองล้อมรอบไว้หมด ใครจะเข้า-ออกต้องมาซื้อที่ดินของป้าตรงทางเข้า-ออกเท่านั้น