จัดงานฉลองครบเดือนให้หลาน หญิงหน้าใหญ่ เชิญแขก 50 คน เป็นเพื่อนร่วมงานเก่า อึ้งมาจริงแค่คนเดียว แถมรีบร้อนกลับ รู้เหตุผลทำหน้าชา ได้แต่โทษตัวเอง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
วันที่ 17 มกราคม 2568 เว็บไซต์ Soha รายงานเรื่องราวของ นางหลี่ หญิงวัย 53 ปี ซึ่งเคยมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้อำนวยการของบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก เธอเป็นผู้บริหารหญิงที่ได้รับการยอมรับในการทำงานที่เด็ดขาด จริงจัง เข้มงวดกับลูกน้อง ทำให้เป็นที่รักและเคารพของเพื่อนร่วมงานกับลูกน้องมากมาย อย่างไรก็ตาม กลับมีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังจากที่เธอเชิญแขกในบริษัท 50 คน มาร่วมปาร์ตี้ฉลองครบเดือนของหลาน แต่กลับมีคนโผล่มาที่งานเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น
ด้วยความไม่พอใจ นางหลี่จึงเข้าส่งข้อความไปต่อว่าทุก ๆ คนที่ไม่เคารพเธออีกต่อไป แต่ใครจะคิดว่าคำตอบที่ได้รับทำให้เธอถึงกับหน้าชา พูดอะไรไม่ออก ได้แต่กล่าวโทษตัวเองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
รายงานเผยว่า นางหลี่ ตัดสินใจเกษียณตัวเองก่อนกำหนด ในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อหวังจะได้มีเวลาใช้ชีวิตและได้ดูแลลูกหลานให้มากขึ้น โดยเธอนั้นมีลูกสาวอยู่ 3 คน ทั้งหมดแต่งงานแล้ว จึงไม่แปลกที่เธออยากจะใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินในหลังเกษียณกับครอบครัว
เนื่องจากนางหลี่เคยมีตำแหน่งใหญ่และเป็นที่เคารพรักในบริษัท ก่อนหน้านี้ทุก ๆ ครั้งที่ลูกสาวของเธอแต่งงาน เพื่อนร่วมงานและลูกน้องต่างกระตือรือร้นในการมาร่วมงานตามคำเชิญเสมอ บางคนยังแวะไปทักทายเธอที่บ้านด้วย อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เธอลาออก ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 หลานชายที่เกิดจากลูกสาวคนโต อายุครบ 1 เดือน ครอบครัวของนางหลี่ตัดสินใจจัดปาร์ตี้ฉลองครบ 1 เดือน เพื่อให้หลานชายได้มีความสงบสุขตามความเชื่อ นางหลี่วางแผนเชิญเพื่อนร่วมงานและอดีตลูกน้องมา 50 คน และไม่ลังเลที่จะใช้เงินอีกหลายหมื่นหยวนในการจัดงาน เพื่อสร้างความบันเทิงแก่ทุก ๆ คนในงาน อาหารแต่ละจานในปาร์ตี้มีมูลค่าร่วม 3,000 หยวน (ราว 14,000 บาท)
จนเมื่อถึงวันจัดงาน ทั้งครอบครัวของเธอก็ตื่นเต้นและมีความสุขมาก นางหลี่ยังเรียกให้ลูก ๆ หลาน ๆ มายืนรอต้อนรับแขกใกล้ ๆ ประตู แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับไม่พบว่าคนจากบริษัทของนางหลี่มาร่วมงานเลย จนถึงจุดหนึ่งเธอจึงโทร. ไปถามผู้จัดการฝ่ายบริหาร และได้รับคำอธิบายว่าเนื่องจากงานที่ยุ่งมาก ทุก ๆ คนที่ได้รับเชิญจึงไม่สามารถไปร่วมงานได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคืออดีตผู้ช่วยของนางหลี่ ที่อยู่ระหว่างเดินทาง
ได้ยินแบบนั้นนางหลี่ก็ประหลาดใจและสับสน ต่อมาเมื่อ นางจาง อดีตผู้ช่วยของนางหลี่มาถึงที่งาน ก็แสดงท่าทีแบบอาย ๆ เมื่อถามว่าทำไมถึงมางานคนเดียว นางจางก็ตอบเพียงว่าทุกคนงานยุ่งอยู่ มาร่วมงานไม่ได้ หลังจากนั้นนางจางก็มอบซองให้แก่นางหลี่ และขอตัวกลับทันที โดยบอกว่าเธอยังมีงานอีกมากมายที่ยังจัดการไม่เสร็จ
สำหรับ นางจาง เคยทำงานให้กับนางหลี่มานานกว่า 30 ปี
และเตรียมจะลาออกปีหน้า ผู้ช่วยคนนี้เป็นคนจริงใจ ทำงานหนัก
และมีหน้าที่การงานที่ดีได้เพราะนางหลี่
แต่ท่าทีของนางจางตอนนี้ทำให้นางหลี่รู้สึกประหลาดใจ
เมื่องานจบลงเธอเปิดดูซองที่นางจางให้ ก็พบเงินเพียง 200 หยวน (ราว 930
บาท) ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางจางมักใส่ซองให้เธอ 500 หยวน (ราว 2,300 บาท)
เสมอ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นางหลี่คิดว่าอดีตผู้ช่วยและเพื่อนร่วมงานไม่เคารพในตัวเธออีกต่อไป เธอจึงส่งข้อความไปต่อว่าทุก ๆ คนในกลุ่มแชตเก่าของบริษัท เธอบอกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในงานและช่วยเหลือผู้คนมากมาย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคน แต่หลังเกษียณตัวเองทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ตอนนั้นเองที่พนักงานคนหนึ่งส่งข้อความกลับมาว่า "เราไม่ปฏิเสธในความมีส่วนร่วมและความทุ่มเทของคุณต่อพนักงานและบริษัท อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงเล็ก ๆ ในครอบครัวอย่างปาร์ตี้ฉลองครบเดือน ไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่จะเชิญคนทั้งบริษัท ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็น เลยไม่ได้ไป ต้องขอโทษด้วยที่การตัดสินใจของฉันทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ"
ขณะที่อีกคนระบุว่า "คุณหลี่ ใจเย็นก่อน ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญจึงไม่มีเวลาไปร่วมปาร์ตี้ฉลองเดือนของคุณ ตอนนี้เรากำลังเจอความลำบากในเรื่องงานมาก และการเงินของเราก็ไม่มั่นคง จึงไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่ไม่จำเป็น"
ทั้งนี้ หลังได้อ่านข้อความจากอดีตเพื่อนร่วมงาน นางหลี่ก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่รู้จักกาลเทศะ ที่เชิญทุกคนมาร่วมงานฉลองเดือนของหลาน ดังนั้นใน 2 วันต่อมา เธอจึงส่งข้อความไปขอโทษทุก ๆ คนในกลุ่มแชต แล้วก็ออกจากกลุ่มไป
เหตุการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกผิดมาก มองว่าเธอยังยึดติดกับความรุ่งเรืองในอดีต จนเผลอตัดสินใจอย่างขาดการไตร่ตรองและดูหมิ่นผู้อื่น และบอกตัวเองว่าจะใช้ชีวิตแบบคนปกติหลังจากนี้ เป็นแม่และยายที่สุภาพ จิตใจดีต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้่อหา
ด้วยความไม่พอใจ นางหลี่จึงเข้าส่งข้อความไปต่อว่าทุก ๆ คนที่ไม่เคารพเธออีกต่อไป แต่ใครจะคิดว่าคำตอบที่ได้รับทำให้เธอถึงกับหน้าชา พูดอะไรไม่ออก ได้แต่กล่าวโทษตัวเองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
รายงานเผยว่า นางหลี่ ตัดสินใจเกษียณตัวเองก่อนกำหนด ในเดือนมีนาคม 2565 เพื่อหวังจะได้มีเวลาใช้ชีวิตและได้ดูแลลูกหลานให้มากขึ้น โดยเธอนั้นมีลูกสาวอยู่ 3 คน ทั้งหมดแต่งงานแล้ว จึงไม่แปลกที่เธออยากจะใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินในหลังเกษียณกับครอบครัว
เนื่องจากนางหลี่เคยมีตำแหน่งใหญ่และเป็นที่เคารพรักในบริษัท ก่อนหน้านี้ทุก ๆ ครั้งที่ลูกสาวของเธอแต่งงาน เพื่อนร่วมงานและลูกน้องต่างกระตือรือร้นในการมาร่วมงานตามคำเชิญเสมอ บางคนยังแวะไปทักทายเธอที่บ้านด้วย อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เธอลาออก ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
โดยในเดือนพฤษภาคม 2565 หลานชายที่เกิดจากลูกสาวคนโต อายุครบ 1 เดือน ครอบครัวของนางหลี่ตัดสินใจจัดปาร์ตี้ฉลองครบ 1 เดือน เพื่อให้หลานชายได้มีความสงบสุขตามความเชื่อ นางหลี่วางแผนเชิญเพื่อนร่วมงานและอดีตลูกน้องมา 50 คน และไม่ลังเลที่จะใช้เงินอีกหลายหมื่นหยวนในการจัดงาน เพื่อสร้างความบันเทิงแก่ทุก ๆ คนในงาน อาหารแต่ละจานในปาร์ตี้มีมูลค่าร่วม 3,000 หยวน (ราว 14,000 บาท)
จนเมื่อถึงวันจัดงาน ทั้งครอบครัวของเธอก็ตื่นเต้นและมีความสุขมาก นางหลี่ยังเรียกให้ลูก ๆ หลาน ๆ มายืนรอต้อนรับแขกใกล้ ๆ ประตู แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับไม่พบว่าคนจากบริษัทของนางหลี่มาร่วมงานเลย จนถึงจุดหนึ่งเธอจึงโทร. ไปถามผู้จัดการฝ่ายบริหาร และได้รับคำอธิบายว่าเนื่องจากงานที่ยุ่งมาก ทุก ๆ คนที่ได้รับเชิญจึงไม่สามารถไปร่วมงานได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคืออดีตผู้ช่วยของนางหลี่ ที่อยู่ระหว่างเดินทาง
ได้ยินแบบนั้นนางหลี่ก็ประหลาดใจและสับสน ต่อมาเมื่อ นางจาง อดีตผู้ช่วยของนางหลี่มาถึงที่งาน ก็แสดงท่าทีแบบอาย ๆ เมื่อถามว่าทำไมถึงมางานคนเดียว นางจางก็ตอบเพียงว่าทุกคนงานยุ่งอยู่ มาร่วมงานไม่ได้ หลังจากนั้นนางจางก็มอบซองให้แก่นางหลี่ และขอตัวกลับทันที โดยบอกว่าเธอยังมีงานอีกมากมายที่ยังจัดการไม่เสร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นางหลี่คิดว่าอดีตผู้ช่วยและเพื่อนร่วมงานไม่เคารพในตัวเธออีกต่อไป เธอจึงส่งข้อความไปต่อว่าทุก ๆ คนในกลุ่มแชตเก่าของบริษัท เธอบอกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในงานและช่วยเหลือผู้คนมากมาย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคน แต่หลังเกษียณตัวเองทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
ตอนนั้นเองที่พนักงานคนหนึ่งส่งข้อความกลับมาว่า "เราไม่ปฏิเสธในความมีส่วนร่วมและความทุ่มเทของคุณต่อพนักงานและบริษัท อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงเล็ก ๆ ในครอบครัวอย่างปาร์ตี้ฉลองครบเดือน ไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่จะเชิญคนทั้งบริษัท ส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องจำเป็น เลยไม่ได้ไป ต้องขอโทษด้วยที่การตัดสินใจของฉันทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ"
ขณะที่อีกคนระบุว่า "คุณหลี่ ใจเย็นก่อน ทุกคนยุ่งอยู่กับเรื่องสำคัญจึงไม่มีเวลาไปร่วมปาร์ตี้ฉลองเดือนของคุณ ตอนนี้เรากำลังเจอความลำบากในเรื่องงานมาก และการเงินของเราก็ไม่มั่นคง จึงไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงที่ไม่จำเป็น"
ทั้งนี้ หลังได้อ่านข้อความจากอดีตเพื่อนร่วมงาน นางหลี่ก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกตัวว่าตัวเองไม่รู้จักกาลเทศะ ที่เชิญทุกคนมาร่วมงานฉลองเดือนของหลาน ดังนั้นใน 2 วันต่อมา เธอจึงส่งข้อความไปขอโทษทุก ๆ คนในกลุ่มแชต แล้วก็ออกจากกลุ่มไป
เหตุการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกผิดมาก มองว่าเธอยังยึดติดกับความรุ่งเรืองในอดีต จนเผลอตัดสินใจอย่างขาดการไตร่ตรองและดูหมิ่นผู้อื่น และบอกตัวเองว่าจะใช้ชีวิตแบบคนปกติหลังจากนี้ เป็นแม่และยายที่สุภาพ จิตใจดีต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha