แม่ตั้งครรภ์แฝด 9 หลังพบมีภาวะตั้งครรภ์ยาก สุดเศร้าต้องยอมสละไป 7 จนล่าสุดสูญเสียลูกอีก 2 คนที่เหลือ สุดสะเทือนใจมองเห็นแต่ความมืดมน คนให้กำลังใจ

วันที่ 28 มกราคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า
เรื่องราวของว่าที่คุณแม่รายหนึ่ง
ที่ต้องพบกับความสูญเสียในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน หลังการตั้งครรภ์แฝด 9
กลายมาเป็นข่าวสะเทือนใจที่ถูกพูดถึงกันทั่วโซเชียลมีเดียของจีน
นางโหว หญิงวัย 25 ปี จากเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ตกเป็นข่าวดังทั่วประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อเธอได้ตั้งครรภ์ทารกแฝด 9 แต่แพทย์แนะนำให้เธอเข้ารับการทำแท้ง ลดจำนวนลูกในครรภ์จาก 9 เหลือ 2 คน โดยมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 40,000 หยวน (ราว 188,000 บาท) อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอยอมทำตามคำแนะนำของแพทย์ ตอนนี้เธอต้องยอมยุติการตั้งครรภ์ลูกที่เหลืออีก 2 คน เนื่องจากมีภาวะติดเชื้อร้ายแรง
รายงานระบุว่า เดิมทีนางโหวมีภาวะตั้งครรภ์ยาก เนื่องจากปัญหาซีสต์ในมดลูกและติ่งเนื้อในโพรงมดลูก แพทย์จึงแนะนำให้เธอฉีดยากระตุ้นไข่ กระทั่งเดือนตุลาคม 2567 นางโหวก็สามารถตั้งครรภ์ได้สมใจ โดยมีตัวอ่อนทารกในครรภ์ถึง 9 ตัว
เธอเข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดจำนวนตัวอ่อนเหลือ 2 ตัว และออกจากโรงพยาบาลตอนสิ้นเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่ตัวอ่อนที่เหลือยังเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตรวจครรภ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 กลับพบว่านางโหวมีการติดเชื้อที่ปากมดลูก และมีภาวะน้ำคร่ำแตก นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่คาดไม่ถึง
"หมอบอกว่าการติดเชื้อนั้นรุนแรงเกินไป และมีความเสี่ยงสูง เราต้องเลือกที่จะช่วยชีวิตผู้ใหญ่ โดยยอมสละทารกไป หากเราไม่ทำอะไรอย่างทันท่วงที ชีวิตของแม่อาจตกอยู่ในอันตราย" สามีของนางโหว กล่าว
ทั้งนี้ นางโหวยังกล่าวว่า ภาวะน้ำคร่ำแตกเป็นเหมือนสิ่งกดดันให้เธอไม่สามารถหันหลังกลับไป น่าเศร้าที่เธอไม่เคยได้สัมผัสความสุขจากการเป็นแม่คนเลย แต่ต้องประสบกับความทุกข์ในการสูญเสียลูกซะแล้ว
ทั้งนี้ ข่าวการสูญเสียของนางโหวได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คน โดยมีคนแสดงความคิดเห็น เช่น "น่าเสียดาย แต่ไม่ต้องเครียดไปนะน้องสาว ดูแลร่างกายของคุณให้ดี คุณจะได้ต้อนรับการกลับมาของลูก ๆ ในอนาคต"
"ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ ฉันเองก็ตั้งครรภ์แฝด 3 และต้องลดจำนวนตัวอ่อนไป 1 ตัว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถเก็บลูกไว้ได้สักคน อาจจะเพราะการติดเชื้อ มันเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน และฉันยังคงใจสลายทุกครั้งเมื่อคิดถึงมัน"