นาทีสะเทือนขวัญ เด็กหญิงวัย 12 เล่นจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อระบายน้ำ ฝาท่อระเบิดแรงปะทะตัวลอยขึ้นฟ้า 4 วินาที ก่อนร่วงกระแทกพื้น
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
วันที่ 30 มกราคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday เกิดเหตุการณ์น่าตกใจขึ้นที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนที่ผ่านมา เมื่อเด็กหญิงวัย 12 ปี เล่นจุดประทัดใส่ท่อระบายน้ำ จนทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง และแรงระเบิดทำให้ร่างของเธอลอยขึ้นไปกลางอากาศถึง 4 วินาที ก่อนตกลงมากระแทกพื้น
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุแถวจินกุ้ยพลาซ่า ย่านชุมชนหลงสุ่ย สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยแสดงให้เห็นว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.40 น. เด็กหญิงคนหนึ่งได้เข้าไปนั่งยอง ๆ จุดประทัดใส่ท่อระบายน้ำ ซึ่งมีทั้งน้ำ น้ำมัน และแก๊สที่หมักหมมจากของเสีย โดยในขณะนั้นก็มีชาวเมืองคนอื่น ๆ เดินไปมาอยู่ไม่ไกลออกไปจากบริเวณนั้นด้วย
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
หลังจากเด็กหญิงรายดังกล่าวจุดประทัดและโยนใส่ท่อระบายน้ำเสร็จ เธอก็รีบวิ่งหนีออกมา ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เด็กหญิงถูกแรงอัดของระเบิดปะทะเข้ากับร่างกายอย่างจัง จนร่างลอยขึ้นฟ้าไปนานถึง 4 วินาที ก่อนที่จะลงตกลงมายังพื้นอีกฝั่ง และเกือบจะทับตัวชายอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมไปถึงฝาท่อและแผ่นกระเบื้องก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดด้วยเช่นกัน
รายงานสื่อท้องถิ่นระบุว่า เด็กหญิงถูกแรงระเบิดจนตกลงมานอนแน่นิ่ง ก่อนจะมีคนแจ้งรถฉุกเฉินพาตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการบาดเจ็บของเธอไม่ถึงแก่ชีวิต ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ และติดตามการรักษาอาการของเด็กหญิงรายนี้ ส่วนคนอื่น ๆ นอกจากจากเธอ ไม่มีรายงานว่าได้รับอันตราย
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของจีน หลายคนวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมการเล่นพิเรนทร์ของเด็กหญิงรายนี้ หากโชคไม่ดี เธอรวมไปถึงคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอาจจะได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ และในขณะเดียวกันก็ตำหนิไปยังผู้ปกครองที่ละเลยไม่ให้ความสนใจ ปล่อยให้บุตรหลานออกมาเป็นอันตรายต่อสังคมเช่นนี้
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
![สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ สะเทือนขวัญ เด็กจุดประทัดตรุษจีนใส่ท่อ]()
ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday

ภาพจาก Weibo
วันที่ 30 มกราคม 2568 เว็บไซต์ ETtoday เกิดเหตุการณ์น่าตกใจขึ้นที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนที่ผ่านมา เมื่อเด็กหญิงวัย 12 ปี เล่นจุดประทัดใส่ท่อระบายน้ำ จนทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง และแรงระเบิดทำให้ร่างของเธอลอยขึ้นไปกลางอากาศถึง 4 วินาที ก่อนตกลงมากระแทกพื้น
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุแถวจินกุ้ยพลาซ่า ย่านชุมชนหลงสุ่ย สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ โดยแสดงให้เห็นว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.40 น. เด็กหญิงคนหนึ่งได้เข้าไปนั่งยอง ๆ จุดประทัดใส่ท่อระบายน้ำ ซึ่งมีทั้งน้ำ น้ำมัน และแก๊สที่หมักหมมจากของเสีย โดยในขณะนั้นก็มีชาวเมืองคนอื่น ๆ เดินไปมาอยู่ไม่ไกลออกไปจากบริเวณนั้นด้วย

ภาพจาก Weibo
หลังจากเด็กหญิงรายดังกล่าวจุดประทัดและโยนใส่ท่อระบายน้ำเสร็จ เธอก็รีบวิ่งหนีออกมา ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง เด็กหญิงถูกแรงอัดของระเบิดปะทะเข้ากับร่างกายอย่างจัง จนร่างลอยขึ้นฟ้าไปนานถึง 4 วินาที ก่อนที่จะลงตกลงมายังพื้นอีกฝั่ง และเกือบจะทับตัวชายอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมไปถึงฝาท่อและแผ่นกระเบื้องก็ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดด้วยเช่นกัน
รายงานสื่อท้องถิ่นระบุว่า เด็กหญิงถูกแรงระเบิดจนตกลงมานอนแน่นิ่ง ก่อนจะมีคนแจ้งรถฉุกเฉินพาตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการบาดเจ็บของเธอไม่ถึงแก่ชีวิต ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ และติดตามการรักษาอาการของเด็กหญิงรายนี้ ส่วนคนอื่น ๆ นอกจากจากเธอ ไม่มีรายงานว่าได้รับอันตราย

ภาพจาก Weibo
คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนแรงบนสังคมออนไลน์ของจีน หลายคนวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมการเล่นพิเรนทร์ของเด็กหญิงรายนี้ หากโชคไม่ดี เธอรวมไปถึงคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องอาจจะได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ และในขณะเดียวกันก็ตำหนิไปยังผู้ปกครองที่ละเลยไม่ให้ความสนใจ ปล่อยให้บุตรหลานออกมาเป็นอันตรายต่อสังคมเช่นนี้

ภาพจาก Weibo

ภาพจาก Weibo

ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday