ตำรวจรวบหญิงไทย วัย 52 เปิดบัญชีธนาคารให้คนไนจีเรียแก๊งโรแมนซ์สแกม โกงเงินบริษัทดัง 6,200 ล้าน
![จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 สวพ.FM91 รายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม หญิงไทย อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับฐาน "อั้งยี่, ซ่องโจร, มีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงิน" โดยจับกุมได้บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 ผู้ต้องหารายนี้ เดินทางไปทำงานที่ร้านนวดในประเทศมาเลเซีย และพบรักกับหนุ่มชาวไนจีเรีย ผ่านการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน จากนั้นแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียได้รับผู้ต้องหามาอยู่ด้วยกันและเป็นฝ่ายดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยที่ผู้ต้องหาไม่ต้องทำงาน
![จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
หลังจากอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี แฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย อ้างว่าอยากเปิดบริษัททำธุรกิจในไทย จึงชักชวนให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีให้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน โดยให้เหตุผลว่า ตนเองเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยได้ โดยจะได้รับค่าตอบแทน บัญชีละ 6,500 บาท ผู้ต้องหา จึงเปิดบัญชีไว้หลายบัญชี และมอบบัญชีให้แฟนหนุ่มชาวไนจีเรียเป็นผู้ดำเนินการ ฝาก-ถอน ทั้งหมด
จากการสืบสวนของพบว่า
บัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาเปิดให้กับแฟนชาวไนจีเรีย
เป็นบัญชีธนาคารที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับบริษัทซึ่งมีการรับโอนเงินเกี่ยวข้องกับคดีของผู้ต้องหากับพวก
ร่วมกันลักทรัพย์เอาเงินของบริษัทอื่น
โดยที่มีการลักลอบโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของบริษัทดังกล่าวจำนวนหลายครั้ง
ทำให้บริษัทดังกล่าว ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 6,223,872,674.31 บาท
จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา
![จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม จับหญิงไทย เปิดบัญชีให้แก๊งโรแมนซ์สแกม]()
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
ต่อมา ผู้ต้องหา หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมื่อตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเยี่ยมลูกซึ่งเดินทางจากประเทศมาเลเซีย มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ
ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาและนำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.FM91

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 สวพ.FM91 รายงานว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม หญิงไทย อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับฐาน "อั้งยี่, ซ่องโจร, มีส่วนรวมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันฟอกเงิน" โดยจับกุมได้บริเวณห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2560 ผู้ต้องหารายนี้ เดินทางไปทำงานที่ร้านนวดในประเทศมาเลเซีย และพบรักกับหนุ่มชาวไนจีเรีย ผ่านการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน จากนั้นแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียได้รับผู้ต้องหามาอยู่ด้วยกันและเป็นฝ่ายดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยที่ผู้ต้องหาไม่ต้องทำงาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
หลังจากอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี แฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย อ้างว่าอยากเปิดบริษัททำธุรกิจในไทย จึงชักชวนให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีให้ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน โดยให้เหตุผลว่า ตนเองเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในประเทศไทยได้ โดยจะได้รับค่าตอบแทน บัญชีละ 6,500 บาท ผู้ต้องหา จึงเปิดบัญชีไว้หลายบัญชี และมอบบัญชีให้แฟนหนุ่มชาวไนจีเรียเป็นผู้ดำเนินการ ฝาก-ถอน ทั้งหมด

ภาพจาก เฟซบุ๊ก เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand
ต่อมา ผู้ต้องหา หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมื่อตำรวจทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเยี่ยมลูกซึ่งเดินทางจากประเทศมาเลเซีย มายังท่าอากาศยานหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุมและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ
ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาและนำส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ขอบคุณข้อมูลจาก สวพ.FM91